ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




เด็กสาวหัวใจแกร่ง ทำงานพิเศษ 7 ที่ เลี้ยงพ่อพิการ แม่ฟั่นเฟือนและน้องที่เป็นโรคหัวใจ article

 

เด็กสาวหัวใจแกร่ง ทำงานพิเศษ 7 ที่ เลี้ยงพ่อพิการ แม่ฟั่นเฟือนและน้องที่เป็นโรคหัวใจ

เรื่องราวของเด็กสาวผู้ไม่ย่อท้อต่อชะตากรรม ทำงานพิเศษตั้งแต่อายุได้ 5

ขวบเพื่อหาเงินเลี้ยงพ่อพิการ แม่สติฟั่นเฟือน และน้องที่เป็นโรคหัวใจ

เธอทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวที่เข้มแข็ง ฝ่าฟันจนน้องชายได้รับการผ่าตัดรักษา

และแม้ในยามยากจนที่สุด เธอยังสละเงินเก็บกว่าครึ่งบริจาคให้กับผู้ที่เดือดร้อนกว่า

เมื่อเรื่องราวของเธอเผยแพร่ออกไป ทำให้ผู้คนต่างยอมรับนับถือในพลังชีวิตที่แข็งแกร่งเกิน

วัยของเธอ

เหอผิง และ เหอจวิน น้องชายอันเป็นที่รัก

       เหอผิง กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 ภาควิชาภาษาต่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยีหูหนาน เธอหัวเราะเก่ง ชอบเล่นกีฬา รักการร้องเพลง เป็นทั้งเด็กเรียนและเด็กกิจกรรมแถว

หน้าของทางมหาวิทยาลัย ความสดใสมีชีวิตชีวาของเธอคงจะไม่แตกต่างจากหนุ่มสาววัยเดียวกัน

ถ้าเพียงแต่ว่าเหอผิงจะไม่ได้อยู่ในครอบครัวที่มีพ่อผู้พิการจากอุบัติเหตุ แม่ซึ่งเป็นโรคระบบประสาท

บกพร่อง และน้องชายที่เป็นโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด
       
       เหอผิง เกิดเมื่อปี 1991 เป็นชาวตำบลเฉิงถานเจียง เมืองหลิวหยัง มณฑลหูหนาน ครอบครัวของ

เธอเป็นครอบครัวยากจนเพียงไม่กี่ครอบครัวในเมืองที่ร่ำรวยจากการเป็นแหล่งผลิตพลุและประทัดส่ง

ออกที่ขึ้นชื่อของประเทศจีน เหอหรงบิดาผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถทำงาน

หนักจึงต้องไปเป็นคนงานในโรงงานทำพลุ มารดาป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาท
       ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป
       
       เนื่องจากบิดามารดาร่างกายไม่แข็งแรง ต้องหมดเงินไปกับการรักษาพยาบาล ขณะที่รายได้ของ

ครอบครัวไม่เพียงพอกับรายจ่าย เหอผิงที่เพิ่งจะรู้เดียงสาจึงหาทางหารายได้พิเศษด้วยการไปรับจ้างม้วน

กระดาษห่อประทัดในโรงงานตั้งแต่อายุได้ 5 ขวบ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เหอ อิ่งชุน ผู้อำนวยการโรงเรียน

ประถมศึกษาอู๋เถียนที่เหอผิงเคยเรียน เล่าให้ฟังว่ายังจำได้ดีถึงเวลาเปิดภาคเรียนใหม่ทุกเทอม เด็กหญิง

เหอผิงจะกำเงินยับย่นยู่ยี่เลอะสีแดงที่มาจากน้ำพักน้ำแรงในโรงงานประทัดมาจ่ายค่าเทอมเสมอๆ

ส่วนผลการเรียนของเหอผิงอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยเหอผิงเล่าว่าความรักเรียนและความกระหายในวิชา

