ลูกวัยรุ่นเหนื่อยง่าย เปลี่ยนได้ด้วยอาหาร
เมื่อเอ่ยถึงเด็กวัยรุ่น วัยนี้เป็นวัยที่เพื่อนมีอิทธิพลอย่างยิ่ง ทั้งการเรียน การใช้ชีวิต รวมถึงการเลือกรับประทานอาหาร หลายครอบครัวที่พ่อแม่ให้ลูกฝากท้องไว้กับร้านอาหารนอกบ้านจึงมีโอกาสที่ลูกจะได้รับสารอาหารไม่ครบ หรือได้รับแต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์เพราะการรับประทานอาหารตามเพื่อน ๆ หรือตามกระแสได้ง่าย
เมื่อได้สารอาหารไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ลูก ๆ จึงมีโอกาสที่จะเกิดภาวะขาดสารอาหาร อาจมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพของเขาในระยะยาวแน่ ดังนั้นในฐานะพ่อแม่ การหันมาให้ความสนใจ และเตรียมอาหารที่มีประโยชน์ให้กับเขาอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด
เรามีข้อมูลการรับประทานอาหารของเด็ก - วัยรุ่นในซีกโลกตะวันตกมาฝากกัน โดยในอังกฤษพบว่า เด็กอายุ 4 - 18 ปี มีการบริโภคเกลือ น้ำตาล และอาหารประเภทไขมันอิ่มตัวสูงมาก ในขณะที่การรับประทานผักผลไม้ที่ให้กากใยนั้นค่อนข้างต่ำ ทีมวิจัยมีการจดบันทึกข้อมูลการรับประทานอาหารของเด็ก ๆ ตลอด 7 วันพบว่า มากกว่าครึ่งของเด็กที่ทำการสำรวจ ไม่ได้รับประทานผลไม้ ผักใบเขียว ไข่ แต่อย่างใด การสำรวจยังแสดงให้เห็นด้วยว่า เด็ก 1 ใน 10 ได้รับวิตามินเอ ธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี แคลเซียม และโปแตสเซียมในปริมาณต่ำมาก
ขาดธาตุเหล็กแก้ได้ด้วยการรับประทานอาหารที่ให้ธาตุเหล็ก เช่น เนื้อแดง ผลไม้อบแห้ง ผักใบเขียว อย่างไรก็ดี ร่างกายอาจดูดซึมธาตุเหล็กจากผลไม้ หรือผักใบเขียวได้ไม่ดีเท่ากับอาหารประเภทเนื้อ การรับประทานอาหารที่ให้วิตามินซีสูง เช่น น้ำส้ม จะช่วยเพิ่มความสามารถในการดูดซึมให้กับร่างกายได้ ตรงกันข้าม สารเทนนินที่พบในเครื่องดื่มประเภท ชา กลับบั่นทอนความสามารถในการดูดซึมธาตุเหล็กของร่างกาย ดังนั้น ในเด็กวัยรุ่น จะเป็นการดีกว่าหากเลือกดื่มน้ำส้มสักแก้วหลังมื้ออาหารแทนการดื่มชาค่ะ
|
|
|
|
การขาดแคลเซียมก็เป็นเรื่องสำคัญ จากการสำรวจพบว่า เด็กวัยรุ่น 25 เปอร์เซ็นต์ได้รับแคลเซียมต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งในอนาคตจะส่งผลต่อความแข็งแรงของกระดูกได้ วัยรุ่นจึงควรได้รับแคลเซียมประมาณ 800 - 1000 มิลลิกรัมต่อวัน อาหารที่ให้แคลเซียมสูงเช่นนม หรือผลิตภัณฑ์จากนม สำหรับเด็กที่แพ้นมวัว อาจเลือกดื่มน้ำนมถั่วเหลืองแทนได้
นอกจากนี้ มีการศึกษาพบว่าในเด็กวัยรุ่นส่วนมาก มักไม่พอใจรูปร่างของตนเอง โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง และมักรู้สึกมีปมด้อยจากส่วนเกินในร่างกาย วิธีลดน้ำหนักที่เด็กวัยรุ่นนิยมใช้กันคือ การงดมื้ออาหาร บ้างก็เลิกรับประทานขนม อาหารที่มีน้ำตาลไปเลย แต่นั่นอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะสุดท้ายแล้ว เด็กจะเริ่มเบื่อหน่าย แล้วก็ขาดแรงจูงใจในการรับประทานอาหารไปในที่สุด
หากลูกวัยรุ่นต้องการลดน้ำหนัก พ่อแม่จึงต้องคอยสังเกตว่าเป็นวิธีที่เหมาะสมหรือไม่ และช่วยลูกพิจารณาดูด้วยว่าพวกเขาต้องลดน้ำหนักเพราะอ้วนจริง ๆ หรือแค่มีรูปร่างบางส่วนไม่ดีพอ เพราะสุดท้ายแล้ว การเลือกรับประทานอาหารและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอคือกุญแจไปสู่การมีสุขภาพที่ดีที่พ่อแม่มอบให้เขาได้
คุณพ่อคุณแม่สามารถเตรียมอาหารให้ลูกวัยรุ่นอย่างเหมาะสมได้ดังนี้
- ดูแลให้เด็กได้รับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่เหมาะสม
- รับประทานผักผลไม้เป็นประจำทุกวัน
- รับประทานโปรตีนทั้งจากพืชและจากสัตว์
- ไม่รับประทานอาหารที่มีไขมัน น้ำตาลสูง
- ดื่มน้ำ 6 - 8 แก้วต่อวัน
- รับประทานอาหารเป็นมื้อเป็นคราว ไม่รับประทานจุกจิก
- อย่างดมื้อเช้า
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
เท่านี้ก็ช่วยให้เขามีสุขภาพแข็งแรงได้แล้วค่ะ ที่สำคัญ การสอนให้ลูกเข้าใจว่า วัยเด็กเป็นช่วงที่ร่างกายเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว การบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ต้องกลัวอ้วน หรือจะมีรูปร่างไม่สมส่วนแต่อย่างใดก็มีความจำเป็นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ขอให้เด็ก ๆ มีสุขภาพแข็งแรง จิตใจแจ่มใสนะคะ
เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจากบีบีซีนิวส์
|