หลวงปู่ฤาษีลิงดำ
ปัญญา โดยความหมายทั่วๆไปแล้ว แปลว่าความรู้ที่เกิดขึ้นจากการพินิจพิจารณา
จึงเกิดปัญญาในการพิจารณา
หลวงพ่อครับ การที่ผมดูหนังสือเรียนเที่ยวเดียวแล้วจำได้โดยไม่ต้องท่องแล้วท่องอีกเหมือนคนอื่นเขา
จะเรียกว่า ผมมีปัญญาดีไหมครับ?”
“ไม่ใช่ปัญญาดีหรอก เขาเรียกว่า ความจำดี ต่างหากเล่า” หลวงพ่อตอบเรื่อยๆ
“แล้วคนเรียนเก่งๆที่เขาไปทำปริญญาโท ปริญญาเอก ได้เล่าครับจะยกย่องว่า เขามีปัญญาดีไหมครับ ?”
ข้าพเจ้าถามอย่างไม่ลดละ
“ไม่ใช่ปัญญาดีอีกนั่นแหละ แต่เขามีความจำดีอย่างคุณนั่นแหละ” หลวงพ่อตอบยิ้มๆ
“อ้าว!..หลวงพ่อ ความจำดีก็ต้องมีปัญญาดีไม่ใช่หรือครับ” ข้าพเจ้ารีบถาม
“ความจำดีก็เพราะสมองดี สมองดีก็คือเครื่องบันทึกความจำดี
เหมือนเช่นเครื่องบันทึกเสียงดีหรือเครื่องบันทึกความจำดีของคอมพิวเตอร์ดีนั่นแหละ บันทึกไว้
หากต้องการใช้ก็นึกย้อนเอา รีไวด์เอา หรือกดข้อมูลต่างๆที่บันทึกไว้ก็จะออกมานั่นเอง
เขาไม่เรียกว่าปัญญาดีนะ เขาเรียกว่าสัญญาดีต่างหากเล่าคุณ” หลวงพ่ออธิบาย
“เอ!...เท่าที่ผมจำได้ผมก็ไม่เคยไปให้สัญญากับใครที่ไหนนะครับ” ข้าพเจ้าชักงง
“สัญญา น่ะเขาแปลว่า ความจำได้ อย่างงไปเลย คุณมีความจำดีก็เพราะสัญญาดี
คุณหรือใครก็ตามเรียนหนังสือเก่ง ก็เพราะจำคำสั่งสอนของครูบาอาจาร์ยและผู้รู้ได้ดีกว่าคนอื่น
และเพราะความจำดีนี้เองทำให้มีโอกาสค้นคว้า อ่านตำรับตำราได้มากกว่าคนอื่นและจำได้แม่นยำกว่าคนอื่น
ดังนั้นเมื่อสอบทีไร ใครเขาจะไปสู้คนที่มีความจำดีได้เล่าคุณ แต่อย่าลืมนะถ้าครูเขาสอนผิด
ถ้าตำรับตำราผิด คุณก็จำผิด เหมือนเครื่องบันทึกเสียง
หากป้อนข้อมูลผิดเข้าไปล่ะก็เสร็จเลย มันก็ต้องบันทึกผิดจำผิดด้วยจริงไหม?
“ปัญญา โดยความหมายทั่วๆไปแล้ว แปลว่าความรู้ที่เกิดขึ้นจากการพินิจพิจารณา
หรือจะแปลว่าความเฉลียวฉลาดก็ได้นะ มิใช่รู้อย่างเดียว
ต้องนำเอาความรู้ที่ได้นั้นมาพิจารณาด้วย หรือมิใช่ฉลาดอย่างเดียวต้องมีเฉลียวใจด้วย
จึงจะเกิดความรู้แจ้งเห็นจริงถึงแก่นแท้ของการรู้ในแต่ละอย่างได้นั่นแหละ จึงจะเรียกว่า “ปัญญา”
ตัวอย่างเช่น หากคุณเห็นรถยนต์สวยคันหนึ่งแล่นผ่านมา
คุณก็อาจจะบอกได้ทันทีว่าเป็นรถเบนซ์ รถวอลโว่
รุ่นใด กี่ซีซี. มีสมรรถนะอย่างไร ราคางวดเท่าไร สร้างจากประเทศไหน บริษัทอะไร
เพราะคุณฟังเขามาบ้าง จึงจำได้ด้วยสัญญาดี แต่ด้วยเพราะไม่มีปัญญา
จึงทำให้จิตใจของคุณมีความหวั่นไหว กินไม่ได้นอนไม่หลับ
เนื่องจากความอยากได้ในรถคันที่คุณเห็นขึ้นมา
แต่ถ้าคุณมีความเฉลียวใจ หรือได้มาพินิจพิจารณาให้รู้แจ้งแทงตลอดแล้ว
คุณก็จะเกิดความรู้ใหม่ขึ้นมาว่า รถสวยรุ่นใหม่คันนี้ต่อไปอีก ๓ปีข้างหน้า ก็จะกลายเป็นรุ่นเก่า ไม่ทันสมัยอีกต่อไป
สีที่สวยงามหากกะเทาะออกก็คงจะดูไม่ได้ เบาะอ่อนนุ่มที่สวยเก๋นั้น
หากลอกออกดูภายในก็คงมีสภาพเช่นเดียวกับเบาะนั่งของรถอื่น
และถ้าคุณจะซื้อรถคันนี้ให้ได้ ก็จะต้องเดือดร้อนในการวิ่งเต้นหาเงินทองมา
และแม้เมื่อหาเงินได้แล้ว คุณจะรับภาระหนี้สินไหวไหม
นอกจากนั้น เมื่อคุณได้รถมาขับขี่ ก็คงจะไม่สบายใจนักด้วยเกรงว่าจะถูกรถอื่นชน หรือเฉี่ยวเอา
ยิ่งในตรอกในซอยที่เต็มไปด้วยหลุมด้วยบ่อและฝุ่นเดินหนาทึบแล้ว ก็ยิ่งหนักใจใหญ่
และแม้เอารถให้เด็กล้าง ก็คงจะต้องไปควบคุมแจ
ยิ่งต้องเอารถไปจอดในย่านชุมชน หรือตรอกซอยแคบๆหรือที่เปลี่ยวๆ
ก็คงจะต้องนั่งเฝ้ารถคันใหม่ด้วยความเป็นห่วง หากได้พิจารณาโดยละเอียดเช่นนี้แล้ว
ก็จะเห็นความทุกข์ในรูปแบบต่างๆที่
ความอยากได้ใคร่ดีในรถเบนซ์รูปงามคันนี้ก็ย่อมหมดไป นี่แหละคือ “ปัญญา”ล่ะ
--จากหนังสือสู่แสงธรรม โดย พล.อ.ต.มนูญ ชมภูทีป –