ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




5 รสนี้ดีอย่างไรต่อคุณแม่ท้อง/ModernMom article

5 รสนี้ดีอย่างไรต่อคุณแม่ท้อง/ModernMom

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 ตุลาคม 2554 17:33 น.

 รสชาตินั้นนอกจากจะทำให้อาหารอร่อยแล้ว ยังเป็นตัวบ่งบอกถึงสารอาหารที่เราจะได้รับด้วย แล้วรสหวาน เค็ม เปรี้ยว ขม และเผ็ดนั้นมีผลต่อร่างกายของคุณแม่ท้องอย่างไร แล้วควรเลือกกินแบบไหน เรามีคำตอบมาให้ค่ะ
       
       รสชาติสำคัญอย่างไร
       
       ลิ้นเราสามารถรับรู้ได้ 4 รสชาติด้วยกัน คือ รสหวาน รสเค็ม รสเปรี้ยว รสขม ส่วนรสเผ็ดนั้น ถึงแม้ว่าลิ้นจะรับรสไม่ได้ แต่ความเผ็ดร้อนก็ทำให้อาหารมีความอร่อยมากยิ่งขึ้น หลายคนจึงชอบกินรสเผ็ดร้อนจัดจ้าน
       
       คุณทราบไหมคะว่า ความแตกต่างของรสต่าง ๆ นั้น ให้สารอาหารที่มีประโยชน์แตกต่างกันไป สำหรับคุณแม่ท้องไม่ควรกินอาหารเน้นไปที่รสใดรสหนึ่ง แต่ควรกินให้หลากหลายในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน
       
       1. รสหวาน
       
       อาหารรสหวาน มักจะอยู่ในอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต เช่น ผลไม้ น้ำผลไม้ น้ำผึ้ง น้ำตาล ขนมต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับคุณแม่ท้อง ทำให้รู้สึกสดชื่น แจ่มใส ร่าเริง ลดอาการอ่อนเพลีย ช่วยดับกระหาย
       
       ลองลิ้มรสหวาน
       
       ถั่วเขียวต้มน้ำตาล น้ำอ้อย กล้วยอบ น้ำผึ้ง อินทผาลัม ลูกเกด ขนมหวาน
       
       แม่ท้องควรรู้
       
       คุณแม่ท้องสามารกินอาหารที่มีรสหวานได้ทุกวัน แต่ต้องจำกัดจำนวน และไม่ควรกินรสหวานจัด เพราะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินไป ส่งให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ
       
       2. รสเค็ม
       
       อาหารรสเค็มจัดจะมีโซเดียมเป็นส่วนประกอบสำคัญ ทำหน้าที่ในการควบคุมความสมดุลของเหลวในร่างกาย รักษาความดันโลหิตให้อยู่ระดับปกติ ช่วยควบคุมระดับความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย อาหารที่มีรสเค็มจะช่วยกระตุ้นต่อมรับรส ทำให้อาหารมีรสอร่อยมากขึ้น
       
       ลองลิ้มรสเค็ม
       
       ปลาหมึกแห้ง สาหร่ายทะเล กุ้งแห้ง หมูแดดเดียว บ๊วยเค็ม ผลไม้ดอง ผักกาดดอง
       
       แม่ท้องควรรู้
       
       คุณแม่ท้องไม่ควรกินอาหารที่มีรสเค็มจัด เช่น อาหารหมักดอง อาหารตากแห้ง เพราะจะทำให้ร่างกายมีปริมาณโซเดียมจากเกลือสูงกว่าปกติ ทำให้กระหายน้ำ ร้อนใน เพิ่มความเสี่ยงต่อการมีภาวะความดันโลหิตสูง ทำให้ไต และหัวใจทำงานหนักมากขึ้น แม่ท้องควรกินอาหารที่มีความเค็มปานกลาง ไม่ควรปรุงรสเพิ่ม ทั้งนี้เพื่อลดปริมาณโซเดียม
       
       3. รสเปรี้ยว
       
       รสเปรี้ยวช่วยลดอาการคลื่นไส้ และอาการแพ้ของแม่ท้องในไตรมาสแรกได้เป็นอย่างดี ช่วยให้การย่อยและดูดซึมสารอาหารทำงานได้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ช่วยขับเสมหะ และเป็นยาระบายอ่อน ๆ ป้องกันอาการท้องผูกได้
       
       ลองลิ้มรสเปรี้ยว
       
       น้ำมะนาว น้ำกระเจี๊ยบ มะขาม มะม่วงดิบ ยำวุ้นเส้น โป๊ะแตก สับปะรด กระท้อน
       
       แม่ท้องควรรู้
       
       อาหารที่มีรสเปรี้ยวมักมีพลังงานน้อยกว่าอาหารที่มีรสหวาน ไม่ทำให้อ้วนง่าย แต่ถ้าคุณแม่กินรสเปรี้ยวมากเกินไป อาจทำให้ท้องเสีย กระเพาะอาหารและลำไส้เกิดอาการระคายเคืองได้

