ประชาชนว่างัย...“วัฒนา”ท้าถ้าเห็นว่า“บิ๊กตู่”บริหารปท.ดีให้เลือก“ประชาธิปัตย์”อ้างพวกเดียวกัน แต่หากชอบปชต.มีอยู่พรรคเดียวคือ“เพื่อไทย”???
จากกรณีนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาเสนอให้ 4 พรรคการเมืองสงบศึกกันและร่วมจับมือกันต่อสู้กับพรรคทหาร รวมทั้งการที่แกนนำกปปส.จำนวน8คนได้เดินทางกลับเข้าทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์เพื่อใช้แนวทางการต่อสู่ในระบบรัฐสภา ต่อมานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ปฏิเสธข้อเสนอของนายพิชัยที่จะให้ร่วมกับอีก3พรรคใหญ่สู้กับทหารนั้น
าสุดวันนี้นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีความเคลื่อนไหวต่างๆที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยอ้างว่าถึงที่สุดแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นพวกเดียวกับทหาร พร้อมทั้งท้าให้ประชาชนเลือกระหว่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.หากเห็นว่าบริหารประเทศดี ก็ให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ แต่ถ้าชอบประชาธิปไตยก็เลือกพรรคเพื่อไทยเพราะมีอยู่พรรคเดียว ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดระบุไว้ดังนี้
"ชัดเจนเสียที"
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา อดีตหัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่งได้ให้แนวทางการต่อสู้กับเผด็จการทหาร โดยเสนอให้ 4 พรรคการเมืองผนึกกำลังจัดตั้งรัฐบาลต่อสู้กับรัฐบาลทหารเพื่อรักษาประชาธิปไตยไว้ให้ได้ ไม่เช่นนั้นต้องทนอยู่กับรัฐบาลทหารตามยุทธศาสตร์ชาติอีก 20 ปี เสมือนเป็นสัญญาณที่ดีว่าพรรคการเมืองที่เคยได้รับการอุปถัมภ์จากทหารให้ตั้งรัฐบาล สมาชิกพรรคที่เคยออกมาก่อม็อบข้างถนนขับไล่รัฐบาลที่มาจากประชาชนและสนับสนุนให้ทหารออกมายึดอำนาจจนบ้านเมืองเสียหายยับเยิน จะสำนึกตัวกลับมายืนบนถนนสายประชาธิปไตยอีกครั้ง
ไม่ทันสิ้นเสียงของอดีตหัวหน้าพรรค ก็เกิดปรากฏการณ์ทางการเมืองหลายอย่างโดยบังเอิญ ได้แก่ อัยการสั่งไม่ฟ้องบริษัทรับเหมาในคดีฮั้วประมูลการก่อสร้างโรงพักร้าง 396 แห่งโดยเห็นว่าไม่มีเจตนาทุจริต ซึ่งต่อมาก็คงจะสั่งไม่ฟ้องอดีตเลขาธิการพรรคที่เชียร์หัวหน้า คสช. ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป จากนั้นก็เกิดการรวมตัวของแกนนำ กปปส. กับพรรคการเมืองดังกล่าวทั้งที่กลุ่มคนพวกนี้เคยประกาศที่จะไม่หวนคืนการเมือง (ตามลิ้งค์ท้ายบทความ) ที่น่าชื่นใจคือรอง นรม. ฝ่ายความมั่นคงเห็นว่าทั้งหมดเป็นการมากินกาแฟกันธรรมดาไม่ใช่การรวมกลุ่มทางการเมืองเกินกว่า 5 คน ทั้งที่เรื่องที่คุยกันคือการเมืองล้วนๆ ตามมาด้วยหัวหน้าพรรคประกาศจุดยืนว่าพรรคมีเป้าหมายตรงกับ กปปส. นั่นคือการยึดแนวทาง กปปส. ต่อไป จึงเป็นอันสิ้นสงสัยว่าพรรคการเมืองนี้มีจุดยืนทางการเมืองอย่างไร
สำหรับพรรคเพื่อไทยก็คงไม่มีอะไรให้ต้องสงสัย เพราะมีจุดยืนที่ชัดเจนมาตลอดว่าอยู่ข้างประชาธิปไตยตรงข้ามกับเผด็จการ แม้ราคาที่ต้องจ่ายจะมากมายมหาศาลถึงขั้นเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ต้องถูกอุ้มจนเสียอิสรภาพหลายครั้งก็ไม่เคยเปลี่ยนที่ยืน ที่เหลือคงเป็นหน้าที่ของประชาชนที่จะเลือกว่าจะให้ประเทศไทยอยู่ตรงไหนในอนาคต ถ้าชอบเผด็จการหรือเห็นว่า คสช. บริหารประเทศดีบ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง ก็เลือกพรรคนี้ได้เลยเพราะแสดงตัวออกมาชัดเจนแล้ว ถ้าชอบประชาธิปไตยก็ไม่ต้องคิดเพราะมีพรรคเดียวที่ประกาศตัวว่าอยู่ตรงข้ามเผด็จการ
วัฒนา เมืองสุข
พรรคเพื่อไทย
2 มิถุนายน 2560