แพทย์พบคนไทยฉีดฟิลเลอร์ตาบอดแล้ว 3 ราย
สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ พบคนไทยฉีดฟิลเลอร์ตาบอดแล้ว 3 ราย ย้ำฉีดฟิลเลอร์ช่วยลดริ้วรอยได้เพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น ควรศึกษาให้ดี
รศ.นพ.นภดล นพคุณ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้รับทราบปัญหาการฉีดฟิลเลอร์ หรือ สารเติมเต็มเพื่อช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้ที่รับการฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอดทันที จึงอยากฝากเตือนไปยังประชาชนที่คิดจะทำเสริมสวยด้วยวิธีนี้ว่าทำแล้วคุ้มค่าหรือไม่ ต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะรอบดวงตาถือเป็นส่วนที่ละเอียดอ่อนและอันตรายมาก แม้แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จะหลีกเลี่ยงไม่ทำเสริมสวยตรงบริเวณดังกล่าวเลย เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดจะแก้ไขไม่ได้ อีกทั้งการฉีดฟิลเลอร์นี้ยังสามารถลดริ้วรอยได้เพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น ไม่ได้ถาวร จึงอยากให้ระมัดระวัง ไม่ควรเสี่ยง
ด้าน ศ.นพ.ประวิตร อัศวานนท์ ประธานวิชาการสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผู้ป่วยที่ตาบอดจากการฉีดฟิลเลอร์ จากข้อมูลเป็นผู้หญิง อายุไม่มาก กรณีดังกล่าวเพิ่งเกิดเหตุการณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคนไข้ไปใช้บริการที่สถานบริการเอกชน ขณะนี้ส่งมารักษาตัวที่ รพ.รัฐแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จากการตรวจสอบข้อมูลกรณีนี้พบว่า ฟิลเลอร์ที่ฉีดนั้นได้รับอนุญาตถูกต้องจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ส่วนคนที่ฉีดก็เป็นแพทย์
ดังนั้นจึงอยากเตือนไปยังผู้ใช้บริการว่า การรักษาอะไรก็ตามทุกครั้งมีความเสี่ยง ต่อให้ปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ หรือทำกับแพทย์ที่เก่งมีฝีมือก็มีโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนได้ อย่างกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นทราบว่าฉีดลบริ้วรอยรอบดวงตาปรากฏว่าตาบอดทันที เนื่องจากฟิลเลอร์เข้าไปเส้นเลือดที่อยู่บริเวณรอบดวงตา
รศ.นพ.พรชัย สิมะโรจน์ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า การใช้เข็มฉีดบริเวณรอบดวงตา หากโดนเส้นเลือดดำโดยตรง หรือฉีดโดนเส้นเลือดแดง เส้นเลือดฝอยแล้วมีแรงอัดต่อไปยังเส้นเลือดดำ สารแปลกปลอมที่ฉีดเข้าไปก็มีโอกาสไปอุดตันทำให้เกิดอาการตาบอดได้ ส่วนจะบอดมากน้อยแค่ไหนนั้นเป็นเรื่องอีก เพราะบางรายอาจจะไม่ถึงขั้นบอดสนิท แต่อาจจะมองเห็นมัวๆ ไม่ชัด
7 ตุลาคม 2554 เวลา 06:51 น.