เตือนภัย "ต้มตุ๋นสมัครงาน" นักศึกษาจบใหม่ต้องระวัง!!!
ปัญหา “ต้มตุ๋นสมัครงาน” ที่ส่อแววระบาดหนัก !!
ทั้งนี้ จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ คนไทยวัยทำงานเสี่ยงถูกเลิกจ้างงานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากนี้ไป “ภัยสังคม” ขบวนการต้มตุ๋นหลอกลวงเกี่ยวกับตำแหน่งงานอาจอาละวาดหนักขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็เตือนประชาชนให้ระวังถูกหลอกลวงเข้าทำงานแล้วชักชวนให้นำเงินร่วมหุ้น-ร่วมทุนโดยใช้ผลประโยชน์ตอบแทนสูง ๆ เข้าล่อใจ ซึ่งเป็นการต้มตุ๋นรูปแบบหนึ่ง คล้าย ๆ กับ “แชร์ลูกโซ่”
กับภัยต้มตุ๋นเรื่องตำแหน่งงานนี้ พิชัย เอกพิทักษ์ดำรง อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานบอกถึงการป้องกันของประชาชน ผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ว่า... “วิธีที่ดีที่สุดที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อ คือต้องไม่หลงเชื่อคำชักชวนกล่าวอ้างเกินจริงของมิจฉาชีพ ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัดเสียก่อน”
อธิบดีกรมการจัดหางานบอกต่อไปว่า... การหลอกลวงว่าจะพาไปทำงานต่างประเทศ ขณะนี้ก็ยังเป็นหนึ่งในรูปแบบปัญหาที่พบมาก มีทั้งที่จ่ายเงินค่าบริการแล้วไม่ได้เดินทางไป หรือเดินทางไปแล้วไม่ได้ทำงาน หรือได้ไป-ได้ทำงานแต่ไม่ได้รับค่าจ้างตามที่ตกลงไว้ นี่ยังเป็นปัญหาที่พบบ่อยที่สุดจากการรับเรื่องราวร้องทุกข์
นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีรูปแบบการหลอกลวงใหม่ ๆ ที่ซับซ้อนมากขึ้นไปอีก อาทิ การเปิดบริษัท พร้อมจัดส่งเด็กไปทำงานต่างประเทศ แบบ “เวิร์ก แอนด์ แทรเวล (Work and travel)” ซึ่งเป็นการอาศัยช่องว่างทางกฎหมาย ทั้งในส่วนของกระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งรูปแบบนี้ก็กำลังระบาดมากขึ้น จากกระแสที่เด็กนักเรียนต้องการไปฝึกภาษา หาประสบการณ์ในต่างแดน
“หลอกไปที่อเมริกาในช่วงเดือน เม.ย. จะมากเป็นพิเศษ เพราะ เด็กปิดเทอม หลอกพาเด็กไปทำงานประเภทใช้แรงงาน งานรูทีน ไม่ใช่งานที่ได้ฝึกภาษาตามที่ตกลงกันไว้ และรายได้ก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลงเช่นกัน ซึ่งที่ออสเตรเลียก็กำลังเป็นอีกเป้าหมาย โดยบริษัทพวกนี้จะสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการไปออกบูธรับสมัครเวลาที่ภาครัฐจัดงานจัดกิจกรรม ต่าง ๆ” ...อธิบดีพิชัยกล่าว
พร้อมทั้งระบุอีกว่า... อีกพฤติกรรมแก๊งต้มตุ๋นแรงงานไปทำงานต่างประเทศซึ่งอาจใช้เป็นจุดสังเกตได้ก็คือ พวกนี้จะหว่านล้อม-จะเตี๊ยมกับแรงงานว่าให้แจ้งเดินทางด้วยตนเอง ซึ่งถ้าไปแล้วได้งานไม่ตรงตามตำแหน่ง รายได้น้อยกว่าที่ตกลงกันไว้ หรืออะไรก็ตามที่ไม่เป็นไปตามสัญญา เมื่อแรงงานร้องเรียนกับกรมการจัดหางานทางบริษัทพวกนี้ก็ไม่ต้องรับผิดชอบแม้แต่บาทเดียว เงินประกัน 5,000,000 บาทที่วางไว้กับกรมการจัดหางานก็จะไม่ถูกหักเพื่อชดเชยให้แรงงาน ซึ่งที่ผ่านมาปัญหานี้มักจะเกิดกับการไปทำงานประเทศแถบยุโรปตะวันออก
“ต้องไม่หลงเชื่อคำกล่าวอ้างเกินจริงของมิจฉาชีพเหล่านี้ และ ที่สำคัญอย่ารีบร้อนจ่ายเงินให้ไป ควรสอบถามข้อมูล ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมการจัดหางานหรือหน่วยงานในสังกัดที่ตั้งอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ หรือในเบื้องต้นต้องตรวจสอบบัตรประชาชน ขอจดบันทึก ขอถ่ายเอกสารไว้ ขอดูบัตรลูกจ้างหรือตัวแทนจัดหางาน ควรเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุดแล้วไปตรวจสอบสถานะกับกรมการจัดหางาน รวมไปถึงตรวจสอบตำแหน่งงานที่มีอยู่จริงด้วย” ...อธิบดีกรมการจัดหางานกล่าวเตือน
ด้าน วรรณพร ศรีวัฒนางกูล ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัทจัดหางาน แมนพาวเวอร์ ให้ข้อมูลว่า... การหลอกลวงผู้สมัครงานนั้นมีทุกระดับตำแหน่งงาน รวมถึงหลอกลวงบริษัทที่ต้องการรับพนักงานก็ยังมี ซึ่งช่วงเศรษฐกิจเช่นนี้สำหรับผู้ต้องการสมัครงานยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
การหลอกลวงนั้นก็มีหลายรูปแบบ เช่น ตั้งโต๊ะรับสมัครงานและเรียกเก็บเงินทันที ทั้งที่ไม่มีตำแหน่งงานจริง, มีงานให้ทำแต่ไม่ตรงตามตำแหน่ง หรือเงินเดือนน้อยกว่าที่ตกลง, อ้างว่าต้องมีการอบรมก่อนและเรียกเก็บค่าอบรม หรืออีกกรณีหนึ่งคือ มีงานให้ทำ แต่จะหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จากเงินเดือน โดยอ้างว่ามีระบุไว้ในสัญญา ซึ่งตอนที่ทำสัญญาจะไม่ให้ผู้สมัครงานอ่านสัญญา หรือทำสัญญาเป็นภาษาอังกฤษ
“ข้อควรระวังเบื้องต้นสำหรับผู้สมัครงานคือพึงรับรู้ว่าการรับสมัครงานไม่มีค่าใช้จ่าย ถ้าพบการเรียกเก็บเงินแจ้งตำรวจจับได้เลย และสัญญาจ้างงานต้องได้อ่าน ต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนที่จะเซ็นชื่อ หรือหากถูกพาไปในห้องบรรยากาศแปลก ๆ รีบออกมาทันที ไม่ต้องไปเกรงใจ” ...วรรณพรระบุ
ก็นำมาเตือนกันไว้...สำหรับ “ภัยต้มตุ๋นสมัครงาน”
ระวัง “มารสังคมซ้ำเติมปัญหาว่างงาน-ตกงาน”
มันกำลังรอขย้ำเหยื่อฝูงใหญ่...อย่างเลือดเย็น !!.