ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




หมอบุญเลิศ ร่ายธรรมะมันส์

"หมอบุญเลิศ"ร่ายธรรมะมันส์ๆ กระตุกวินัย สต็อปละเมิด(สิทธิ)ผู้อื่น ชวนใช้"ปัญญา"ดับ"โง่"

ดูเหมือนว่า   ความเครียดจะกลายเป็นปัญหาหลักสำคัญของมนุษย์ปุถุชนที่ทวีคูณความรุนแรงขึ้นเป็นเท่าตัว จากสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป สวนกระแสกับความเจริญของวัตถุและเทคโนโลยีอันทันสมัย  แต่นั่นนำมาซึ่งรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น ดึงรายได้ให้ถดถอยลง เนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจและสถานะทางสังคมที่ไม่เเท่าเทียมกัน รวมถึงความทะเยอ

ทะยานพุ่งขึ้นตามไปด้วย


จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่หากเมื่อโลกวิวัฒนาการไปไกลเท่าไหร่ แต่ความอดทนของมนุษย์กลับยิ่งต่ำลง  พยายามดิ้นรนเพื่อให้ได้มาอย่างนั้น อย่างนี้ และเมื่อไม่ได้ การยับยั้งชั่งใจย่อมไม่มี  ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์โกรธ ฉุนเฉียวเพียงฉับพลันที่สามารถฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้เพียงแค่เรื่องกระทบกระทั่งเพียงเล็กๆ น้อยๆ หรือการมีความเห็นแตกต่างกันไม่ว่าจะเรื่องอะไร (ก็ตาม)  หรือแม้กระทั่งการไม่มีเงินเพื่อใช้ในการดำรงชีวิต ก็คิดสั้นฆ่าตัวตายด้วยรูปแบบหลากวิธี  หรือจะอกหักรักคุด ไม่สมหวัง ก็หาทางออกด้วยการทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น ตามที่ปรากฎเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ตอย่างทุกวันนี้   เป็นต้น


นั่นบ่งบอกภาวะวิสัยและจิตใจของมนุษย์ที่เข้าขั้นวิกฤต รอยยิ้ม ความรัก  ที่มีให้แก่กันก็จางหายพร้อมกับสติ สัมปัชชัญญะที่หลุดลอยไป มันเกิดอะไรขึ้นกับสังคมมนุษย์  ที่ไร้ทางออกถึงขั้นเตลิดเปิดเปิงไปได้ถึงเพียงนี้หรือ...?

 

 


มีโอกาสได้ไปร่วมนั่งฟังการบรรยายพิเศษของ พลอากาศตรีนายแพทย์ บุญเลิศ จุลเกียรติ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช   ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศูนย์ราชการฯ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา    ซึ่งคุณหมอบุญเลิศได้ผันตัวกลายมาเป็นนักพูดชื่อดัง ที่ตระเวนเดินสายไปเป็นวิทยากรยังองค์กรต่างๆ  เพื่อพูดให้ข้อคิด ผสมธรรมมะด้วยลีลาตลก ขบขัน เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร ตามสไตล์ผู้ชาย(สูงวัย)อารมณ์ดี  ท่ามกลางข้าราชการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่เข้าร่วมรับฟังการอบมรมเรื่อง "คุณธรรม จริยธรรมสำรับผู้บริหารยุคใหม่"จำนวนมาก โดยงานนนี้เรียกเสียงฮาครืน กระชากต่อมความฮาที่ปล่อยผ่านทางเสียงหัวเราะไปได้เต็มๆ ตลอด 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว 


ท่ามกลางยุคแห่งการแข่งขัน  ที่ล้วนแต่มีคนผิดหวัง ท้อแท้ในชีวิต  ปนเปผสมไปกับคนสมหวัง ทำอะไรก็ได้ดีไปหมด สิ่งที่คุณหมอบุญเลิศเปิดประเด็นเป็นอันดับแรกคือ การรู้จักตนเอง  โดยระบุว่า ถ้าอยากให้บ้านเมืองของเรามีความสุข ต้องต่อต้านการละเมิดทุกรูปแบบ คนที่เข้าใจสิทธิหน้าที่จะไม่มีวันละเมิดใคร   สิ่งสำคัญที่คนไทยขาดมากๆ คือ วินัย (พื้นฐานทุกอย่างของชีวิต)  นั่นจึงนำมาสู่การละเมิดสิทธิของผู้อื่น    นอกจากนี้ ยังขาดสติ และวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง  3 อย่างนี้เป็นสิ่งสำคัญ เมื่อไม่มีแล้วก็จะไม่ได้ ปัญญา


"วินัยต่อต้านการละเมิด ถ้าไม่มีปัญญาก็จบเลย นี่คือนวัตกรรมใหม่ของการเรียนรู้ ทุกวันนี้ ในสังคมไทยเหมือนนั่งเรือบนรอยรั่ว เพราะฉะนั้นผมจึงไม่ห่วงการเมืองไทยหลังการเลือกตั้งเลย   ให้ความรู้สึกว่าเหมือนนั่งดูละครน้ำเน่ามากกว่า วินัยเป็นพื้นฐานของความรับผิดชอบ เมื่อมีสองอย่างมารวมกัน มันก็จะกลายเป็นพื้นฐานนของความซื่อสัตย์

สุจริต"


ตัววัดปัญญาของมนุษย์ที่คุณหมอบุญเลิศระบุมี 3 ระดับด้วยกัน คือ 1.ปัญญามากทุกข์น้อย 2.ปัญญาน้อยเสียใจโวยวาย และ3.ปัญญาสูงให้คิดว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง ดังนั้นคนที่จะได้ปัญญามากในการใช้ชีวิตอย่างมีสติไม่ประมาท ต้องฟังสิ่งต่างๆด้วยสมาธิ หรือสุตมยปัญญา  อันมีศีลหรือวินัยเป็นตัวกำหนด  และเราจะไม่ขาดสติ  นอกจากนี้ ยังควรหมั่นพิจารณาไตร่ตรองความรู้ต่างๆที่ได้มาอย่างรอบคอบ หรือจินตมยปัญญา  คนที่มีจิตปกติจะมีพลัง และยิ่งมีมากก็จะไล่กิเลสไปได้  และสุดท้ายควรจะเพิ่มพลังจิตด้วยองค์กรรมฐาน หรือภาวนามยปัญญา  ด้วยการทำจิตให้สงบแบบไม่ลึกจนเกินไป ไม่งั้นก็จะกลายเป็นหลงทาง พิจารณาความจริงไม่ได้ หรือถ้าจิตตื้นเกินไปเราก็จะกลายเป็นพวกฟุ้งซ่าน


หมอบุญเลิศบรรยายต่อว่า การรู้จักตนเอง คือการรู้จริง ดังนั้น เป้าหมายของการบริหารยุคใหม่  คือไม่ใช่มุ่งแต่ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่มันคือปัญญาที่จะตกผลึก ทำให้เรารู้จักตนเอง รู้เท่าทันธรรมชาติ และเข้าถึงพระผู้เป็นเจ้า(ไม่ว่าจะศาสนาไหนก็ตาม) 
ทำไมเราถึงมาตีกัน นั่นก็เพราะความโง่ เหมือนกับที่มีเสื้อเหลือ เสื้อแดง เสื้อสีนั้น สีนี้ ดังนั้นเราต้องใช้ปัญญาล้างสิ่งเหล่านี้   เราต้องหาความสุขในสิ่งที่ต้องการอย่างถูกทำนองคลองธรรม รู้จักเอาตัวรอดโดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อน มนุษย์มีอยู่ติดตัวคือโปรแกรมโง่ และโปรแกรมฉลาด พวกที่รู้จริง ทำจริง มีสำนึกต่อสังคมถึงจะเป็นที่ยอมรับ

 

 

 

 

 

ท่วงท่าการบรรยายของหมอบุญเลิศที่เต็มไปด้วยการเคลื่อนไหว

เรียกความสนใจและตื่นตัวให้ผู้ฟังโดยตลอด

 

หลักธรรมสำคัญสมบูรณ์ที่สุดที่จะช่วยให้มวลมนุษย์ชนะทุกข์สร้างสุข คือพรหมวิหาร 4 ได้แก่ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา  คุณหมอนักพูดชื่อดังในวัย 64 ปี ระบุว่า เราควรเมตตาเฉพาะกับคนที่ไม่ละเมิดใคร เมตตาทำให้เรามีความสุข เป็นการช่วยโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ก็จะกลายเป็นนักคว้าความสุขตัวยง   ขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีมุทิตาจิตหรือความยินดีในความสำเร็จที่แท้จริงเท่าไหร่นัก ดังนั้นการให้ทาน บริจาค ใหความช่วยเหลือ จึงเป็นธรรมมะพึงปฏิบัตืเพื่อลดความโลภ สอดรับกับจุดประสงค์สูงสุดคือการมุ่งดับ และสูตรที่ทำให้ตนค้นพบ คุณค่าและพื้นฐานของการเกิดมาเป็นมนุษย์นั่นคือ "สติ ปัญญา  ศรัทธา กุศลกรรม และทางสายกลาง"  

 

 

ทำไมเราจึงมีความสุข ทำดี ละชั่ว ทำจิตให้เบิกบานด้วยปัญญา  พระเจ้าสร้างความหลากหลายมาก ไม่เคยเจอโลียสุขใดที่ไม่มีทุกข์ และไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องทุกเรื่องที่หาคำตอบไม่ได้ การดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่การสืบพันธุ์เสมอไป แต่เป็นการดำรงเผ่าพันธุ์ในรูปแบบอื่นๆให้ดีขึ้น เช่นการทำดีต่อผู้อื่น ถ้าเราอยากเจอรักแท้ต้องใช้เมตตา+ปัญญา+ศรัทธา เราจะได้เจอสิ่งนี้


" อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา สังขารเป็นทุกข์ เมื่อมีการปรุงแต่ง คนที่เรารักที่สุดสุดท้ายก็ต้องหมดลมหายใจ จงทำหน้าที่ให้ดีที่สุดกับคนที่เรารัก ปุถุชนทั้งโลก ไม่มีอะไรดีกว่าอะไร มีแต่อะไรเหมาะกับอะไร สะสมอะไรก็ให้สะสมแต่พอดีๆ   นั่นคือการสะสมสติ ปัญญา ศรัทธา กุศลกรรมและทางสายกลาง  ที่เราทุกขือยู่ เพระาเรายอมให้ธรรมชาติจิกหัวใช้ตามยถากรรมมานานแล้ว  เราคุมภัยธรรมชาติไม่ได้ แต่ที่คุมได้คือความโง่  "


อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูมิพลฯ บรรยายต่อว่า ชีวิตมนุษย์ก็เหมือนกับสูตรการทำขนม คือ ใน 100%  จะมีเพียง 5% ที่ขาดความสมบูรณ์แบบไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม อีก 5 % ก็เป็นจำพวกที่มีมากล้นจนเกินไป แต่ในขณะที่ 90 % นี่คือคนปกติทั่วไป  แต่ระหว่างนั้นจะมีรอยต่อคาบเกี่ยวกันระหว่างคนปกติและคนที่ผิดปกติ หรือมีมากกว่าปกติ จึงเป็นที่มาว่า คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราพัฒนาตัวเองได้ เลือกที่จะเป็นคนดีที่มีความสุขได้  พระเจ้าสร้างโลก ธรรมชาติสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นไป เพราะมนุษย์มีความหลากหลายถ้าเราเข้าถึงความจริง เราก็จะเลิกรังเกียจคนที่แตกต่างจากเรา เลิกดูถูกตัวเอง รวมถึงเลิกหยิ่งผยองว่าตัวเองเหนือคนอื่น


"ผมเป็นคนไม่มีสีเสื้อ  และอยากให้เรานับถือตัวเองก่อ  เลิกรังเกียจคนอื่นที่คิดไม่เหมือนเรา อย่าดูถูกใครเป็นอันขาด ไม่ละเมิด ยอมรับความหลากหลายทางความคิดในสังคม หรือขององค์กรที่เราอยู่ การพัฒนาต้องเริ่มจากที่ตัวเอง  ให้มองว่า คนที่จิกกัดเรา หรือคนที่ไม่มีใครอยากคบเป็นคนที่น่าสงสาร  เราต้องหัดผูกไมตรีกับเขา และวันหนึ่งเขาจะหันมาเป็นเพื่อนเราเองด้วยมิตรภาพ การพัฒนาตัวเองต้องปลูก3คำนี้คือ สวัสดี ขอบคุณ ขอโทษ ถ้าเรารักใครด้วยความเมตตา ด้วยปัญญา เราจะกลายเป็นคนที่มีความสุข ดวงชะตามีจริง แต่สิ่งที่ทำให้เราเป็นเราในอนาคตก็คือกรรม หรือการกระทำของเรานั่นเอง  ในทุกการกระทำดีจะไม่มีคำว่าสูญเปล่า  อย่าเอาความโชคดีของเราไปเอาเปรียบผู้อื่น หรือละเมิดผู้อื่นเป็นอันขาด" พลอากาศตรีนายแพทย์บุญเลิศ กล่าวทิ้งท้าย




