อันตรายจากการใช้ยาหยอดตา
ปัจจุบันในประเทศไทยมียาหยอดตาวางขายในท้องตลาดหลายสิบชนิดและสามารถขอซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางตาและไม่มีเวลาไปพบแพทย์จึงนิยมไปหาซื้อยามาจากร้านขายยา โดยมีบุคลากรที่ไม่ใช่แพทย์เป็นผู้รับฟังอาการและเลือกยาให้แก่ผู้ป่วย หรือบางครั้งผู้ป่วยจะนำขวดยาเก่าที่เคยใช้และได้ผลดีไปให้ร้านขายยาดูพร้อมทั้งขอซื้อยาแบบเดิมมาใช้ต่อเนื่อง ผู้ป่วยบางรายอาจเจียดเวลาไปพบจักษุแพทย์เมื่อมีเวลาว่าง เพื่อตรวจดูอาการและรับยาที่เหมาะสม หรือบางรายอาจไปพบแพทย์เมื่อได้ใช้ยาที่ซื้อมาไประยะหนึ่งแล้วอาการทางตาไม่ดีขึ้นหรือกลับเลวลง แต่มีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่ใช้ยาแล้วรู้สึกสบายตาจึงใช้ยาต่อเนื่องไปเรื่อยๆโดยไม่เคยไปรับการตรวจ จึงเกิดปัญหาจากการใช้ยาอย่างไม่เหมาะสมขึ้นได้บ่อยครั้งและอาจนำไปสู่การสูญเสียสายตาอย่างถาวรได้
อันตรายจากการใช้ยาหยอดตาที่ไม่เหมาะสมเกิดได้หลายกรณี ได้แก่
- การได้รับยาที่ไม่เหมาะสมกับโรคที่เป็นและยาดังกล่าวจะทำให้โรคเลวลง ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยมีอาการเคืองตา ตาแดงหลังถอดคอนแทคเลนส์ ได้รับยาหยอดตาลดการอักเสบชนิดมีสเตียรอยด์ หากผู้ป่วยมีแผลติดเชื้อที่กระจกตา แผลอาจลุกลามอย่างรวดเร็วและควบคุมยาก ทำให้กระจกตาทะลุหรือสูญเสียการมองเห็น หรือ กรณีผู้ป่วยโรคเริมที่กระจกตา ในระยะต้นจะมีอาการตาแดงและเคืองตาคล้ายกับผู้ป่วยเยื่อบุตาอักเสบ หากผู้ป่วยใช้สเตียรอยด์หยอดตาจะทำให้เชื้อเริมลุกลามเกิดแผลที่กระจกตาได้อย่างรวดเร็ว เป็นต้น
- ได้รับยาที่เหมาะสมกับโรค แต่ใช้ยาโดยไม่ทราบและไม่ได้มีการระวังผลข้างเคียงจากการใช้ยาต่อเนื่อง จนทำให้เกิดผลข้างเคียงจากยาขึ้น ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยที่มีการอักเสบในตาจากสาเหตุต่างๆหรือเป็นภูมิแพ้ที่ตาและเคยได้รับยาลดการอักเสบที่มีสเตียรอยด์แล้วอาการดีขึ้น ผู้ป่วยมักซื้อยาดังกล่าวมาใช้เองเป็นครั้งคราวหรือต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้เกิดภาวะต้อหินซึ่งหากเป็นอยู่นานและไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาจะทำให้ประสาทตาถูกทำลายได้ หรือกรณีแผลเริมที่กระจกตา และใช้ยาต้านไวรัสชนิดหยอดหรือป้ายตาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้รับการปรับขนาดยาตามความเหมาะสม อาจทำให้อาการเลวลงเนื่องจากแผลที่กระจกตาไม่ยอมหาย เป็นต้น
- ได้ยาหยอดบางชนิดที่ไม่สมควรนำมาใช้นอกโรงพยาบาลเนื่องจากไม่มีข้อบ่งชี้ในการรักษา ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยเคยได้รับการหยอดยาชาที่ตาเพื่อทำหัตถการหรือตรวจตาบางอย่างแล้วรู้สึกว่าอาการเคืองตาดีขึ้น จึงไปหาซื้อยาชาสำหรับหยอดตามาใช้เพื่อลดอาการเคืองตา ทำให้เกิดแผลเรื้อรังที่กระจกตาและกระจกตาบางตัวลง เป็นต้น
- ยาบางชนิดอาจคล้ายคลึงกันแต่มีความแตกต่างกันในการรักษา ทำให้ผู้ป่วยหรือเภสัชกรเลือกใช้ได้ไม่ถูกกับภาวะของโรค ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยภาวะตาแห้งรุนแรงบางรายมีความจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมและสเตียรอยด์ชนิดปลอดสารกันเสีย หากผู้ป่วยไม่ทราบและใช้ตัวยาดังกล่าวแต่เป็นชนิดที่มีสารกันเสีย อาจทำให้อาการทางตาเลวลงกว่าเดิมได้
การป้องกันและแนวทางแก้ไข
- เมื่อมีอาการผิดปกติทางตา ควรปรึกษาแพทย์หรือจักษุแพทย์
- หากไม่สามารถจะไปพบแพทย์ได้ในวันนั้นและจำเป็นต้องใช้ยาหยอดตา ให้หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีสเตียรอยด์ผสม
- หากอาการยังคงมีอยู่ ควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาที่เหมาะสม และควรนำยาขวดที่ใช้อยู่ไปด้วย
- กรณีเป็นโรคตาเรื้อรังหรือได้รับยาเป็นประจำ ควรสอบถามจักษุแพทย์ว่ายาใดที่สามารถซื้อใช้เองได้โดยไม่มีอันตราย และยาใดไม่ควรนำมาใช้เอง
- เมื่อมีข้อข้องใจในการใช้ยาหยอดตา ควรปรึกษาจักษุแพทย์ของท่าน