ความรู้ของเธอมาจากความกลัวที่ว่า อาจมีวันใดวันหนึ่งที่เธอจะ "ไม่มีโอกาสได้เรียนอีกต่อไป"
       
       เมื่ออายุได้ 12 ปี เหอจวิน น้องชายผู้เป็นโรคหัวใจก็ถือกำเนิดขึ้นมาในครอบครัว ทว่าความยากลำบาก

ในชีวิตของเหอผิง ดูเหมือนว่าเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น เดือนมีนาคม ปี 2008 เหอหรงผู้พ่อเกิดมีเลือดออกใน

สมอง ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 2 ครั้ง ใช้ค่าใช้จ่ายนับหมื่นหยวน เหอผิงจึงต้องลาหยุดเรียนชั่ว

คราวเพื่อไปเที่ยวขอรับบริจาคเงินค่ารักษาพ่อ จากบ้านญาติ โรงงานพลุ และองค์กรการกุศลของรัฐในท้องถิ่น

จนกระทั่งได้เงินมารักษาพ่อสำเร็จ แต่อาการเลือดออกในสมองทำลายขาสองข้างของเหอหรงจนไม่สามารถ

เดินได้ปกติอีกต่อไป เหอหรงเล่าว่าวันที่ต้องออกจากโรงพยาบาล เขากลายเป็นคนทุพลภาพไม่สามารถ

ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวได้ จึงได้แต่ร้องไห้และจับมือบุตรสาวเอาไว้ แต่กลับเป็นเหอผิงบุตรสาวที่เข้มแข็ง

กว่า กล่าวปลอบใจพ่อว่า "เมื่อยังมีชีวิตก็ยังมีความหวัง ขอเพียงพ่อยังอยู่กับหนู เราจะข้ามผ่านมัน

ไปด้วยกัน"

บิดา-มารดาของ เหอผิง ต่างก็ร่างกายไม่สมประกอบ แต่ในความโชคร้ายยังแฝงไว้ด้วยความโชคดีที่มีลูกสาวที่ชื่อ เหอผิง คนนี้

       เหอผิงเล่าว่า ครั้งที่ 2 ที่บิดาต้องนอนโรงพยาบาล พ่อได้เรียกเธอมาข้างเตียงและกล่าวเชิงสั่งเสียว่า "ถ้าหนูเป็นลูกพ่อจริง ต้องหาทางรักษาโรคหัวใจให้น้อง" คำๆ นี้ราวกับสลักเอาไว้ในใจของเธอ โชคเข้าข้าง เมื่อวันหนึ่ง มีข่าวว่าองค์กรการกุศลระดับมณฑลร่วมมือกับโรงพยาบาลเซียงหย่าจัดโครงการผ่าตัดโรคหัวใจแต่กำเนิดฟรี 100 คน เหอผิงจึงพยายามทุกวิถีทาง เดินทางออกจากหมู่บ้านเพียงลำพังครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อขอให้น้องชายเข้าร่วมโครงการดังกล่าว สุดท้ายความพยายามของเธอก็ส่งผล น้องของเธอได้เข้าร่วมโครงการรับการผ่าตัดในที่สุดและการผ่าตัดก็ประสบผลสำเร็จอย่างดี
       
       ปี 2009 เหอผิงสอบติดภาควิชาภาษาต่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหูหนาน เมื่อต้องไปศึกษาต่อ สิ่งที่เธอกังวลใจมากที่สุดยามห่างจากบ้านคือน้องชาย กลัวว่าน้องจะป่วย กลัวน้องเกิดอุบัติเหตุ กล้วน้องทานอาหารไม่ได้ กลัวน้องไม่โต ครั้งหนึ่งเหอผิงเล่าว่า เมื่อเธอกลับมาเยี่ยมบ้าน พบว่าน้องชายใบหน้าซีดเหลืองผิดปกติ

เหอผิงจึงพาน้องชายไปหาหมอที่โรงพยาบาล ผลการตรวจพบว่า

ปริมาณสารตะกั่วในเลือดของน้องมากเกินไป ต่อมาค่อยทราบว่าช่วงที่เธอไม่อยู่จึงไม่มีคนไปตักน้ำสะอาด

ในบ่อที่อยู่ไกลออกไป 300 เมตรมาไว้ใช้ในบ้าน มารดาของเธอใช้น้ำในบึงข้างบ้านมาทำอาหาร ซึ่งอาจ

ปนเปื้อนสารตะกั่วจากโรงงานพลุและประทัด ทำให้สารพิษสะสมในร่างกาย นอกจากนี้อาการป่วยของบิดา

มารดาก็ส่งผลกระทบต่อจิตใจเด็กน้อยที่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้จนกลายเป็นเด็กซึมเศร้า
       
       พี่สาวคนนี้จะดูแลน้องเอง!
       
       เมื่อความคิดนี้ผ่านเข้ามา เด็กสาวที่กล้าคิดกล้าทำอย่างเหอผิงตัดสินใจทันที เธอไปขอร้อง

ผู้อำนวยการโรงเรียนประถมในสังกัดมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่ให้รับน้องเธอเข้าเรียน และพาน้องชายมา

อาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็กๆ ข้างโรงเรียนด้วยกัน 2 คนพี่น้อง ซึ่งเจ้าของห้องเช่าเมตตาคิดค่าเช่าเพียงครึ่งหนึ่ง

จากนั้นเธอจึงดูแลเรื่องสุขภาพของน้องอย่างใกล้ชิด เธอมักจะอดเพื่อให้น้องอิ่มเสมอ เพราะเธอตั้งปนิธาน

เอาไว้ว่าต้องให้น้องได้กินปลาทุกวัน และได้กินผลไม้กับนมอย่างน้อยวันเว้นวัน เพื่อให้เด็กน้อยเติบโตอย่าง

แข็งแรง
        
       ปัจจุบันเหอผิงทำงานพิเศษรวม 7 ที่ ทั้งงานสอนพิเศษเด็กตามบ้าน รับจ้างทำความสะอาดตึกเรียนตอน

พักกลางวัน และเป็นเด็กเสิร์ฟ ตารางชีวิตประจำวันของเธอถูกจัดไว้อย่างแน่นเอี้ยด ตั้งแต่หกโมงเช้าถึงตีหนึ่ง

ซึ่งความทุ่มเทของเหอผิงก็ไม่เสียเปล่า เพราะน้องชายของเธอค่อยๆ แข็งแรงขึ้น ร่าเริงขึ้น และเรียนดีขึ้นอย่าง

ผิดหูผิดตา แม้ว่าสองพี่น้องจะไม่ค่อยได้กลับไปเยี่ยมบ้านเพราะเหอผิงต้องทำงานพิเศษรวมทั้งเสียดายค่า

เดินทาง แต่เธอก็ส่งเงินไปให้ทางบ้านทุกเดือนเพื่อให้พ่อแม่ได้ในชีวิตประจำวันและใช้ไปหาหมอ เมื่อถึง

เทศกาลพิเศษเช่น ตรุษจีน เธอก็ไม่ลืมที่จะซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ให้พ่อ แม่ และน้องเสมอๆ ส่วนของตัวเธอเองนั้น

เท่าที่จำความได้ไม่เคยมีเสื้อผ้าใหม่ เพราะทั้งหมดเป็นของเก่าที่ได้รับบริจาคมา

เหอผิง ผู้เป็นทั้งพี่สาว และแม่จำเป็น เธอหวังว่าน้องชายของเธอจะเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ

       คนจนผู้ยิ่งใหญ่
       
       กรกฎาคม ปี 2008 เหอผิงบังเอิญเจอข่าวเล็กๆ ในหนังสือ

พิมพ์ท้องถิ่น เกี่ยวกับเด็กนักเรียนมัธยมฐานะยากจนที่ขอรับ

บริจาคเงินกว่าแสนหยวนเพื่อให้มารดาของเขาได้เข้ารับการ

ผ่าตัด เหอผิงอยากช่วย เพราะเธอรู้รสชาติของความลำบากนั้นดีเพราะบิดาของเธอก็ได้รับการผ่าตัดเพราะเงินบริจาค เธอจึงตัด

สินใจบริจาคเงิน 1600 หยวน จากเงินเก็บราว 3000 หยวนที่

เธอทำงานมาทั้งชีวิต ให้เด็กชายคนนั้น เมื่อเด็กชายทราบว่าพี่

สาวผู้ใจดีที่บริจาคเงินให้เขาในครั้งนี้อาจจะเป็นคนที่มีฐานะยาก

จนกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ จึงตื้นตันในมากและขอบคุณเหอผิงผ่านทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับนั้น
       
       เมื่อย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ดงกล่าว เหอผิง บอกว่าแม้ว่าเธอจะจนเงินทอง แต่ไม่ได้จนสติปัญญา ในยาม

ที่เธอลำบากก็เคยได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นเช่นกัน "ฉันต้องการที่จะตอบแทน ขณะเดียวกันก็เป็น

การให้กำลังใจตัวเองด้วยว่า ฉันไม่ใช่คนที่เอาแต่ยื่นมือรับเงินของคนอื่น ขอเพียงทุกคนมีความรัก

และเมตตา สังคมก็จะสวยงามกว่านี้อีกมาก"
       
       เป็นดั่งทานตะวันกลางแสงอาทิตย์
       
       เหอผิง เป็นเด็กร่าเริง ยิ้มเก่ง จนคนภายนอกนึกภาพไม่ออกว่าเธอเป็นคนเดียวกับเด็กสาวที่แบกภาระของ

ครอบครัวเอาไว้มากมาย ในด้านการเรียน เหอผิงอยู่ในระดับแนวหน้า เคยได้รับรางวัลชนะเลิศการพูดทั้งภาษา

จีนและภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้เธอยังเป็นนักร้อง นักโต้วาที และพิธีกร ของมหาวิทยาลัย

ในห้องเช่าเล็กๆ ของเธอจึงประดับไปด้วยประกาศนีบัตรใบแล้วใบเล่า และด้วยความสามารถที่โดดเด่นรอบ

ด้านทำให้เธอเพิ่งได้เป็นตัวแทนจำหน่ายบัตรเงินสดสำหรับใช้จ่ายในมหาวิทยาลัยให้นักศึกษา ซึ่งค่าตอบแทนมากกว่าการเป็นครูสอนพิเศษตามบ้านหลายช่วงตัว
       
       "วันเวลาที่ยากลำบากที่สุดของฉันผ่านไปแล้ว ฉันมั่นใจว่าทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น" เหอผิงกล่าวด้วยความ

มั่นใจเต็มเปี่ยมตามนิสัยของเธอ
       
       สำหรับหลายคนอุปสรรคอาจทำให้ท้อแท้ แต่สำหรับบางคนขวางหนามกลับเป็นแรงผลักดันให้

ฮึดสู้ต่อไป ที่หัวนอนในห้องเช่าเล็กๆ ของเหอผิงแปะรูปดอกทานตะวันเอาไว้ เพราะเธอชอบดอก

ทานตะวัน แม้ว่าจะเป็นดอกไม้พื้นๆ ที่ขึ้นตามท้องทุ่ง แต่ทานตะวันหันหน้าเข้าหาแสงสว่างจากดวงอาทิตย์เสมอ เช่นเดียวกับ เหอผิง เด็กสาวที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังชีวิต ไม่เคยย่อท้อต่อชะตากรรมที่

โถมซัดเข้ามา แต่กลับเปลี่ยนทุกบาดแผลมาเป็นพลัง ให้หัวใจดวงน้อยแกร่งพอที่จะนำพานาวา

ชีวิตฝ่าคลื่นลมไปถึงฝั่งฝันจนได้ในสักวัน

 




ข้อคิดมุมมอง เชื่อหรือไม่ สาระน่ารู้ เรื่องจริง หรือหลอกลวง (พุทธวจน การเป็นหนี้เป็นทุกข์ในโลก)

ข้อควรระวังในการซื้อของออนไลน์ article
ซื้อของออนไลน์โปรดระวัง article
5 สุดยอด SELF-TRANSFORM เปลี่ยนตัวเองให้ตื่นเช้า เป็นที่รัก ตัดสินใจเด็ดขาด article
‘กฎ 20 วินาที’ ใช้ความขี้เกียจให้เป็นประโยชน์ article
ไม่ต้องฉลาดกว่าใคร เอาแค่ ‘ฉลาดกว่าตัวเอง’ ก็พอ article
เกิดมาต้นทุนต่ำ ก็รวยได้ ทำแบบนี้ article
อาชีพ ที่ทำรายได้สูงสุด ในปี2021 article
ใครเป็นคน ลิขิตชีวิตคุณ article
4 คุณสมบัติที่บ่งชี้ว่าคุณมี "วุฒิภาวะ" article
4 วิธี "ดึงดูดเงินเข้ามาในชีวิต" article
4 สิ่งที่ควรจำ เพื่อจะทำให้ "สำเร็จ" article
เหตุผลที่ทำให้คุณเป็นคนไม่มั่นใจ article
ทำตัวยังไง ? ให้มีเสน่ห์ article
27 ข้อคิด ในชีวิต 27 ปี article
จะเริ่มรับรู้คุณค่าในตัวเองอย่างไร จากที่ Low Self-Esteem มาทั้งชีวิต article
กลับมารักตัวเองอย่างไรหลังผูกชีวิตติดกับคนอื่น? จัดการความรู้สึกเมื่อถูกทักว่าอ้วน? article
ถ้าสมองสั่งให้รักเงิน จะทำให้อย่างไรมีความสุขนอกจากการใช้เงินบ้าง article
วิธีแก้ท้อที่ดีที่สุด article
5 soft skills ที่เป็นที่ต้องการที่สุดในยุคนี้ article
วิธีเด็ดสลัดอารมณ์หรือความคิดที่เราไม่ชอบ article
คิดจะ “ฆ่าตัวตาย” มีทางออกที่ง่ายกว่านั้นเยอะ article
เลิกกันแล้วยังเกลียดชัง~ระวังลูกจะมีปัญหา!!! article
สังคมเลว...เพราะคนดีท้อแท้!!! article
เปลี่ยนคำพูดธรรมดาให้มีคุณค่าทางใจ article
บอกข้อผิดพลาดโดยไม่ยั่วโมโหอีกฝ่าย article
การโน้มน้าวใจแบบไม่กดดัน สบายใจทั้งเขาและเรา article
เคล็ดลับความมั่นใจคือ "เห็นคุณค่าในตัวเอง" article
4 สิ่งที่ควรจำ เพื่อจะทำให้ "สำเร็จ" article
5 สิ่ง "ทรงคุณค่าที่คนธรรมดาก็ทำได้" article
20 อย่างที่แสดงว่าคุณเติบโตแล้ว และกำลังมีชีวิตที่ดี article
คำถามสำคัญคือ “จะลงมือเมื่อไรดี” article
เอาชนะตัวเอง article
ถ้าอยากมีความสุขขึ้น อย่าพูดแบบนี้ article
ใครติดโซเชียลจนไม่ได้ทำสิ่งที่ควรทำ..แก้ได้ article
คนแบบนี้ยังไงก็มีความสุข article
ทำดีเอาหน้า อย่างนี้ก็ได้หรอ ! article
ถ้าฝึกนิสัยนี้ ยังไงก็ไม่ ล้มเหลว article
เด็กรุ่นใหม่ ไม่มีสมาธิ จริงหรือ ? article
ความรัก article
อิสระภาพกับการตามใจ article



เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน