นักวิจัยพบวิธีสร้างแอนตีบอดีต้าน “เอชไอวี” ในหนู
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ผลทดสอบหนูในแล็บได้เปิดหนทางสู่วิธีใหม่ๆ ในการผลิตวัคซีนต้านเชื้อเอชไอวี ซึ่งเป็นความท้าทายตลอด 3 ทศวรรษของประวัติศาสตร์โรคเอดส์ โดยนักวิจัยสร้างหนูจีเอ็มโอที่สามารถสร้างแอนตีบอดีซึ่งเป็นด่านแรกของระบบภูมิคุ้มกันได้
นับแต่โรคเอดส์ถูกค้นพบเมื่อปี 1981 จนถึงทุกวันนี้รอยเตอร์ระบุว่ามีวัคซีนสูตรเดียวในการทดลองระดับคลีนิคที่ให้ผลประมาณ โดยช่วยป้องกันความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV:human immunodeficiency virus) ได้เพียง 31% จุดนี้เองกระตุ้นให้นักวิจัยหันกลับไปหาสารภูมิต้านทานในร่างกายที่จะต่อสู้โรคได้ และล่าสุดทีมวิจัยที่นำโดย เดวิด บัลติมอร์ (David Baltimore) นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลจากสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (California Institute of Technology) หรือคาลเทค (Caltech) สหรัฐฯ กำลังเข้าใกล้เป้าหมายดังกล่าวแล้ว
ความพยายามเดิมในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสเอชไอวีคือการพุ่งเป้าไปที่การออกแบบสารตั้งต้นที่กระตุ้นการตอบสนองภูมิคุ้มกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในรูปแบบแอนตีบอดีที่ป้องกันการติดเชื้อและเซลล์เม้ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์ (T cells) ที่จะเข้าโจมตีเซลล์ติดเชื้อ แต่ไซน์เดลีรายงานว่าบัลติมอร์และทีมได้สร้าง “เวคเตอร์อิมมูโนโพรฟิลาซิส” (Vectored ImmunoProphylaxis) หรือวีไอพี (VIP) ที่ช่วยต้านเชื้อไวรัสเอชไอวีได้โดยเน้นที่การสร้างสารภูมิต้านทานในร่างกาย
“วีไอพีให้ผลคล้ายกับวัคซีนแต่ไม่มีการปลุกให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานใดๆ โดยปกติเมื่อคุณใส่แอนติเจน หรือแบคทีเรียเข้าจู่โจมหรืออะไรบางอย่างเข้าไปในร่างกาย และระบบภูมิคุ้มกันก็จะค้นหาว่าทำอย่างไรให้แอนตีบอดีต่อสู้มันได้ ซึ่งเราทำได้ทั้งหมดของสมการ” อเลฮันโดร บาลัซส์ (Alejandro Balazs) หัวหน้าทีมในการเขียนรายงานวิจัยและนักศึกษาหลังปริญญาเอกในห้องปฏิบัติการของบัลติมอร์กล่าว โดยงานวิจัยครั้งนี้ได้เผยแพร่ลงวารสารเนเจอร์ (Nature)
หากแต่หนูนั้นต่างจากคนตรงที่ไม่ไวต่อเชื้อไวรัสเอชไอวี นักวิจัยจึงดัดแปลงพันธุกรรมของหนูให้สามารถรับเซลล์ภูมิคุ้มกันของมนุษย์ซึ่งสามารถเพาะเลี้ยงเชื้อเอชไอวีได้ พวกเขาใช้ประโยชน์จากไวรัสเอเอวี (AAV:adeno-associated virus) ซึ่งเป็นไวรัสขนาดเล็กที่ไม่เป็นอันตรายให้เป็นพาหะในการนำส่งยีนที่จำเพาะต่อการสร้างแอนตีบอดี โดยฉีดเชื้อไวรัสนี้เข้าไปในกล้ามเนื้อขาของหนู จากนั้นเซลล์กล้ามเนื้อใส่จะผลิตแอนตีบอดีบีเอ็นเอบีเอส (broadly neutralizing antibodies) เข้าไปในระบบไหลเวียนของหนู
หลังจากฉีดไวรัสเอเอวีเข้าไปเพียงครั้งเดียวหนูก็ผลิตแอนตีบอดีดังกล่าวในปริมาณมากไปตลอดชีวิตที่เหลือ และช่วยป้องกันไม่ให้หนูติดเชื้อไวรัสเอชไอวีที่นักวิจัยฉีดเข้าไปในเส้นเลือดดำได้ แต่นักวิจัยระบุว่าการต่อยอดจากหนูสู่มนุษย์นั้นยังอีกยาวไกล เพราะในความเป็นจริงนั้นความพยายามที่สำเร็จในหนูไม่ได้หมายความว่าจะให้ผลสำเร็จเดียวกันในมนุษย์ด้วย แต่นักวิจัยก็ยังเชื่อว่า แอนตีบอดีปริมาณมากที่หนูผลิตออกมาได้ บวกเข้ากับการค้นพบว่าแอนตีบอดีในปริมาณเพียงเล็กน้อยนั้นช่วยป้องกันหนูติดเชื้อไวรัสได้นั้น จะนำไปสู่การแปลงให้มนุษย์มีภูมิต้านทานการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีได้
ขณะนี้ทีมวิจัยอยู่ระหว่างขั้นตอนการวางแผนพัฒนาวิธีทดลองในมนุษย์ระดับคลีนิค ซึ่งจะเป็นการทดลองเพื่อตอบคำถามว่าไวรัสเอเอวีนั้นสามารถสั่งงานให้กล้ามเนื้อของมนุษย์นั้นสร้างแอนตีบอดีในระดับที่คาดหวังว่าจะช่วยป้องกันไวรัสเอชไอวีได้หรือไม่
|