ส่องชีวิตการกินอยู่ ดร.มหาธีร์ มูฮัมหมัด : นายกรัฐมนตรีที่แก่ที่สุดในโลก

วันที่ 13 มิถุนายน 2561

ขณะที่คนในวัย 80 ปีหรือ 90 ปีขึ้นไปจำนวนไม่น้อยต่างนั่งๆนอนๆคิดถึงแต่เรื่องความตายและใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมาย แต่ ดร.มหาธีร์ มูฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีคนใหม่และเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ครองตำแหน่งยาวนานของประเทศมาเลเซีย กลับยังคงมีความมุ่งมั่นอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องกลับมาสู่ถนนสายการเมืองให้จงได้และในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จจนกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุมากที่สุดของโลกในวัย 92 ปี ทำลายสิถิติที่ Guinness World Records บันทึกไว้ว่า นายกรัฐมนตรี โมราจิ เดซาย ของอินเดีย เป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุมากที่สุดในโลกในวัย 81 ปี

ดร.มหาธีร์ มูฮัมหมัด เคยให้สัมภาษณ์กับนักข่าว thestar.com เมื่อตอนเขาอายุ 88 ปี ขณะไปร่วมพิธีเปิดกิจกรรมการเดินเพื่อสุขภาพ ครั้งหนึ่งว่า เคล็ดลับการมีสุขภาพดีของเขานั้นมีอยู่แค่สามอย่าง คือ ไม่กินจนล้น ไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อมีใครมาถามเรื่องเคล็ดลับของการมีสุขภาพที่ดี เขาจึงมักจะบอกทุกคนว่าเขาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในเรื่องการกินอยู่สามอย่างนี้เท่านั้น เขามักจะบอกกับผู้คนที่เขาพบปะอยู่เสมอว่าเขาจะกินอาหารแค่พออิ่มไม่ว่าอาหารจานนั้นจะอร่อยมากมายสักเพียงใดก็ตาม

นายกรัฐมนตรีในวัย 92 ปี มีความเชื่อว่า คนเราถ้ายิ่งกินมากกระเพาะอาหารของเราจะขยายตัวและเคยชินต่อการกินในปริมาณมากซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยและจะเป็นปัญหาต่อสุขภาพในที่สุด การที่กระเพาะอาหารขยายตัวและเรามีนำหนักเพิ่มขึ้น ตัวใหญ่ขึ้น หัวใจของเราก็จะทำงานหนักขึ้นและจะเกิดปัญหาแก่หัวใจได้ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

ดังนั้นการกินแต่เพียงพอดีจึงเป็นวิถีที่เขาปฏิบัติมาตลอดหลายสิบปีเพื่อรักษาหัวใจให้ทำงานปกติและไม่ทำกิจกรรมใดที่ส่งผลร้ายต่อหัวใจของตัวเองหรือกิจกรรมที่ทำให้หัวใจทำงานหนักเกินไป ดร.มหาธีร์ เคยเป็นโรคหัวใจและ โรคปอดบวม แต่เขาก็ผ่านพ้นวิกฤติเหล่านั้นจนได้มายืนบนจุดสูงสุดอีกครั้ง เขาเคยบอกกับสำนักข่าว The Sunday Times ว่า เขาใช้ชีวิตการกินอยู่คล้ายกับลิง เพราะได้มีการพิสูจน์แล้วว่าลิงที่กินแคลอรี่ในประมาณที่น้อยจะมีอายุที่ยืนยาวกว่า

แม้ว่าเขาจะเข้มงวดเรื่องอาหารการกิน แต่กิจกรรมโปรดอย่างหนึ่งของ ดร.มหาธีร์คือการทำอาหารเองเพราะนอกจากจะปรุงในสิ่งที่ตัวเองชอบกินแล้วการทำอาหารยังเป็นยาลดความเครียดอย่างดีอีกด้วย แม่ครัวแห่งทำเนียบประธานาธิบดีมาเลเซียคนหนึ่งเคยเล่าให้นักข่าวฟังว่า ดร.มหาธีร์ เป็นคนติดดินในเรื่องอาหารการกิน บางครั้งเขาออกไปจ่ายตลาดเองเพื่อเลือกวัตถุดิบมาปรุงอาหารและอาหารที่เขาทำได้อร่อยก็คือ ข้าวผัด ชาบู-ชาบู และบะหมี่ที่เรียกว่า มิบันดุง(mi bandung)

