เห็ดหลินจือกับระบบการขับถ่าย (ไต กระเพาะปัสสาวะ)
อาการป่วยของระบบนี้ที่มีสาเหตุมาจากความบกพร่องหรือมีปัญหาจาก “ไต” ทำให้มีอาการป่วยเรื้อรังเยอะแยะมาก หลาย ๆ โรคที่มีอาการจากระบบอื่น แต่ “ระบบขับถ่าย” ก็สร้างปัญหาได้ไม่มากก็น้อยเหมือนกัน
ปวดศีรษะ กลัวหนาว หรืออาการหนาวสะท้าน ความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตต่ำ แน่นท้อง หัวใจอ่อนแอ จิตใจอ่อนแอ ปวดเส้นประสาท เลือดคั่งในสมอง จนกระทั่งอ่อนเปลี้ยไม่มีแรง ก็เป็นโรคเรื้อรังที่ทำให้ผู้ป่วยต้องทนทุกข์ทรมานไม่เบากันทีเดียว บางคนอาจไม่รุนแรง แต่ก็สร้างความรำคาญไม่น้อยเหมือนกัน
กระนั้น สำหรับผู้ที่กิน “หลินจือ” นั้น มั่นใจได้เลยว่า เป็นอาการชิวชิว จะดีวันดีคืนที่ชัดเจนมากพอสมควรกันทีเดียว บางคน มีโอกาสหายที่ชัดเจน น่าเชื่อถือกันเลยล่ะ เพราะอาการดังกล่าว เกิดจากหลาย ๆ สาเหตุดังที่กล่าวมาแล้ว โดยเฉพาะมักจะมาจาก “ระบบหลอดเลือด” เป็นสำคัญ แต่ “ระบบขับถ่าย” ก็มีส่วนในการทำให้เกิดอาการของโรคดังกล่าวได้เหมือนกัน แต่ประการสำคัญ เมื่อ “หลินจือ” ทำการล้างเลือดให้สะอาดบริสุทธิ์ได้มากที่สุดแล้ว อาการเหล่านี้ ย่อมดีวันดีคืนที่ชัดเจน
ไตอับเสบ ไตบกพร่อง ปวดเอว หรืออาจถึงขั้นรุนแรงเป็น ไตเรื้อรัง ลามจนถึง ไตวาย ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น ก่อนถึงขั้นรุนแรง “หลินจือ” จะสามารถเข้าไปปรับแก้ไข ฟื้นฟู ส่วนที่บกพร่อง มีปัญหาให้กลับคืนแข็งแรงมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้ว่า การกิน “หลินจือ” รักษาไตจะค่อนข้างช้าไม่รวดเร็วทันใจนัก ผู้ป่วยจะต้องมีความอดทนอย่างยิ่ง
สำหรับ ไตวาย ที่ต้องใช้ไตเทียมฟอกเลือดที่โรงพยาบาลแล้วนั้น ต้องยอมรับสภาพว่า โอกาสที่จะหายได้นั้น ค่อนข้างริบหรี่เหลือเกิน แต่การที่ได้กิน “หลินจือ” จะเป็นส่วนช่วยให้ผู้ป่วยมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงไม่กระปรกกระเปลี้ย สะโหลสะเหล ที่ต้องมีคนคอยประคองกลับบ้านทุกทีหลังฟอกเลือดแล้วอีกต่อไป จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จะรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าที่ชัดเจนมาก ถึงแม้ “หลินจือ” อาจไม่สามารถช่วยให้หายไตวายได้ก็จริง แต่ก็สามารถช่วยให้มีสภาพที่แข็งแรง มีระบบเลือดที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งประมาณหนึ่งปีให้หลัง อาจมีโอกาสค่อย ๆ ลดการฟอกเลือดลงไปได้เรื่อย ๆ กระทั่งเคยมีตัวอย่างมาแล้วจากที่เคยฟอกเลือดอาทิตย์ละสองครั้ง กลับเป็นสองอาทิตย์ครั้ง
ในทางแพทย์แผนจีนนั้น ย้ำแล้วย้ำอีกว่า ถ้าหาก “ไต” มีปัญหาละก็ ปัญหาที่จะตามมาเกิดขึ้นแน่นอน นั่นก็คือ “เสื่อมสมรรถนะทางเพศ” เพราะหมอจีนยืนยันว่า “ไตถือต้นกำเนิดของชีวิต” เป็นแหล่งของการผลิต “เชื้อจิง” (เชื้อต้นกำเนิดชีวิต บางตำรับก็บอกว่าเป็นเชื้อแห่งพลังงาน) จึงเป็นแหล่งแห่งการเสริมสร้างชีวิตใหม่ จึงต้องมีพละพลังที่โดดเด่น แต่เมื่อเกิดปัญหากับ “ไต” ความรู้สึกแห่ง “การเสื่อมสมรรถนะทางเพศ” ก็จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ยืนยันได้เช่นเดียวกันว่า หลังจากกิน “หลินจือ” ปรับสภาพหลอดเลือด การไหลเวียนดี ไตฟื้นกลับมาดีขึ้น อาการดังกล่าวย่อมฟื้นกลับมาได้ไม่มากก็น้อย
ปัสสาวะรดที่นอน ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะไม่ออก ปัสสาวะกระปิกระปอย มาจากการควบคุมไตไม่ได้ ก็จะมีผลกระทบไปถึงอาการดังกล่าว พลอยทำให้กระเพาะปัสสาวะเกิดปัญหาได้ หมอจีนบอกว่า ไตไม่สามารถควบคุมน้ำ ทำให้น้ำไหลลงมาท่วมกระเพาะปัสสาวะจนควบคุมไม่ได้ จึงมีอาการดังกล่าวเกิดขึ้น
สำหรับนิ่วในทางเดินปัสสาวะนั้น ทำให้มีอาการปวดกระเพาะปัสสาวะ “หลินจือ” สามารถทำลายนิ่วดังกล่าวได้ไหม? แน่นอน ทำได้ แต่บอกก่อนว่า ค่อนข้างจะช้า ไม่รวดเร็วทันใจนัก อาจมีอาการปวดทรมานยาวนานกันทีเดียว กว่าที่ “หลินจือ” จะขับนิ่วออกจากทางเดินปัสสาวะได้สำเร็จ
เพราะฉะนั้น คำแนะนำสำหรับอาการดังกล่าว การรักษาสมัยใหม่ที่ใช้วิธีสลายนิ้ว นอนโรงพยาบาลแค่คืนเดียว ไม่เจ็บไม่ปวด แต่หายปวดรวดเร็วทันใจ ดังนั้น การตัดสินใจจึงอยู่ที่คนปวดเป็นสำคัญ
ส่วนอาการปวดไขข้อ และไขข้ออักเสบ หมอจีนบอกว่า มีสาเหตุมาจากกระเพาะปัสสาวะมีปัญหาจนเกิดอาการดังกล่าวได้เหมือนกัน ซึ่ง "หลินจือ" จะค่อย ๆ ปรับไขข้อที่มีปัญหาให้ค่อย ๆ มีความยืดหยุ่นขึ้น อันเป็นการลดอาการปวด ลดอาการอักเสบได้ และถ้าหากใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบัน จะมีผลดียิ่งขึ้น.
