|
เหอผิง และ เหอจวิน น้องชายอันเป็นที่รัก |
|
|
เหอผิง กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 ภาควิชาภาษาต่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีหูหนาน เธอหัวเราะเก่ง ชอบเล่นกีฬา รักการร้องเพลง เป็นทั้งเด็กเรียนและเด็กกิจกรรมแถว
หน้าของทางมหาวิทยาลัย ความสดใสมีชีวิตชีวาของเธอคงจะไม่แตกต่างจากหนุ่มสาววัยเดียวกัน
ถ้าเพียงแต่ว่าเหอผิงจะไม่ได้อยู่ในครอบครัวที่มีพ่อผู้พิการจากอุบัติเหตุ แม่ซึ่งเป็นโรคระบบประสาท
บกพร่อง และน้องชายที่เป็นโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด
เหอผิง เกิดเมื่อปี 1991 เป็นชาวตำบลเฉิงถานเจียง เมืองหลิวหยัง มณฑลหูหนาน ครอบครัวของ
เธอเป็นครอบครัวยากจนเพียงไม่กี่ครอบครัวในเมืองที่ร่ำรวยจากการเป็นแหล่งผลิตพลุและประทัดส่ง
ออกที่ขึ้นชื่อของประเทศจีน เหอหรงบิดาผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถทำงาน
หนักจึงต้องไปเป็นคนงานในโรงงานทำพลุ มารดาป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาท
ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป
เนื่องจากบิดามารดาร่างกายไม่แข็งแรง ต้องหมดเงินไปกับการรักษาพยาบาล ขณะที่รายได้ของ
ครอบครัวไม่เพียงพอกับรายจ่าย เหอผิงที่เพิ่งจะรู้เดียงสาจึงหาทางหารายได้พิเศษด้วยการไปรับจ้างม้วน
กระดาษห่อประทัดในโรงงานตั้งแต่อายุได้ 5 ขวบ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เหอ อิ่งชุน ผู้อำนวยการโรงเรียน
ประถมศึกษาอู๋เถียนที่เหอผิงเคยเรียน เล่าให้ฟังว่ายังจำได้ดีถึงเวลาเปิดภาคเรียนใหม่ทุกเทอม เด็กหญิง
เหอผิงจะกำเงินยับย่นยู่ยี่เลอะสีแดงที่มาจากน้ำพักน้ำแรงในโรงงานประทัดมาจ่ายค่าเทอมเสมอๆ
ส่วนผลการเรียนของเหอผิงอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยเหอผิงเล่าว่าความรักเรียนและความกระหายในวิชา
ความรู้ของเธอมาจากความกลัวที่ว่า อาจมีวันใดวันหนึ่งที่เธอจะ "ไม่มีโอกาสได้เรียนอีกต่อไป"
เมื่ออายุได้ 12 ปี เหอจวิน น้องชายผู้เป็นโรคหัวใจก็ถือกำเนิดขึ้นมาในครอบครัว ทว่าความยากลำบาก
ในชีวิตของเหอผิง ดูเหมือนว่าเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น เดือนมีนาคม ปี 2008 เหอหรงผู้พ่อเกิดมีเลือดออกใน
สมอง ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 2 ครั้ง ใช้ค่าใช้จ่ายนับหมื่นหยวน เหอผิงจึงต้องลาหยุดเรียนชั่ว
คราวเพื่อไปเที่ยวขอรับบริจาคเงินค่ารักษาพ่อ จากบ้านญาติ โรงงานพลุ และองค์กรการกุศลของรัฐในท้องถิ่น
จนกระทั่งได้เงินมารักษาพ่อสำเร็จ แต่อาการเลือดออกในสมองทำลายขาสองข้างของเหอหรงจนไม่สามารถ
เดินได้ปกติอีกต่อไป เหอหรงเล่าว่าวันที่ต้องออกจากโรงพยาบาล เขากลายเป็นคนทุพลภาพไม่สามารถ
ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวได้ จึงได้แต่ร้องไห้และจับมือบุตรสาวเอาไว้ แต่กลับเป็นเหอผิงบุตรสาวที่เข้มแข็ง
กว่า กล่าวปลอบใจพ่อว่า "เมื่อยังมีชีวิตก็ยังมีความหวัง ขอเพียงพ่อยังอยู่กับหนู เราจะข้ามผ่านมัน
ไปด้วยกัน"
|