ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




วิธีเพิ่มศักยภาพสมองลูกวัยรุ่น/ดร.แพง ชินพงศ์ article

วิธีเพิ่มศักยภาพสมองลูกวัยรุ่น/ดร.แพง ชินพงศ์

ขอบคุณภาพประกอบข่าวจากรพ.มนารมย์
       หลายคนอาจจะเข้าใจไปว่าสมองของคนเราจะพัฒนาในช่วงวัยเด็กแล้วก็หยุดอยู่แค่นั้น แต่แท้จริงแล้วสมองของคนเรามีศักยภาพที่จะสามารถพัฒนาและเรียนรู้ได้ตลอดเวลาอย่างไม่จำกัด เพราะเส้นใยสมองของเรานั้นสร้างใหม่ได้ในทุก ๆ วัน
       
       มีงานวิจัยมากมายที่ยืนยันตรงกันว่า การพัฒนาสมองของลูกในช่วงอายุแรกเกิดถึง 10 ปีนั้น คือการให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการเล่น การทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายต่าง ๆ การจัดสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อพัฒนาการของเด็ก รวมทั้งการดูแลโภชนาการอย่างเหมาะสม แต่น่าเสียดายที่สำหรับการดูแลพัฒนาศักยภาพของสมองลูกในช่วงวัยรุ่น คือในวัย 11-21 ปีนั้น กลับไม่ค่อยมีผู้กล่าวถึงหรือให้ความสำคัญเท่าใดนัก
       
       ผู้เขียนจึงขอนำเสนอวิธีการเพิ่มศักยภาพสมองของวัยรุ่นด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
       
       1. อย่าปล่อยให้ลูกนอนดึก
       
       เด็กวัยรุ่นมักมีกิจกรรมทำยามดึกดื่น ไม่ว่าจะดูโทรทัศน์ เล่นอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์คุยกับเพื่อนหรืออ่านหนังสือ การนอนดึกหรือการอดนอนเป็นประจำนอกจากจะส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย เกิดความเครียดและมีอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวง่ายแล้ว ยังส่งผลต่อการทำงานของสมองด้วยเพราะจะทำให้สมองไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ซึ่งทำให้การเรียนรู้ของลูกไม่ดีเท่าที่ควรเพราะร่างกายและสมองอ่อนล้านั่นเอง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรดูแลให้ลูกพักผ่อนอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าคืนละ 6 ชั่วโมง
       
       2. ให้ลูกกินอาหารประเภทปลาและดื่มน้ำบ่อย ๆ
       
       คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกรับประทานอาหารพวกปลา น้ำมันปลา นมถั่วเหลืองและดื่มน้ำสะอาด เพราะจากการศึกษาวิจัยของสถาบัน MIT มหาวิทยาลัยโอเรกอนและมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ พบว่า เนื้อปลาอุดมด้วยกรดอะมิโน Thyrosine ซึ่งกระตุ้นสารสำคัญในสมอง ทำให้สมองกระฉับกระเฉง มีสมาธิและโอเมก้า-3 ที่อยู่ในปลาจะทำให้การทำงานของสมองดีขึ้นโดยการกระตุ้น ให้เซลล์สมองไวต่อการรับสัญญาณ ดังนั้น หากให้ลูกกินปลามากก็จะทำให้สมองเจริญเติบโตอย่างดี อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆด้วย นอกจากนี้การดื่มน้ำสะอาด ในปริมาณที่เหมาะสมก็มีประโยชน์มากเพราะเซลล์สมองของคนเรามีน้ำประกอบอยู่ถึง 85% ดังนั้น ควรให้ลูกดื่มน้ำบ่อย ๆ เพื่อให้สมองของเขาสดชื่น พร้อมเปิดรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆได้ดี

ขอบคุณภาพประกอบจาก visualphotos.com
       3. ท้าทายให้ลูกเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
       
       คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้ในสิ่งแปลกๆใหม่ๆ เช่นการสนับสนุนให้ลูกไปเรียนพิเศษวิชาศิลปะ ดนตรี ทำอาหาร คอมพิวเตอร์ การซ่อมเครื่องยนต์ หรือทำกิจกรรมต่างๆตามแต่ความสนใจของลูก เพราะการให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่ไม่เคยเรียนรู้มาก่อน จะเป็นการกระตุ้นสมองส่วนความจำ ส่วนการคิดอย่างเป็นระบบ และส่วนของความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี หมดยุคแล้วที่จะให้ลูกอยู่แต่ในกะลา เพราะการที่ไม่ให้ลูกได้เรียนรู้ประสบการณ์ดีๆในโลกกว้างจะทำให้สมองของเขา เฉื่อยชา อย่าลืมว่าสมองจะพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพต้องมีการกระตุ้นอยู่เรื่อยๆ ผ่านการเรียนรู้ต่าง ๆ นั่นเอง
       
       4. ให้ลูกออกกำลังกายเล่นกีฬา
       
       เด็กวัยรุ่นบางคนไม่ชอบออกกำลังกายเพราะขี้เกียจบ้าง กลัวเหนื่อยบ้าง กลัวเสียเวลาทำกิจกรรมอย่างอื่นบ้าง แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องพยายามส่งเสริมให้ลูกวัยรุ่นได้ออกกำลังกายบ้าง เพราะจะเป็นการช่วยกระตุ้นให้สมองของลูกสดชื่นทำงานได้ดี การสนับสนุนให้ลูกเล่นกีฬาประเภททีม เช่น ฟุตบอล ฟุตซอล บาสเกตบอล วอลเล่ย์บอล นอกจากจะเป็นการช่วยพัฒนาในเรื่องของมนุษยสัมพันธ์ในการรู้จักการทำงาน เป็นteam workของลูกได้ดีเยี่ยมแล้ว การเล่นกีฬาเป็นทีมยังช่วยฝึกสมองในการแก้ปัญหา การวางแผน และการคิดอย่างเป็นขั้นเป็นตอนอีกด้วย นอกจากนี้การพาลูกไปเล่นกีฬาพวกแบดมินตัน เทนนิส ปิงปอง นอกจากฝึกให้สายตาและร่างกายของลูกทำงานประสานกันอย่างเป็นระบบแล้ว ยังฝึกสมองลูกในการคิดวางแผนในการเล่นเพื่อแข่งขันกับคู่ต่อสู้อีกด้วย

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.homemorals.com
       5. ให้ลูกฝึกสมาธิ
       
       การให้ลูกฝึกสมาธิในที่นี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะการนั่งสมาธิในแง่ของทางศาสนาแต่อย่างเดียว แต่หมายความรวมถึงการฝึกให้ลูกนั่งนิ่งๆอยู่เงียบๆ เพื่อเป็นการฝึกการสร้างสติและการรู้คิดให้เกิดขึ้นภายในตน นอกจากนี้การให้ลูกนั่งนิ่งๆฟังเพลงบรรเลงช้าๆเบาๆที่มีเสียงธรรมชาติประกอบ ก็เป็นการฝึกสมาธิได้ดีด้วยอีกวิธีหนึ่ง เพราะเสียงเพลงที่มีจังหวะและทำนองช้าจะช่วยทำให้จิตใจปลอดโปร่ง เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้เกิดสมาธิ ซึ่งส่งผลในการช่วยพัฒนากระบวนการเรียนรู้ให้กับสมองอีกทั้งช่วยให้สมองสามารถจดจำสิ่งต่าง ๆได้ดีขึ้น ดังนั้นก่อนที่ลูกจะทำกิจกรรมใด ไม่ว่าจะอ่านหนังสือ จะเล่นกีฬาหรือแม้กระทั่งก่อนเข้านอน ควรฝึกให้ลูกทำสมาธิก่อนเพราะเมื่อสมองผ่อนคลายแล้วก็จะทำให้มีความสุขและสามารถทำกิจการงานต่างๆให้สำเร็จอย่างดีได้แน่นอน
       
