14 ข้อคิดให้กำลังใจฝ่าวิกฤตน้ำท่วม/ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 พฤศจิกายน 2554 06:49 น.
ณ เวลานี้คนไทยทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนกรุงเทพฯและคนที่อยู่ต่างจังหวัดต่างก็ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมกันแทบทั้งนั้น บางคนเป็นโรคจิตอ่อน ๆ ถึงขนาดเป็นโรคจิตอาการหนัก เริ่มจากมีอาการเครียด นอนไม่หลับ หรือบางครั้งตื่นขึ้นมาในช่วงตี 3 ตี 4 ตรวจดูท่อน้ำหน้าบ้านว่าท่วมหรือยัง บางคนถึงกับบอกว่าเมื่อไหร่น้ำจะท่วมสักที จะได้รู้แล้วรู้รอดไป บางคนต้องอพยพครอบครัวคนเฒ่า คนแก่ ไปต่างจังหวัด หวังว่าน้ำจะลดจากวันที่ 31 แต่ที่ไหนได้กลับประกาศออกมาว่าจะท่วมเป็นเดือน บางคนอยากกลับไปดูแลบ้าน แต่ก็ทำไม่ได้เพราะน้ำประปามีกลิ่นเหม็น ข้าวของแพง ไข่ไก่ฟองละ 7-8 บาท น้ำดื่มก็ไม่มีขาย ไปศูนย์การค้าของก็หมดเรียบ แม้กระทั่งร้าน 7 11 เอง ของที่จำเป็นสำหรับการยังชีพแทบจะไม่มี หากเปิดโทรทัศน์ดูก็จะยิ่งเครียดหนักเข้าไป เพราะเห็นบ้านเรือนถูกน้ำท่วม บางคนต้องทิ้งบ้าน ของมีค่าและสัตว์เลี้ยงที่รัก มีคนถูกไฟฟ้าดูดตาย และไม่มีคนช่วยเข้าไปเก็บศพ จากเหตุการณ์เช่นนี้คงไม่มีคำพูดอะไรนอกจากน้ำตาที่จะไหลและหัวใจที่เจ็บช้ำ เครียด เครียด เครียด
เมื่อเราเห็นคนที่รักมีความเครียด เราอาจจะอยากหาวิธีทางที่จะช่วยได้อย่างไรบ้าง
1.ดูแลตัวเองก่อน เพราะเราก็อาจตกอยู่ในสภาพเดียวกัน ดังนั้นการดูแลตัวเองนับว่าเป็นสิ่งสำคัญเท่ากับการที่จะช่วยให้กำลังใจผู้อื่น ไม่ใช่การเห็นแก่ตัวแต่หากเราดูแลตัวเองได้ดี เราสามารถมีพลังที่จะให้กำลังใจ และแสดงความรักความห่วงใยของเราไปสู่คนอื่นๆได้ดีด้วย
2. ทำความเข้าใจกับความเครียดของคนที่รัก ครอบครัว และเพื่อน ๆ ก่อน ความเครียดเป็นภาวะที่อาจนำไปถึงขั้นร้ายแรงได้ ดังนั้นอย่าตีค่าความเครียดต่ำเกินไป ความเครียดทำให้คนหมดกำลังใจ หมดเรี่ยวแรง ขาดแรงจูงใจ และคิดทางลบ ความเครียดไม่สามารถหมดไปเหมือนการดีดนิ้วทีเดียว ดังนั้นพยายามสร้างความเข้าใจกับเรื่องนี้ให้ดี
3. ตรวจสอบอาการของคนที่เครียดว่าอยู่ในขั้นไหน คนที่เครียดมักมีอาการดังนี้ หงุดหงิด สิ้นหวัง โกรธ กลัว เก็บตัว เศร้า และบางคนอาจถึงขั้นอยากคิดฆ่าตัวตาย เป็นต้น คนที่อยู่ในภาวะเครียดบ่อยครั้งมักจะพูดคำที่ทำให้คนอื่นเจ็บปวด จำไว้ว่านั่นไม่ใช่ตัวจริงของผู้นั้นแต่เป็นเพราะความเครียดต่างหาก บางคนอาจไม่รู้ตัวว่าเครียด ดังนั้นเราสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ ดังนี้
คนที่เครียดมักไม่แสดงอาการสนใจอะไรๆ รอบตัว
มีอารมณ์ไม่มั่นคง ไม่คงเส้นคงวา เศร้า หงุดหงิดง่าย
ขาดความสนใจในการเข้าร่วมกิจกรรมที่น่าสนใจ ไม่ต้องการมีเพศสัมพันธ์ ไม่สนใจงานอดิเรกที่ชอบ
พูดคุยถึงเรื่องที่หมดหวังหรือสิ้นหวัง
มีมุมมองของชีวิตในทางลบ
มีอาการปวดหัว ปวดท้อง ปวดหลัง บ่อยๆ
แยกตัวจากเพื่อน ครอบครัว อยากอยู่เงียบๆคนเดียว
เริ่มรับประทานยานอนหลับเกินขนาด เป็นต้น
4. อย่าหนีปัญหา การหนีปัญหาไม่ได้ช่วยให้ความเครียดหายไป คำพูดโกหกเพื่อให้สบายใจ ขอไปทีไม่ได้ทำให้ความเครียดดีขึ้น ควรให้ผู้ที่เครียดรับรู้ความจริง และรู้เท่าทันความเครียดเพื่อที่จะสามารถหาวิธีการแก้ไขด้วยตัวเองได้