ดร.มหาธีร์และครอบครัวกินอาหารแบบง่ายๆซึ่งเป็นอาหารทั่วๆไปที่แม่ครัวจัดให้ แต่สิ่งหนึ่งที่แม่ครัวต้องรู้ก็คือ ดร. มหาธีร์ไม่เคยกิน ปลาสด(Fresh fish) เพราะจำคำที่แม่เคยบอกไว้ตั้งแต่เด็กว่า การกินปลาสดทำให้โง่ นับจากนั้นมาเขาก็ไม่เคยกินปลาสดอีกเลยแต่เขามักชอบกินปลาแห้งและกลับชอบกินเนื้อปลาแล่สไตล์ญี่ปุ่น คำที่เขายังจำได้ไม่ลืมจากปากของแม่อีกอย่างหนึ่งก็คือ จงหยุดกินเมื่ออาหารนั้นเริ่มอร่อย เขาจึงปฏิบัติตามที่แม่สอนเรื่องการจำกัดการกินตลอดมา

ในขณะที่ทั้งโลกนี้รณณรงค์ให้คนกินผัก แต่ ดร.มหาธีร์กลับไม่ชอบกินผัก อาหารของเขาในมื้อเช้ามักเป็นขนมปังกับแยมหรือไข่หรือไม่ก็เป็นขนมปังเสิร์ฟคู่กับแกงพร้อมกาแฟดำหนึ่งแก้ว ส่วนอาหารกลางวันนั้นจะต้องมี น้ำพริกกะปิ (chili sambal belacan) กับน้ำพริกมะพร้าวขูด(Sambal coconut) อยู่บนโต๊ะเสมอ ส่วนอาหารที่ชอบของ ดร.มหาธีร์ ได้แก่ แกงปู เนื้อซอสพริกไทยดำ ข้าวกับเนื้อและเนื้อย่างกับซอสมะขาม

สิ่งหนึ่งที่ ดร.มหาธีร์ รักษาไว้อย่างคงเส้นคงวาก็คือ การรักษาน้ำหนักตัวให้สม่ำเสมอ ตั้งแต่วัยหนุ่มจนถึงปัจจุบันเขามีน้ำหนักตัวอยู่ระหว่าง 62-64 กิโลกรัม เขามักจะพูดอยู่บ่อยๆว่า เขาสามารถที่จะเอาเสื้อผ้าที่เคยใช้เมื่อสามสิบปีที่แล้วมาใส่ได้ในวัยนี้อย่างสบายๆเพราะนำหนักของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้นเลยตลอดเวลาหลายสิบปี

แม้ว่าเขาอยู่ในวัย 92 ปีแล้วหน้าตายังดูอ่อนกว่าวัยมากและยังคงความคล่องแคล่วต่อการทำพิธีทางศาสนา ในขณะที่คนในวัยอ่อนกว่ายังต้องยักแย่ยักยันเพื่อลุกนั่งในพิธีละหมาด แต่ ดร. มหาธีร์ยังคงลุกนั่งในขณะละหมาดได้อย่างไม่ยากนัก

สิ่งที่ทำให้ ดร.มหาธีร์ ยังคงเป็นที่จดจำของผู้คนอยู่เสมอก็คือ เขาไม่เคยหยุดนิ่ง เขามักจะพูดอยู่เสมอว่า เขาไม่มีวันหยุดจากการทำงาน (I've never actually retired) หลังจากที่ก้าวลงจากตำแหน่งเมื่อปี 2003 เขายังคงเดินทางไปทำงานทุกวัน จนกระทั่งก้าวมาถึงวันที่เขาได้รับชัยชนะอย่างที่ตั้งใจไว้

การกลับมายิ่งใหญ่ในฐานะผู้นำสูงสุดของ ดร. มหาธีร์ ไม่ว่าจะเป็นความต้องการโค่นฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ความแค้นส่วนตัวหรือความหวังคนชราก็ตาม ดร. มหาธีร์ มูฮัมหมัดได้พิสูจน์แล้วว่าอายุเป็นเพียงแค่ตัวเลขจริงๆ

การที่เขาเคยเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของมาเลเซียตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้น เขาคิดว่า สำหรับเขาการมีชีวิตเพียงแค่การพักผ่อนนอนหลับและเตรียมตัวตาย นั้นคือการเห็นแก่ตัวเกินไป

แหล่งข่าว:สำนักข่าวอิศรา

เรียบเรียงโดย:www.legendnews.net