ระวัง!ดื่มแก้หนาว หมอเตือนถึงตาย เมาไม่บันยะบันยัง
ดื่มเหล้าแก้หนาวได้ต้องระวังอาจช็อกตาย เนื่องจากเลือดไหลเวียนช้า เตือนหนุ่มสาวชาวแคมป์ ระวังไข้ป่า
นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รักษา ราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โดยทั่วไปเหล้าจะมีเอทิลแอลกอฮอล์ที่กินได้ผสมอยู่ในปริมาณไม่เกิน 60% การที่ประชาชนมีความเชื่อว่าการดื่มเหล้าช่วยคลายหนาวได้นั้น หลังดื่มเหล้าเข้าไป 95% ของแอลกอฮอล์ในเหล้าจะเข้าสูกระแส เลือด ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้หลอดเลือดฝอยทั่วร่างกายขยายตัว เกิดความรู้สึกว่าร้อนวูบวาบ หน้าแดง ทำให้ผู้ดื่ม ถอดเสื้อกันหนาวออก หรือใส่เพียงเสื้อผ้าบางๆ แทน โดยที่ไม่รู้ว่าความร้อนที่เกิดขึ้นหลังดื่มเหล้า ทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนออกไปเร็วขึ้น
|
|
กินเหล้าไปมากๆ ระวัง ทำให้ง่วง งง ซึม อาจทำให้หมดสติได้
หากกินเหล้าไปมากๆ และนานๆ เข้า แอลกอฮอล์จะกดที่ประสาทส่วนกลาง จะทำให้ง่วง งง ซึม อาจทำให้หมดสติได้ หาก อยู่ในที่มีอากาศหนาวเย็นยิ่งอันตราย ความเย็นจะทำให้เลือดในร่างกายมีความหนืดขึ้น การไหลเวียนยากลำบาก อวัยวะต่างๆ ขาดออกซิเจน หัวใจต้องทำงานหนักเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย ทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้ จึงขอย้ำเตือนประชาชนอย่ามองข้ามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ใกล้ตัว และทุกปีจะมีผู้เสียชีวิตจากหนาวตายเนืองๆ นพ.ปราชญ์ กล่าว
|
|
นพ.วรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุ้มผาง จังหวัดตาก กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องที่เป็นห่วงที่สุดคือผู้ป่วยโรคมาลาเรียหรือเรียกว่าไข้ป่า ไข้จับสั่น เนื่องจาก ขณะนี้มีผู้ป่วยโรคนี้เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลอุ้มผาง 30 ราย เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เท่าตัว มีทุกเพศ ทุกวัย ที่สำคัญในช่วงนี้มี นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินป่า ตั้งแคมป์กิน บรรยากาศตอนกลางคืนกันมาก อาจติดโรคมาลาเรียจากป่ากลับไปได้ เนื่องจากในป่ามียุงก้นปล่อง การป้องกันตัวควรนอนในเต็นท์ที่มีมุ้งติดอยู่ที่หน้าต่างเต็นท์ ใส่เสื้อผ้าให้ มิดชิด ทายากันยุง เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงกัด และเมื่อนักท่องเที่ยวกลับไปบ้านแล้ว หากเป็นไข้ หนาวสั่น ให้รีบไปพบแพทย์ และให้บอกข้อมูลว่าก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปเที่ยวป่าให้แพทย์ทราบด้วย เพื่อจะได้ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยสาเหตุของโรคได้เร็วขึ้น
|
|
|
ภัย ชีวิตและทรัพย์สินต่างๆ อย่าประมาท เกิดง่าย ดำรงค์ชีวิตยาก การเกิดเป็นทุกข์ในโลก (ระวังๆๆๆๆๆๆๆ
|