       4. รสขม
       
       อาหารรสขมส่วนใหญ่มักมาจากพืชผักต่าง ๆ เช่น มะระ ผักโขม มะเขือพวง สะเดา ใบบัวบก ใบยอ ใบย่านาง อุดมไปด้วยวิตามิน และเกลือแร่ เช่น เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก โปแตสเซียม แคลเซียม ซึ่งมีประโยชน์สำหรับแม่ท้อง เพราะช่วยบำรุงหัวใจ ลดการดูดซึมของไขมันและน้ำตาล มีใยอาหารสูง เป็นยาระบายธรรมชาติ ช่วยในการทำงานของระบบย่อยและดูดซึม
       
       ลองลิ้มรสขม
       
       ผัดมะระ สะเดาลวก แกงเห็ดใบย่านาง ห่อหมกใบยอ น้ำใบบัวบก ผัดผักโขม
       
       แม่ท้องควรรู้
       
       คุณแม่ท้องที่มีอาการแพ้ในไตรมาสแรก อาจต้องระมัดระวังในการทานรสขม เพราะอาจไปกระตุ้นให้อาเจียนได้ง่าย และแม่ท้องที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ก็ควรกินอาหารในกลุ่มนี้บ่อย ๆ เพราะจะช่วยลดการดูดซึมของน้ำตาล
       
       5. รสเผ็ด
       
       วัตถุดิบที่มีรสเผ็ด เช่น ขิง พริก กระเทียม พริกไทย กะเพรา ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยขับเหงื่อ ขับลม การเผาผลาญอาหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้แม่ท้องลดอาหารอึดอัดแน่นท้อง กระตุ้นให้เจริญอาหาร กินอาหารได้มากขึ้น
       
       ลองลิ้มรสเผ็ด
       
       น้ำขิง ปลานึ่งขิง ไก่ผัดกะเพรา หมูทอดกระเทียมพริกไทย
       
       แม่ท้องควรรู้
       
       คุณแม่ท้องไม่ควรกินอาหารรสเผ็ดจัด โดยเฉพาะขณะท้องว่างเพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้
       
       อาหารทุกรสชาติล้วนมีประโยชน์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ดังนั้นเวลาทานอาหาร คุณแม่ท้องก็ควรจะต้องบาลานซ์รสชาติให้ดี ๆ นะคะไม่ควรเน้นไปที่รสชาติใดมากเกินไป เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่และลูกในท้องค่ะ
       
       //////////////////////
       
       นอกเหนือจากบทความดี ๆ และเป็นประโยชน์ในข้างต้นแล้ว ภายในเล่มของนิตยสาร ModernMom ประจำเดือนตุลาคมฉบับปก "แบม-จณิสตา (ลิ่วเฉลิมวงษ์) จรูญสมิทธิ์" ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจจำนวนมาก เช่น เรื่องวุ่น ๆ ฮอร์โมนยามท้อง เทคนิคฝึกวินัยลูกวัยซน รับมือเมื่อลูกคลอดก่อนกำหนด เมนูโปรตีนหม่ำอร่อยเบบี๋แข็งแรง และอื่น ๆ อีกมากมาย สามารถหาซื้ออ่านได้แล้วตามแผงหนังสือทั่วไป และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ




แพทย์ วิสัญญี เภสัชกร ยาแผนปัจจุบัน การดูแลผู้ป่วย สาระน่ารู้เกี่ยวกับโรคต่างๆ

ควรทานยาปฏิชีวนะให้ครบ
ดื่มน้ำไม่เพียงพอ
โรคฉี่หนู
อย่ากินแอปเปิ้ลไซเดอร์ถ้าไม่รู้ 4.5 ข้อนี้ article
ผิวดำง่ายมากเกิดจาก 6 ข้อนี้ article
กินอาหารแล้วอ้วนจริงหรือ article
เอ็นข้อศอกอักเสบ เกิดจากอะไร? article
เจาะลึกกระบวนการ 'ทดลองยาในคน' article
กว่าจะเป็นยา ต้องผ่านขั้นตอน อะไรบ้าง? article
5 โรคร้ายรักษาง่ายๆด้วย ข้าวกล้อง article
เคล็บลับนอนหลับง่ายๆโดยไม่ต้องใช้ยา article
5 อาหารไขมันสูงยิ่งกินยิ่งผอม article
มือชา รักษาอย่างไร? เข้าใจทุกประเด็นในคลิปนี้ article
กระดูกพรุน รักษาอย่างไร? เข้าใจทุกประเด็นในคลิปนี้ article
เท้าปุก คืออะไร? รักษาอย่างไร? article
กระดูกสันหลังเสื่อม รักษาอย่างไร? เข้าใจทุกประเด็นในคลิปนี้ article
ปวดหลังร้าวลงขา นั่งไม่ได้ รักษาอย่างไร? article
โรคท้องผูก ลำไส้ทำงานอย่างไร? เข้าใจทุกประเด็นในคลิปนี้ article
การรับมือกับโรคมะเร็ง article
โรคหลอดเลือดหัวใจในหนุ่มสาว article
การจัดการโรคไตเรื้อรัง และสิ่งที่เชื่อผิดๆ article
น้ำดื่มบำรุงไต ไม่อยากฟอกไตต้องดู article
5 ความเชื่อผิดๆที่ทำให้ลดน้ำหนักไม่มีวันสำเร็จ article
7 วิธีควบคุมความดันโดยไม่ต้องพึ่งยา article
3 เทคนิคลดความอ้วน “#ไม่ต้องออกกำลังกาย” article



เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน