การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้(30พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมครม. โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เข้าร่วมประชุมด้วยภายหลังลาป่วยไป 2 สัปดาห์ เพื่อรักษาอาการป่วย

             จับตาพล.อ.ประยุทธ์ มอบแนวทางรวบรวมคำตอบจาก 4 คำถาม ที่ให้ประชาชนตอบ โดยจะให้ศูนย์ดำรงธรรมรวบรวมก่อนส่งให้กระทรวงมหาดไทยประเมินผล

           กระทรวงคมนาคม เสนอขออนุมัติ การลงนามสัญญาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร วงเงินราว 5.4 หมื่นล้านบาท และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว–สำโรง มีระยะทาง 30.4 กิโลเมตร วงเงินราว 5.2 หมื่นล้านบาท

             หาก ครม.อนุมัติตามก็จะสามารถเริ่มขั้นตอนการลงนามสัญญากลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR joint Venture) ที่ได้รับสัมปทานพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าดังกล่าวในเดือนมิ.ย.นี้ และดำเนินการก่อสร้างภายในเดือน ก.ค.

กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอให้ที่ประชุมรับทราบการลงนามร่วมกันระหว่าง กระทรวงอุตสาหกรรมกับกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม หรือ METI ของญี่ปุ่น เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 ของไทยเชื่อมโยงกับกลุ่ม CLMV ยกระดับการดูแลสินค้าต้นทางจนถึงการจำหน่ายออกสู่ตลาด ในโอกาสที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีจะเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 4-8 มิถุนายนนี้

          คณะรัฐมนตรี จะพิจารณาร่างพระราชกำหนดการประมง ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว เพื่อแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายปลดใบเหลือง หรือ ประเทศที่มีแนวโน้มว่าจะไม่ให้ความร่วมมือกับการป้องกันและขจัดการทำประมงที่ชอบด้วยกฎหมายโดยเร็ว และมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การทำประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยให้ประมงพื้นบ้านสามารถออกไปทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่งได้ และเสนอให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับโครงการพัฒนาเคหะชุมชนคลองเตยระยะที่ 3 เพื่อให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยสามารถนำอาคารแฟลตที่สร้างให้ชาวชุมชน มาบริหารจัดการด้านที่อยู่อาศัยให้แก่พนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย เนื่องจาก ยังมีแฟลตเหลือไม่มีผู้เข้าพักอาศัย

        ขออนุมัติขยายกรอบวงเงินงบประมาณและระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองแม่สอดพร้อมสะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่ 2 จังหวัดตาก ของกรมทางหลวง จากเดิม 3,900 ล้านบาทเป็น 4,267.57 ล้านบาท