5. เราไม่สามารถแก้ไขความเครียดของคนอื่นได้ อย่าพยายามทำตัวเป็นพระเอกในการแก้ไขปัญหาความเครียด อย่าตำหนิหรือ พยายามเข้าไปรับผิดชอบความสุขหรือความทุกข์ของผู้อื่น
6. การฟังคนที่เครียดระบายเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ดีกว่าการให้คำแนะนำ เสริมแรงให้ผู้ที่เครียดได้ระบายความเครียดออกมา พูดถึงความรู้สึกเจ็บปวด ฟังอย่างตั้งใจและไม่ตัดสินผู้นั้น
7. อย่าคาดหวังให้ผู้ที่เครียดจบบทสนทนาเร็ว ๆ และความเครียดจะหมดไปในพริบตา เพราะคนที่เครียดมักชอบที่แยกตัวออกจากสังคม ให้เราแสดงความรัก ความห่วงใย และเต็มใจที่จะฟังปัญหาของผู้ที่เครียดซ้ำแล้วซ้ำอีก ให้เราใช้ความอดทน สุภาพแต่มีจุดยืนบนความถูกต้อง
8. เริ่มบทสนทนาดังนี้ ฉันรู้สึกคิดถึงและเป็นห่วงคุณขึ้นมา รู้สึกว่าตอนนี้คุณแปลกๆไปจากเดิม และสงสัยว่าคุณเป็นอย่างไรบ้าง เป็นห่วงคุณขึ้นมาเพราะช่วงนี้ เป็นช่วงภาวะเครียด
9. คำถามที่เราสามารถถามได้มีดังนี้
คุณมีอาการนี้เมื่อไหร่ มีอาการอะไรเกิดขึ้นที่ทำให้คุณมีอาการอย่างนี้ อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดที่จะพอช่วยได้บ้างในตอนนี้ คุณรู้สึกแย่มากๆและไม่อยากรับต่อไปแล้วใช่ไหม เคยคิดจะขอความช่วยเหลือ ที่ไหนอย่างไร
10. คำพูดที่เราสามารถให้กำลังใจคือ
คุณไม่ได้อยู่ ลำพัง คุณยังมีฉันเคียงข้างเสมอ คุณอาจจะไม่รู้สึกถึงสิ่งนี้ แต่ความรู้สึกเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้น บางที่ฉันอาจจะไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูดทั้งหมด แต่ฉันรักคุณและต้องการช่วยเหลือคุณ เมื่อคุณรู้สึกว่าหมดหวังแล้ว ให้คิดว่าลองทนไปอีกสัก เดือนหนึ่ง 2 -3 วัน อีกชั่วโมง อีกนาทีหนึ่ง ให้กำลังใจตัวเองเท่าทีสามารถจะทำได้ คุณเป็นคนที่มีค่า และชีวิตของคุณสำคัญต่อฉัน บอกฉันเลยตอนนี้ว่าฉันจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง
11. หลีกเลี่ยงคำพูดดังนี้
ปัญหานี้มันอยู่ที่หัวคุณเท่านั้น ไม่ยากเย็นอะไร ทุกคนเคยผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ในชีวิตมาแล้ว เรื่องจิบจ้อย ดูข้อดีของมันดีกว่า คุณมีอะไรมากมายหลายอย่างในชีวิตทำไมถึงอยากตายนัก ฉันช่วยคุณไม่ได้จริงๆ ลืมไปซะเหมือนกระพริบตาให้ผ่านพ้นไป คุณเป็นบ้าอะไร ตอนนี้คุณน่าจะดีขึ้นแล้ว
12. หาข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เครียดในการแก้ปัญหา ข้อมูล Facebook ต่างๆ ถือเป็นแนวทางสำคัญในการให้ทุกคนได้ระบายข้ออัดอั้นตันใจ และมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่างๆมากมาย
13. ฝึกการหายใจเข้าและออกลึกๆ ช่วยลดความเครียด
14. หากเห็นว่าผู้ที่เครียดมีอาการขั้นรุนแรงอาจขอความช่วยเหลือจากจิตแพทย์ นักจิตวิทยา โรงพยาบาลมนารมย์ บางนา หรือที่ Psychological Services International 9/2 ซอยสุขุมวิท 43 กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 02-259-1467
ชีวิตมนุษย์ย่อมมีทั้งความสุขและความทุกข์สลับปะปนกันไปตั้งแต่เกิดจนตาย มีทั้งวาระลำบากและวาระสุขสบาย วันนี้เราอาจร้องไห้ พรุ่งนี้เราอาจมีเหตุการณ์ให้ได้หัวเราะ ดังนั้นเมื่อมีวันที่น้ำท่วมเราก็รู้ว่าก็จะต้องมีวันที่น้ำลด ผู้เขียนขอให้เป็นกำลังใจให้ทุกคนอย่างจริงใจ