ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




อำนาจของประชาชน เพื่อการปฏิรูปประเทศไทย

 

อำนาจของประชาชน เพื่อการปฏิรูปประเทศไทย

 

พงศ์โพยม วาศภูมิ

 

 เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานปฏิรูป ร่วมกับกลุ่มองค์กรต่างๆ 27 องค์กร 32 อำเภอในจังหวัดนครราชสีมา ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน จัดสัมมนา “ทศวรรษใหม่ ปฏิรูปโคราช ปฏิรูปประเทศไทย” ณ ห้องอรพิม โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนขบวนการปฏิรูปโคราชในทุกอำเภอ หลายประเด็น เช่น การปฏิรูปการทำมาหากิน ปฏิรูประบบการจัดการท้องถิ่นและจังหวัด ปฏิรูประบบจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฯลฯ มุ่งหวังให้สังคมโคราชและสังคมไทยเป็นสังคมที่มีความเป็นธรรม ไม่มีความรุนแรงเชิงโครงสร้าง เป็นสังคมอยู่เย็นเป็นสุขอย่างยั่งยืนและเพิ่มอำนาจให้ประชาชน           

 

นายพงศ์โพยม วาศภูมิ  อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีตกรรมการปฏิรูป (คปร.) กล่าวปาฐกถา ในหัวข้อ “อำนาจของประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย”             

 

นายพงศ์โพยม กล่าวถึงแนวคิดของคณะปฏิรูป เรื่องโครงสร้างอำนาจ โดยมองว่าปัจจุบันสังคมไทยมีปัญหาเยอะ ทั้งปัญหาความยากจน สินค้าแพง เป็นหนี้สิน น้ำท่วมที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะในเมืองหรือชนบท ซึ่งปัญหาบ้านเมืองที่เราพบเห็นและพูดถึงอยู่ในขณะนี้เป็นปัญหา ภายนอก  ดังนั้น ทางคณะปฏิรูปจึงมองว่า ปัญหาบ้านเมืองในปัจจุบันเป็น “ปัญหาเชิงโครงสร้างอำนาจ” กล่าวคือ แบ่งสังคมออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ภาครัฐ (ข้าราชการประจำ พนักงานของรัฐ นักการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้ง) ภาคเอกชน (พ่อค้า นักอุตสาหกรรม นักลงทุน) และภาคประชาน (ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน) รวมไปถึง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ทำหน้าที่รับใช้ภาคประชาชน

           

“บ้าน เมืองเราขาดดุลยภาพ ขาดความสมดุลเชิงอำนาจ อำนาจของรัฐมีมากมายมหาศาล สามารถอนุญาต อนุมัติ ยกเว้น จดทะเบียน กำหนดนโยบาย กำหนดงบประมาณ กำหนดหลักการเก็บภาษีมากน้อย เก็บกองทุนน้ำมัน ฯลฯ เห็นได้ชัดว่าทุกอย่างไปอยู่ที่รัฐ”             

 

นายพงศ์โพยม  กล่าวอีกว่า  บ้านเมือง ณ วันนี้ ได้มีการวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลง ไป ปัญหาก็เริ่มสลับซับซ้อนมากขึ้น ความต้องการของแต่ละจังหวัด แต่ละภาค แต่ละอำเภอก็ไม่เหมือนกัน ปัญหาภูเขา แม่น้ำ ทะเล ที่ราบก็แตกต่างกัน ดังนั้น การที่ราชการรวมอำนาจไว้ที่ศูนย์กลางของประเทศ แล้วก็จัดการปัญหาทุกอย่างแบบ “คุณพ่อรู้ดี” ไม่สามารถแก้ปัญหาเมืองไทยได้ทุกเรื่องตลอดไปแล้ว ก็จะเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ยากจนสะสมไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะ ความเหลื่อมล้ำ เรื่องการถือครองที่ดิน          

 

“เชื่อ หรือไม่ว่า ในกรุงเทพฯ 50 ตระกูลแรกครองที่กรุงเทพฯ 10% หมายความว่ากรุงเทพฯ มีพื้นที่ 1,500 ตร.กม. ตีเป็นที่หลวงและถนนหนทางไป 500 ตร.กม. อีก 1,000 ตร.กม. มีเจ้าของไปแล้ว 100 ตร.กม. 1 ตร.กม. 625 ไร่ หมายความว่ามี 50 ตระกูลที่ครอบครองที่กรุงเทพฯ ซึ่งแพงมหาศาลคิดดูว่าคนเหล่านี้จะรวยขนาดไหน”  อดีตกรรมการปฏิรูป กล่าว
   

 

มีตัวเลขที่น่าสนใจ พบว่าที่ในประเทศไทย 100% มีคน10% ถือครองที่ดินไป 90% ส่วนคนอีก 90% ถือครองที่ดินเพียง 10% เหล่านี้คือ ความเหลื่อมล้ำในเรื่องการถือครองที่ดินและเรื่องทรัพย์สิน             

 

 

ในส่วนความเหลื่อมล้ำเรื่องการ ศึกษา อดีตกรรมการปฏิรูป กล่าวว่า ก็พบว่า ตกระเนระนาด การประเมินผลนักเรียนนานาชาติ PISA อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า น่าสงสาร  ในเอเชียประเทศจีน อินเดียเก่งกันหมด มีแต่ไทยกับอินโดนีเซียที่อยู่ในสถานะน่าสงสาร   ยังไม่นับเด็กที่ต้องตกหล่นจากระบบการศึกษา จะเห็นได้ว่า ขณะที่เมืองไทยดูเหมือนจะดี แต่จริงๆ ปัญหาฝังตัว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำเรื่องรายได้ ปัญหาการศึกษา ปัญหาการถือครองที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสาธารณสุข        

 

 

“ เห็นได้ว่า ความเหลื่อมล้ำมีอยู่ทุกหัวระแหง เกิดขึ้นเพราะความไม่สมดุลเชิงโครงสร้างอำนาจ กล่าวคือ รัฐไปรวมอำนาจไว้หมด ทำให้ประชาชนอ่อนแอลงทุกวัน” 

 

 

 สิ่งที่คณะปฏิรูป เสนอไว้ ได้แก่ 1.ยกเลิกภูมิภาค และโอนอำนาจการจัดการของท้องถิ่นให้ อปท. ประเด็นนี้กระทรวงมหาดไทยตื่นเต้นและวิพากษ์วิจารณ์มาก ซึ่งไม่ได้หมายความว่าไม่มีผู้ว่า ราชการจังหวัด ไม่มีนายอำเภอ ไม่มีกำนันผู้ใหญ่บ้าน ถ้าอยากจะมีก็มีได้ แต่ให้ไปสังกัดส่วนกลางแทน และ .2.ส่วนกลางลดทอนหน้าที่ให้น้อยลง ให้ประชาชนทำด้วยตนเองมากขึ้น       

 

 

 “สิ่งที่ คณะปฏิรูปเสนอ คือ ให้มีภาคประชาสังคมมีบทบาทถ่วงดุลกับสภาท้องถิ่น หากนโยบายที่ท้องถิ่นจะทำแล้วแล้วประชาชนไม่เห็นตัวก็อาจต้องมีกลไกเช่น ลงประชามติ หรือลงประชามติถอดถอนนายกฯ โดยภาคประชาชน และยังเห็นว่า อำนาจบางส่วนให้ตรงไปที่ภาค ประชาสังคมเลย เช่น ประชาชนมีเครือข่ายการศึกษา วัฒนธรรม ให้อำนาจและงบประมาณส่งตรงไปเลย ให้ประชาชนดูแลเรื่องความสะอาด ความเป็นระเบียบในบ้านเมืองด้วยตัวเอง”             

 

 

สุดท้ายแนวความคิดเหล่านี้ นายพงศ์โพยม กล่าวว่า ทางคณะปฏิรูปเห็นว่า สามารถนำไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ เห็นด้วยในส่วนใดก็ดำเนินตามในส่วนนั้น และไม่กำหนดขอบเขตเวลาในการดำเนินการ อีกทั้งคณะปฏิรูปก็ไม่มีหน้าที่ในการผลักดันแนวนโยบายได้มากนัก ขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคน หากฟังแล้วก็เห็นด้วยก็ปฏิบัติตาม.

 




ข้อคิดมุมมอง เชื่อหรือไม่ สาระน่ารู้ เรื่องจริง หรือหลอกลวง (พุทธวจน การเป็นหนี้เป็นทุกข์ในโลก)

ข้อควรระวังในการซื้อของออนไลน์ article
ซื้อของออนไลน์โปรดระวัง article
5 สุดยอด SELF-TRANSFORM เปลี่ยนตัวเองให้ตื่นเช้า เป็นที่รัก ตัดสินใจเด็ดขาด article
‘กฎ 20 วินาที’ ใช้ความขี้เกียจให้เป็นประโยชน์ article
ไม่ต้องฉลาดกว่าใคร เอาแค่ ‘ฉลาดกว่าตัวเอง’ ก็พอ article
เกิดมาต้นทุนต่ำ ก็รวยได้ ทำแบบนี้ article
อาชีพ ที่ทำรายได้สูงสุด ในปี2021 article
ใครเป็นคน ลิขิตชีวิตคุณ article
4 คุณสมบัติที่บ่งชี้ว่าคุณมี "วุฒิภาวะ" article
4 วิธี "ดึงดูดเงินเข้ามาในชีวิต" article
4 สิ่งที่ควรจำ เพื่อจะทำให้ "สำเร็จ" article
เหตุผลที่ทำให้คุณเป็นคนไม่มั่นใจ article
ทำตัวยังไง ? ให้มีเสน่ห์ article
27 ข้อคิด ในชีวิต 27 ปี article
จะเริ่มรับรู้คุณค่าในตัวเองอย่างไร จากที่ Low Self-Esteem มาทั้งชีวิต article
กลับมารักตัวเองอย่างไรหลังผูกชีวิตติดกับคนอื่น? จัดการความรู้สึกเมื่อถูกทักว่าอ้วน? article
ถ้าสมองสั่งให้รักเงิน จะทำให้อย่างไรมีความสุขนอกจากการใช้เงินบ้าง article
วิธีแก้ท้อที่ดีที่สุด article
5 soft skills ที่เป็นที่ต้องการที่สุดในยุคนี้ article
วิธีเด็ดสลัดอารมณ์หรือความคิดที่เราไม่ชอบ article
คิดจะ “ฆ่าตัวตาย” มีทางออกที่ง่ายกว่านั้นเยอะ article
เลิกกันแล้วยังเกลียดชัง~ระวังลูกจะมีปัญหา!!! article
สังคมเลว...เพราะคนดีท้อแท้!!! article
เปลี่ยนคำพูดธรรมดาให้มีคุณค่าทางใจ article
บอกข้อผิดพลาดโดยไม่ยั่วโมโหอีกฝ่าย article
การโน้มน้าวใจแบบไม่กดดัน สบายใจทั้งเขาและเรา article
เคล็ดลับความมั่นใจคือ "เห็นคุณค่าในตัวเอง" article
4 สิ่งที่ควรจำ เพื่อจะทำให้ "สำเร็จ" article
5 สิ่ง "ทรงคุณค่าที่คนธรรมดาก็ทำได้" article
20 อย่างที่แสดงว่าคุณเติบโตแล้ว และกำลังมีชีวิตที่ดี article
คำถามสำคัญคือ “จะลงมือเมื่อไรดี” article
เอาชนะตัวเอง article
ถ้าอยากมีความสุขขึ้น อย่าพูดแบบนี้ article
ใครติดโซเชียลจนไม่ได้ทำสิ่งที่ควรทำ..แก้ได้ article
คนแบบนี้ยังไงก็มีความสุข article
ทำดีเอาหน้า อย่างนี้ก็ได้หรอ ! article
ถ้าฝึกนิสัยนี้ ยังไงก็ไม่ ล้มเหลว article
เด็กรุ่นใหม่ ไม่มีสมาธิ จริงหรือ ? article
ความรัก article
อิสระภาพกับการตามใจ article



เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน