อิทธิพล เนปจูน หวั่นเกิด สึนามิใหญ่ แผ่นดินไหว
ดาวเนปจูน
มีคำทำนายออกมาว่าประเทศไทยจะเกิดอาเพศจาก อิทธิพลของดาวเนปจูน ที่เคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์ครบ 1 ปีนั้น คำทำนายบอกว่า เมื่อนับถอยหลังแล้ว ‘เนปจูน’ ซึ่งถือว่าเป็นดาวน้ำโคจรรอบดวงอาทิตย์ครบ 1 ปี เตือนว่าให้ระวังสึนามิใหญ่ในจุดเดิมรุนแรง(ชายฝั่งทะเลอันดามัน) ไม่แพ้ที่ญี่ปุ่น ส่วนกทม. อาจจะเสี่ยงแผ่นดินไหว โหรภิญโญ ย้ำ ก.ค.-ส.ค. แม้ว-ปูก็มีโอกาสเสี่ยงโดนปองร้ายให้ระวังตัว…
จากคำทำนายถือเป็นเรื่องที่น่า สนใจ หลังจากสำนักข่าวต่างประเทศมีการเปิดเผยกำหนดการว่าวันที่ 12 ก.ค. นี้ ดาวเนปจูนจะโคจรรอบดาวอาทิตย์ 1 รอบ ตั้งแต่มีการค้นพบดาวดวงนี้มา (ค.ศ. 1846) ในระบบสุริยะจักรวาลพอดิบพอดีการเคลื่อนตัวของดาวเนปจูนที่หมายถึงน้ำชนิ ดที่ไม่เคยเกิดนี้จะส่งผลอะไรต่อบ้านเมือง…
จากคำกล่าวของ โหร โสรัจจะ นวลอยู่ หมอดูชื่อดังเจ้าของฉายานอสตราดามูสเมืองไทย กล่าวผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่า เนปจูนหมายถึงน้ำ และการโคจรของดาวเนปจูนครั้งสำคัญในครั้งนี้ นับจากนี้อีก 1 เดือนจะมีภัยพิบัติเกี่ยวกับน้ำชนิดที่จะสร้างความเสียหายแบบไม่เคยเกิดขึ้น มาก่อนโดนเฉพาะประเทศไทย
“ภาพรวมของทั้งโลก ดาวเนปจูนนี้จะส่งผลลบเกี่ยวกับน้ำมากมาย ชนิดที่หลายคนไม่คาดคิดและไม่เคยเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็ น น้ำท่วมใหญ่ เกิดพายุ ไต้ฝุ่น อาจจะมีเขื่อนแตก สร้างความเสียหายอย่างมหาศาล ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยค่อนข้างจะอันตร าย และอีก 1 เดือนนับจากนี้จะมีสึนามิเกิดขึ้นที่ภาคใต้รอยเลื่อน เดิมในทะเลอันดามันที่ เคยเกิดขึ้นครั้งที่แล้ว อีกภาคหนึ่งที่จะได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของดาวเนปจู นก็คือภาคกลางโดยเฉพาะ กรุงเทพฯ จะโดนน้ำเล่นงานมากชนิดที่อาจจะต้องจมบาดาล อีกทั้งให้ระวังแผ่นดินไหวใจกลางกรุงเทพฯ ให้ดี ไปจนถึงปลายปีจะมีการสูญเสียมากมายอาจจะใหญ่ไม่น้อยไ ปกว่าเหตุการณ์ที่ ญี่ปุ่นเลยก็เป็นไปได้”
ความหมายของดาวเนปจูน
นอก จากนี้ ในวิกิพีเดีย อธิบายถึง ดาวเนปจูน (อังกฤษ: Neptune) หรือชื่อไทยว่าเป็น ดาวสมุทร หรือ ดาวเกตุ คือดาวเคราะห์ในระบบสุริยะลำดับที่ 8 หรือลำดับสุดท้ายที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ (ขึ้นอยู่กับการโคจรของดาวพลูโต ซึ่งบางครั้งจะเข้ามาอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่า) ตัวดาวมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่เป็นอันดับที่ 4 รองจากดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และมีมวลเป็นลำดับที่ 3 รองจากดาวพฤหัสและดาวเสาร์ คำว่า “เนปจูน” นั้นตั้งชื่อตามเทพเจ้าแห่งท้องทะเลของโรมัน (กรีก : โปเซดอน)
ดาว เนปจูนมีสีน้ำเงิน เนื่องจากองค์ประกอบหลักของบรรยากาศผิวนอกเป็น ไฮโดรเจน ฮีเลียม และมีเทน บรรยากาศของดาวเนปจูน มีกระแสลมที่รุนแรง (2500 กม/ชม.) อุณหภูมิพื้นผิวอยู่ที่ประมาณ -220 องศาเซลเซียส ซึ่งหนาวเย็นมากๆ เนื่องจาก ดาวเนปจูนอยู่ไกลดวงอาทิตย์มาก แต่แกนกลางภายในของดาวเนปจูน ประกอบด้วยหินและก๊าซร้อน อุณหภูมิประมาณ 7,000 องศาเซลเซียส ซึ่งร้อนกว่าพื้นผิวของดวงอาทิตย์เสียอีก
ทั้งนี้ ยานวอยเอเจอร์ 2 เป็นยานอวกาศจากโลกเพียงลำเดียวเท่านั้น ที่เคยเดินทางไปถึงดาวเนปจูนเมื่อ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2532 (ค.ศ. 1989) ภาพของดาวเนปจูนซึ่งได้ถ่ายลักษณะของดาวมาแสดงให้เรา เห็นจุดดำใหญ่ (คล้ายจุดแดงใหญ่ ของดาวพฤหัส) อยู่ค่อนมาทางซีกใต้ของดาว มีวงแหวนบางๆสีเข้มอยู่โดยรอบ (วงแหวนของดาวเนปจูน ค้นพบก่อนหน้านั้น โดย เอ็ดเวิร์ด กิแนน (Edward Guinan)
ดาวเนปจูนมีดวงจันทร์บริวาร 13 ดวง และดวงใหญ่ที่สุดมีชื่อว่า ไทรทัน
สำหรับ ประวัติในการค้นพบ ในปี พ.ศ. 2389 Urbain Le Verrier.jpg ( Urbain Le Verrier ) คำนวณว่า ต้องมีดาวเคราะห์ดวงหนึ่งรบกวนการโคจรของดาวยูเรนัส จนเมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2389 โจฮันน์ จี. กาลเล (Johann G. Galle ) นักดาราศาสตร์ชาวเยอรมันแห่งหอดูดาวเบอร์ลิน ได้ค้นพบดาวเนปจูน ในตำแหน่งใกล้เคียงกับผลการคำนวณดังกล่าว
ผลจะเกิดขึ้นเป็นยังไง คงไม่มีใครสามารถชี้ได้ชัดเจน แต่คำทำนายที่เกิดขึ้น อย่างน้อยก็มีอิทธิพล ต่อจิตใจผู้ที่อยู่ในบริเวณที่อาจจะเกิดเหตุจากคำทำนายไปแล้ว