กรุงเทพฯ ด.ต.ใจเด็ดจับแก๊งวิ่งราวถูกฟันยับ-ตามรวบได้4คน ส่วนอีก2คนหลบหนีไป
5 ธค. 2554
พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต ผบก.น.5 พ.ต.อ.วราวุธ ทวีชัยการ รองผบก.น.5 และพ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผกก.สน.บางนา ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งวิ่งราวทรัพย์และก่อเหตุใช้อาวุธมีดฟันเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บสาหัสขณะแสดงตัวเข้าจับกุม จับกุมผู้ต้องหาได้ 4 คน ประกอบด้วย นายณัฐชานันท์ หรือบอล สวรรณยาตระกูล อายุ 20 ปี นายภานิกรณ์ หรือโต้ง แสงประจักษ์ อายุ 26 ปี นายกุ้ง (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี นายน๊อต อายุ 18 ปี ของกลางกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิงสีแดง มือถือ 3 เครื่อง เงินสด 520 บาท รถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก เสื้อวินรถจักรยานยนต์รับจ้างที่พบใต้เบาะรถ จยย.ของกลาง สีส้ม หมายเลขวิน 63 ประจำวินที่ 120 หมู่บ้านเสนาวิลล่า 84 และอาวุธมีดอีโต้หัวตัด 1 เล่ม
สืบเนื่องจากวันที่ 3 ธ.ค. ช่างเวลา 21.00 น.กลุ่มผู้ต้องหาก่อเหตุวิ่งราวกระเป๋าของ น.ส.ลัดดา สาดแก้ว ขณะเข้าไปกินอาหารที่ร้านอนันต์หมูกระทะ ปากซอยอุดมสุข 45 แล้วขับขี่รถจยย.หลบหนี จังหวะดังกล่าวผู้เสียหายส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีด.ต.สาคร โพธิพันธ์ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สน.บางนา กำลังปฏิบัติหน้าที่ชุดจู่โจมเห็นพอดีจึงได้ขับรถ จยย.ของตัวเองไล่ติดตาม ปรากฏว่าคนร้ายที่ก่อเหตุได้ไปจอดรถรวมตัวกับพวกรวมทั้งหมด 6 คน ที่บริเวณปากซอยศรีนครินทร์ 46/1 ฝั่งขาเข้า แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ก่อนถึงหน้าห้างสรรพสินค้าพาราไดซ์ เมื่อด.ต.สาคร ตามมาถึงเข้าไปแสดงตัวเป็นตำรวจเพื่อจับกุม แต่ถูกนายภานิกรณ์ชกเข้าที่ใบหน้า จากนั้นนายณัฐชานันท์ก็ชักมีดออกมาฟันเข้าที่ศีรษะและแผ่นหลังหลายแห่งจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งด.ต.สาคร ยังกัดฟันชักอาวุธปืนประจำกายออกมายิงใส่กลุ่มคนร้าย 1 นัด แต่ไม่ทราบว่ายิงถูกหรือไม่ จึงทำให้กลุ่มคนร้ายทั้งหมดซ้อนท้ายรถจยย.ที่มาด้วยกัน 2 คันหลบหนี โดยทิ้งรถจยย.ของกลางทิ้งไว้เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบผู้ครอบครองพร้อมกับเสื้อวินจยย.ของกลางที่พบใต้เบาะกระทั่งตามไปจับกุมแก๊งคนร้ายที่ก่อเหตุได้ที่หมู่บ้านเสนาวิลล่า ได้ 4 คน เป็นเยาวชนสองราย ส่วนอีกสองรายยังหลบหนีเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับแล้วทราบชื่อนายตะวัน หรือเซ้นท์ น้อยประแดง อายุ 19 ปี และนายอาร์ม ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง อายุ 19 ปี
ผู้ต้องหารับสารภาพ โดยบอกว่าภายในปีนี้ก่อเหตุวิ่งราวกระเป๋ามาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ซึ่งจะก่อเหตุในย่านรามอินทรา ลาดพร้าว รามคำแหง บางกะปิ และล่าสุดก็มาก่อเหตุที่บางนา ซึ่งแต่ละครั้งที่ออกก่อเหตุก็จะทำงานเป็นทีมมีคนคอยสอดแนมระวังตำรวจเป็นจุดๆ จากนั้นก็จะส่งสัญญาณด้วยการพยักหน้าให้ลงมือ แต่ละครั้งจะได้ทรัพย์สินเป็นมือถือ และเงินสด โทรศัพท์ก็จะนำไปขายย่านบางกะปิแล้วมารวมกับเงินสดที่ได้มาแบ่งกันไปกินเที่ยว และซื้อยามาเสพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับอาการของด.ต.สาคร ขณะนี้พ้นขีดอันตราย แต่ยังต้องนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยก่อนหน้านี้ด.ต.สาคร เคยเฉียดตายจากการปฏิบัติหน้าที่เข้าจับกุมคนร้ายชิงทรัพย์ปั๊มน้ำมันในพื้นที่ สน.บางนา เหตุเกิดเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะจับกุมคนร้ายได้ต่อสู้ยิงใส่ ด.ต.สาคร เข้าที่ลำตัวจำนวน 5 นัดได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็รักษาตัวจนหายกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง และครั้งนี้ก็ทำหน้าที่ตำรวจหน่วยจู่โจมของ สน.บางนา ก็ถูกคนร้ายใช้มีดกระหน่ำฟันปางตายอีกครั้ง