       6. ฝึกให้ลูกจดจำทิศทาง
       
       เวลาที่คุณพ่อคุณแม่พาลูกไปสถานที่ใด เช่น ไปที่โรงเรียน ไปที่ทำงานของคุณพ่อคุณแม่ ไปตลาด ไปสถานีตำรวจ ไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน ควรฝึกให้ลูกคอยช่วยสังเกตทิศทาง ด้วยการให้ลูกจดจำขั้นตอนการเดินทาง เช่น ผ่านสถานที่ใดบ้าง ลงรถที่ป้ายไหน ต่อรถอย่างไร เมื่อลูกได้เรียนรู้การจดจำทิศทางแล้ว ในคราวที่ต้องเดินทางอีกครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจจะให้ลูกเป็นคนนำทางไปให้ หรือให้ลูกเป็นคนอธิบายแผนการเดินทางให้ การทำเช่นนี้เป็นการฝึกและพัฒนาสมองของลูกในเรื่องของสมองส่วนมิติสัมพันธ์ และสมองส่วนความจำโดยตรง ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ลูกเกิดความเชื่อมั่นในตนเองและภาคภูมิใจในตนเองว่าเขาสามารถแนะนำทิศทางให้แก่คนอื่นได้
       
       อย่าลืมว่าสมองของคนเราสามารถพัฒนาได้ตั้งแต่เกิดจนตาย คุณพ่อคุณแม่ทุกคนจึงไม่ควรละเลยในการส่งเสริมศักยภาพของสมองลูกตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กๆเรื่อยไปจนกระทั่งลูกอยู่ในช่วงวัยรุ่น เพราะเมื่อสมองลูกได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้องเต็มที่สมบูรณ์พร้อมตามวัยแล้ว ก็เชื่อได้ว่าลูกของเราจะเป็นคนเก่งในการเรียนรู้ได้อย่างแน่นอน




แพทย์ วิสัญญี เภสัชกร ยาแผนปัจจุบัน การดูแลผู้ป่วย สาระน่ารู้เกี่ยวกับโรคต่างๆ

ควรทานยาปฏิชีวนะให้ครบ
ดื่มน้ำไม่เพียงพอ
โรคฉี่หนู
อย่ากินแอปเปิ้ลไซเดอร์ถ้าไม่รู้ 4.5 ข้อนี้ article
ผิวดำง่ายมากเกิดจาก 6 ข้อนี้ article
กินอาหารแล้วอ้วนจริงหรือ article
เอ็นข้อศอกอักเสบ เกิดจากอะไร? article
เจาะลึกกระบวนการ 'ทดลองยาในคน' article
กว่าจะเป็นยา ต้องผ่านขั้นตอน อะไรบ้าง? article
5 โรคร้ายรักษาง่ายๆด้วย ข้าวกล้อง article
เคล็บลับนอนหลับง่ายๆโดยไม่ต้องใช้ยา article
5 อาหารไขมันสูงยิ่งกินยิ่งผอม article
มือชา รักษาอย่างไร? เข้าใจทุกประเด็นในคลิปนี้ article
กระดูกพรุน รักษาอย่างไร? เข้าใจทุกประเด็นในคลิปนี้ article
เท้าปุก คืออะไร? รักษาอย่างไร? article
กระดูกสันหลังเสื่อม รักษาอย่างไร? เข้าใจทุกประเด็นในคลิปนี้ article
ปวดหลังร้าวลงขา นั่งไม่ได้ รักษาอย่างไร? article
โรคท้องผูก ลำไส้ทำงานอย่างไร? เข้าใจทุกประเด็นในคลิปนี้ article
การรับมือกับโรคมะเร็ง article
โรคหลอดเลือดหัวใจในหนุ่มสาว article
การจัดการโรคไตเรื้อรัง และสิ่งที่เชื่อผิดๆ article
น้ำดื่มบำรุงไต ไม่อยากฟอกไตต้องดู article
5 ความเชื่อผิดๆที่ทำให้ลดน้ำหนักไม่มีวันสำเร็จ article
7 วิธีควบคุมความดันโดยไม่ต้องพึ่งยา article
3 เทคนิคลดความอ้วน “#ไม่ต้องออกกำลังกาย” article



เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน