"หมามุ่ย"ทำยากระตุ้นทางเพศ
วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7572 ข่าวสดรายวัน
เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทารา แกรนด์ นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานแถลงข่าวจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ภายใต้แนวคิด "ยาไทย เด็กใช้ได้ ผู้ใหญ่ใช้ดี" ระหว่างวันที่ 31 ส.ค.-4 ก.ย.ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีพ.ญ.วิลาวัณย์ จึงประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นายถวัลย์ สุวรรณเตมีย์ เจ้าของร้านขายสมุนไพร "เจ้ากรมเป๋อ" และนายเพ็ง สุขบัว หมอยาพื้นบ้านเมืองเลย พ่อเฒ่าอายุ 95 ปี ผู้มีประสบการณ์การใช้หมามุ่ยเป็นยาแฮง ร่วมแถลง
นายวิทยากล่าวว่า ในปี 2558 จะเกิดสังคมอาเซียน การที่ประเทศไทยจะพัฒนาองค์ความรู้ด้านการแพทย์ดั้งเดิม หรือการแพทย์แผนไทย จะทำให้ไทยเป็นผู้นำด้านการแพทย์ดั้งเดิมในอาเซียนได้ ทั้งการรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพให้คนไทยอายุยืน การฟื้นฟูสุขภาพ รวมทั้งการวิจัยเพื่อพัฒนาสมุนไพรเป็นยารักษาโรค หรือใช้เป็นเครื่องสำอางดูแลความสวยความงาม เพราะไทยมีความพร้อมสูง แต่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ และเอกชน ต้องร่วมมือกันเพื่อยกระดับมาตรฐาน ขณะนี้ไทยบรรจุยาสมุนไพรเข้าในรายการยาบัญชียาหลักแห่งชาติใช้รักษาโรคเหมือนยาแผนปัจจุบัน จากเดิม 19 รายการ เป็น 71 รายการ และตั้งแต่ปี 2552 ขึ้นทะเบียนยาแผนโบราณทั้งหมด 12,025 ตำรับ ร้อยละ 99 โดยสถานบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขใช้ยาสมุนไพรรักษาโรค มูลค่ารวม 391 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 2 ของยาแผนปัจจุบันที่ใช้ทั้งหมด 20,000 กว่าล้านบาท มีผู้รับบริการ 12 ล้านคน หรือร้อยละ 10
ภก.ผกากรอง ขวัญข้าว เภสัชกรชำนาญการ ร.พ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวถึงการนำหมามุ่ยทำเป็นสมุนไพรว่า หมามุ่ยจัดเป็นพืชตระกูลถั่ว บริเวณขนอ่อนที่ฝัก มีสารซีโรโทนิน ทำให้เกิดอาการคัน แต่มีรายงานทางการแพทย์ว่า เมล็ดของหมามุ่ย มีคุณสมบัติหลายอย่าง คือ เพิ่มจำนวนสเปิร์มและปริมาณน้ำเชื้อ แก้ปัญหาสภาวะมีบุตรยาก ส่วนฤทธิ์บำรุงสมรรถภาพทางเพศ ในการทดลองกับสัตว์ พบว่าทำให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น เพิ่มความถี่ในการผสมพันธุ์ นอกจากนี้ในเมล็ดหมามุ่ยมีองค์ประกอบทางเคมี และฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา โดยมีสารแอลโดปา สารตั้งต้นสังเคราะห์โดพามีน เป็นสารสื่อประสาท ซึ่งใช้ในการรักษาโรคพาร์กินสัน ปัจจุบันอินเดียปลูกแปลงเกษตรเพื่อนำเมล็ดหมามุ่ยมาสกัดเป็นยาเพิ่มความต้องการทางเพศ คลายเครียด และเพิ่มการเผาผลาญและมวลของกล้ามเนื้อ
"ประเทศไทยกำลังอยู่ระหว่างวิจัยพัฒนา เพื่อหารูปแบบในการนำมาใช้ เนื่องจากเมล็ดหมามุ่ยมีความยากลำบากในการเก็บฝัก แต่พบว่าตำรับสมุนไพรไทยที่นำหมามุ่ยมาใช้มีอยู่หลายตำรับ ทั้งบดเพื่อดื่มเป็นชา หรือตากแห้งบดเป็นยาลูกกลอน เป็นต้น" ภก.ผกากรองกล่าว