ข้อคิดมุมมอง เชื่อหรือไม่ สาระน่ารู้ เรื่องจริง หรือหลอกลวง (พุทธวจน การเป็นหนี้เป็นทุกข์ในโลก)

ข้อควรระวังในการซื้อของออนไลน์ article
ซื้อของออนไลน์โปรดระวัง article
5 สุดยอด SELF-TRANSFORM เปลี่ยนตัวเองให้ตื่นเช้า เป็นที่รัก ตัดสินใจเด็ดขาด article
‘กฎ 20 วินาที’ ใช้ความขี้เกียจให้เป็นประโยชน์ article
ไม่ต้องฉลาดกว่าใคร เอาแค่ ‘ฉลาดกว่าตัวเอง’ ก็พอ article
เกิดมาต้นทุนต่ำ ก็รวยได้ ทำแบบนี้ article
อาชีพ ที่ทำรายได้สูงสุด ในปี2021 article
ใครเป็นคน ลิขิตชีวิตคุณ article
4 คุณสมบัติที่บ่งชี้ว่าคุณมี "วุฒิภาวะ" article
4 วิธี "ดึงดูดเงินเข้ามาในชีวิต" article
4 สิ่งที่ควรจำ เพื่อจะทำให้ "สำเร็จ" article
เหตุผลที่ทำให้คุณเป็นคนไม่มั่นใจ article
ทำตัวยังไง ? ให้มีเสน่ห์ article
27 ข้อคิด ในชีวิต 27 ปี article
จะเริ่มรับรู้คุณค่าในตัวเองอย่างไร จากที่ Low Self-Esteem มาทั้งชีวิต article
กลับมารักตัวเองอย่างไรหลังผูกชีวิตติดกับคนอื่น? จัดการความรู้สึกเมื่อถูกทักว่าอ้วน? article
ถ้าสมองสั่งให้รักเงิน จะทำให้อย่างไรมีความสุขนอกจากการใช้เงินบ้าง article
วิธีแก้ท้อที่ดีที่สุด article
5 soft skills ที่เป็นที่ต้องการที่สุดในยุคนี้ article
วิธีเด็ดสลัดอารมณ์หรือความคิดที่เราไม่ชอบ article
คิดจะ “ฆ่าตัวตาย” มีทางออกที่ง่ายกว่านั้นเยอะ article
เลิกกันแล้วยังเกลียดชัง~ระวังลูกจะมีปัญหา!!! article
สังคมเลว...เพราะคนดีท้อแท้!!! article
เปลี่ยนคำพูดธรรมดาให้มีคุณค่าทางใจ article
บอกข้อผิดพลาดโดยไม่ยั่วโมโหอีกฝ่าย article
การโน้มน้าวใจแบบไม่กดดัน สบายใจทั้งเขาและเรา article
เคล็ดลับความมั่นใจคือ "เห็นคุณค่าในตัวเอง" article
4 สิ่งที่ควรจำ เพื่อจะทำให้ "สำเร็จ" article
5 สิ่ง "ทรงคุณค่าที่คนธรรมดาก็ทำได้" article
20 อย่างที่แสดงว่าคุณเติบโตแล้ว และกำลังมีชีวิตที่ดี article
คำถามสำคัญคือ “จะลงมือเมื่อไรดี” article
เอาชนะตัวเอง article
ถ้าอยากมีความสุขขึ้น อย่าพูดแบบนี้ article
ใครติดโซเชียลจนไม่ได้ทำสิ่งที่ควรทำ..แก้ได้ article
คนแบบนี้ยังไงก็มีความสุข article
ทำดีเอาหน้า อย่างนี้ก็ได้หรอ ! article
ถ้าฝึกนิสัยนี้ ยังไงก็ไม่ ล้มเหลว article
เด็กรุ่นใหม่ ไม่มีสมาธิ จริงหรือ ? article
ความรัก article
อิสระภาพกับการตามใจ article



เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน