จ.บุรีรัมย์ ญาติ-ชาวบ้านนับร้อยแห่โรงศพ ลูกสาวถูกวัยรุ่นรุมตีตาย มาประท้วงไม่พอใจตำรวจไม่รับแจ้งความ

ญาติและชาวบ้าน ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ กว่า 200 คน แห่โรงศพ ลูกสาว อายุ 17 ปี ถูกวัยรุ่นรุมตีตาย ประท้วงหน้าโรงพักโนนดินแดง หลังตำรวจไม่รับแจ้ง บ่ายเบี่ยงโยนเป็นอุบัติเหตุรถ จยย.ล้มเสียชีวิต โยกโย้ส่งศพพิสูจน์ ชาวบ้านหอบพยานกว่า 10 ปาก ให้ปากคำ ตำรวจเรียกสอบ 4 แต่ลงในสำนวนแค่ 2 หนำซ้ำผู้ต้องหามอบตัวกลับปล่อย เรียกร้องขอความเป็นธรรม จี้ย้ายตำรวจคุมคดี เปลี่ยนพนักงานสอบ ด้าน ผกก.รับปากตามร้องขอ รายงาน ผบก.สั่งย้ายตำรวจ และเปลี่ยนพนักงานสอบสวนคุมคดี ขณะที่ พ.ต.ท.ดำรงศักดิ์ เจ้าของคดี ตัดพ้อ ทำตามขั้นตอนกฎหมาย แต่เพื่อความสบายใจของชาวบ้าน ก็พร้อมออกจากพื้นที่  

       เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 ธ.ค.2554 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านโคกเพชร หมู่ 14 และ บ้านหนองเสม็ด หมู่ 3 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ กว่า 200 คน และญาติได้พากันแบกโรงศพ ของ น.ส.นนทกร หรือ ดาว รอดกระโทก อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/1 หมู่ 14 บ.โคกเพชร ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งถูกกลุ่มวัยรุ่นชาย 6-7 คน ใน ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง รุมตีทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ระหว่างขี่รถจักรยานยนต์ กลับบ้านพร้อมเพื่อนชาย เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 7 ธ.ค.54 ที่ผ่านมา แต่ทางตำรวจ สภ.โนนดินแดง ไม่รับแจ้งความ พยายามปัดเป็นอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มเสียชีวิต ทั้งที่แพทย์ระบุสาเหตุการตายเกิดจากสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ก่อนจะขอให้ส่งศพผ่าพิสูจน์ที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น  

       โดยชาวบ้าน ได้แบกโรงศพ และถือป้ายโห่ร้องหน้า สภ.โนนดินแดง ไม่พอใจการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ที่ไม่ยอมรับแจ้งความ อ้างเหตุสารพัดไม่ว่างให้รอก่อน ญาติมานั่งเฝ้าโรงพักครึ่งวันไม่รับแจ้ง ทั้งได้นำพยานรู้เห็นเหตุการณ์มาให้สอบปากคำว่า 10 ปาก เรียกสอบเพียงแค่ 4 คน แต่ลงในสำนวนสอบสวน 2 คน ทำให้ญาติไม่สบายใจ และผู้ต้องหาได้มามอบตัว 6 คน ตำรวจสอบปากคำก็ปล่อยตัวไป เกรงว่าคดีจะเงียบหาย ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงพากันออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม และให้ย้ายตำรวจเจ้าของคดีออกนอกพื้นที่ และเปลี่ยนพนักงานสอบสวนชุดใหม่

       นายสมเกียรติ จำปาพันธ์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 287 หมู่ 11 บ.ซับคะนิง ต.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ เพื่อนผู้ตาย เล่าว่า คืนวันเกิดเหตุ เพื่อนชวนให้ไปกินเนื้อย่างที่เขา อยู่บ้านลำนางรอง หมู่ 1 ต.ลำนางรอง จึงมากับเพื่อน 3 คน ส่วนเพื่อนอีก 2 คน มาถึงบ้านเพื่อนก่อนแล้ว โดยได้นั่งกินกันไปจนดึก ระหว่างนั้นได้มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ประมาณ 5-10 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้าน ก่อนจะขี่ออกไป

       จากนั้น เพื่อน 2 คนได้ขอตัวกลับบ้านก่อนเพราะดึกแล้ว โดยขี่จักรยานยนต์ออกมา แต่ระหว่างทางเพื่อนได้โทรมาบอกว่าถูกวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตาม แล้วใช้ขวดขว้างและไม้ไล่ตี โชคดีหนีรอด พร้อมกับบอกให้ตนและเพื่อนๆ ไม่ต้องกลับบ้านตอนนี้เกรงจะได้รับอันตราย แต่ดาว ผู้ตาย บอกว่าจะต้องกลับ เพราะเกรงใจเจ้าของบ้าน ตนจึงอาสาไปส่งพร้อมเพื่อน  

      โดยขี่รถจักรยานยนต์ตามกันออกมา 3-4 คัน ในความมืด ตนเป็นคนขับกับดาวนั่งซ้อนท้าย มาได้สักระยะมีวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว ขี่ไล่ตามมาพร้อมกับขว้างขวดและก้อนหินใส่ ตลอดทาง กระทั่งขี่มาประกบรถจักรยานยนต์ที่ตนและดาวนั่งซ้อนท้าย ก่อนจะใช้เท้าถีบรถจนล้มคว่ำ จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นได้กรูกันเข้ามาใช้ไม้ ขวด และของมีคมรุมทำร้ายตีตน และดาวจนล้มฟุบกองกับพื้น ขณะเดียวกันเพื่อนและพี่ที่ขี่ตามหลังมาเห็นเหตุการณ์ได้เข้ามาช่วยและขอร้องให้หยุด ก่อนจะช่วยกันนำร่างดาวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนตนได้รับบาดเจ็บที่ขา และรอยฟกช้ำตามร่างกาย  

       นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ตนไม่เคยมีเรื่องกับใคร และไม่รู้จักวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวด้วย ทำไมต้องมาไล่ทุบตีทำร้ายกัน ส่วนจะเป็นเพราะหนึ่งในวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวมารักชอบพอดาว และเกิดหึงหวงที่เห็นดาวนั่งมากับตนจึงโกรธแค้น ไล่ทุบตีทำร้ายร่างกายตนและดาวนั้น ตนไม่ทราบ เพราะดาวเป็นเพื่อนกัน จึงอยากให้ตำรวจตามจับตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว  

       ด้านนางสุกัญญา ทำดี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 236 หมู่ 3 บ.หนองเสม็ด ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ อาสาวของ น.ส.นนทกร ผู้ตาย กล่าวว่า ทางญาติได้พากันมาแจ้งความกับตำรวจแต่ไม่รับแจ้งความบอกว่าไม่มีเวลา ทางญาติไม่สบายใจ จึงขอให้ทางโรงพยาบาลโนนดินแดง ส่งศพหลานสาวไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลขอนแก่น ให้แน่ชัดอีกครั้ง เบื้องต้นแพทย์ระบุว่า เกิดจากได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงที่สมอง จนทำให้เสียชีวิต โดยมีบาดแผลรอยฟกช้ำตามร่างกาย หนักสุดที่กระโหลกศรีษะยุบ สมองบวม จากการถูกของแข็งทุบตีอย่างแรง

       “ทางโรงพยาบาลให้มาขอใบชันสูตรศพจากตำรวจ เพื่อส่งศพไปที่โรงพยาบาลขอนแก่น แต่ทางตำรวจบอกว่าได้ทำให้แล้ว แต่ถามโรงพยาบาลบอกตำรวจยังไม่ได้ให้ไป จึงกลับมาที่โรงพักอีกถามตำรวจก็บอกว่ายังไม่ได้ทำหรือ เดี๋ยวผมทำให้ สรุปแล้ววิ่งไปวิ่งมาทั้งวันก็ไม่ได้เรื่อง จนสุดท้ายขอเบอร์หมอที่ให้คำแนะนำคุยกับตำรวจที่รับผิดชอบ จึงทำเอกสารให้ 2 ใบ นำไปให้โรงพยาบาลถึงได้ทำเรื่องส่งศพหลานสาวไปชันสูตรที่โรงพยาบาลขอนแก่น” นางสุกัญญา กล่าวด้วยอารมณ์โมโห

       นางสุกัญญา กล่าวต่ออีกว่า ตนใช้เวลาอยู่ที่โรงพัก ประมาณ 12 ชั่วโมง แค่เรื่องหลานสาวตายไม่ได้อะไรเลย กลับบ้านมือเปล่า มาวันนี้ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม เพราะพี่ชายกับพี่สะใภ้ พ่อแม่ของคนตาย ได้มาแจ้งความกับ พ.ต.ท.ดำรงศักดิ์ เติมสุข พนักงานสอบสวน สภ.โนนดินแดง ว่า ลูกสาวได้ถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิต ตำรวจไม่รับแจ้ง อีกทั้ง ตนได้นำพยานมาให้ปากคำตำรวจกว่า 10 คน ตำรวจเรียกสอบปากคำเพียง 4 คน แต่เมื่อตำรวจอ่านสำนวนการสอบสวนให้ฟังพยานรู้เห็นเหตุการณ์มีแค่ 2 คน ทำให้ญาติไม่สบายใจ หลานสาวตายทั้งคน แต่มาแจ้งความที่โรงพักตำรวจบอกให้รอก่อนไม่ว่าง

       “มาวันนี้ต้องการให้ตำรวจดำเนินการจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว และขอให้ความเป็นธรรมกับญาติผู้เสียหาย อย่าไปปกป้องคนผิด เพราะกลัวว่าเรื่องจะเงียบหายไป ที่สำคัญตำรวจก็ยังไม่ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแต่อย่างใด ซึ่งทางผู้กำกับการ สภ.โนนดินแดง รับปากจะย้ายตำรวจที่ไม่รับแจ้งความไปอยู่ที่จังหวัด และจะเปลี่ยนพนักงานสอบสวนชุดใหม่ ทำหน้าที่แทน ใครมีเรื่องอะไรให้ไปร้องทุกข์ และทุกคนเป็นพยานให้ด้วย ส่วนผู้ต้องหาทราบว่ามีการมามอบตัวแล้ว 6 คน แต่ตำรวจบอกว่าเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา ก่อนที่จะปล่อยตัวไป” อาสาวผู้ตาย กล่าว

       ต่อมา พ.ต.อ.พิศิษฎ์ ศรีสุพล ผกก.สภ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้มาพบกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมรับปากจะดำเนินการตามที่ชาวบ้านร้องขอให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวน และย้ายตำรวจคนดังกล่าวออกนอกพื้นที่

       พ.ต.อ.พิศิษฎ์ กล่าวว่า ตนได้รายงานให้ พล.ต.ต.ประสิทธิ์ ทำดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ทราบเรื่องทั้งหมด และได้สั่งการให้ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังตำรวจภูธรจังหวัด ก็จะมีคำสั่งให้ พ.ต.ท.ดำรงศักดิ์ เติมสุข พนักงานสอบสวน สภ.โนนดินแดง เจ้าของคดี มาช่วยราชการที่ตำรวจภูธรจังหวัด พร้อมกับตั้งพนักงานสอบสวนชุดใหม่มาคุมคดีนี้แทน โดยมอบหมายให้ พ.ต.ท.ยงยุทธ พินิจการ รอง ผกก.สส.สภ.โนนดินแดง มาดุแลคดีนี้แทน ชาวบ้านก็พอใจ

       ผกก.สภ.โนนดินแดง กล่าวต่อว่า ชาวบ้านไม่พอใจตำรวจปล่อยตัวเด็กที่เป็นผู้ต้องหาไป ตามกฎหมายควบคุมไม่ได้หากมามอบตัว ทางตำรวจควบคุมตัวไว้ไม่ได้เพียงแจ้งข้อหาแล้วปล่อยตัวไป ตำรวจมีการรับแจ้งความตลอดและดำเนินการอย่างเต็มที่ ตามกฎหมายต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดแจ้ง ชาวบ้านจะให้ตัดสินทันทีไม่ได้ อีกทั้งรอผลผ่าชันสูตรศพที่แน่ชัดอีกครั้ง เพราะมีพยานหลายปากยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ยืนยันทางตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

       ขณะที่ พ.ต.ท.ดำรงศักดิ์ เติมสุข พนักงานสอบสวน สภ.โนนดินแดง เจ้าของคดี ที่ชาวบ้านไม่พอใจขอให้ย้าย กล่าวว่า วันเกิดเหตุได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่า มีเหตุรถจักรยานยนต์ล้มมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จึงไปตรวจสอบที่ รพ.โนนดินแดง แต่จากการสอบพยานแวดล้อมว่าเป็นเหตุวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกาย จึงเรียกสอบพยานให้ละเอียดก่อนว่าเป็นเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม หรือทำร้ายร่างกายกันแน่ จึงจะนำมาลงบันทึกประจำวันได้ แต่ชาวบ้านไม่เข้าใจ อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายใจของชาวบ้าน และผู้บังคับบัญชา ตนก้พร้อมที่จะปฏิบัติตาม

       พ.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า รุ่งเช้าหลังเกิดเหตุได้มีญาติพาวัยรุ่นชาย 6 คน อายุระหว่าง 15-18 ปี มามอบ เนื่องจากตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกาย จึงได้สอบปากคำทั้งหมดไว้ พร้อมแจ้งข้อหา ร่”วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และได้รับบาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย” ก่อนจะปล่อยตัวไป

       โดยผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ในจำนวนนี้ 3 คน อายุไม่ถึง 18 ปี ได้ส่งสถานพินิจฯ ส่วนอีก 3 คน อายุเกิน 18 ปี จะได้ยื่นคำร้องขอศาลออกหมายขังต่อไป ขณะที่ผู้ต้องหาอีก 1 คน ยังไม่มามอบตัว

       เบื้องต้น ตำรวจสันนิษฐานว่า วัยรุ่นกลุ่มที่ก่อเหตุอาจจะมารักชอบพอกับผู้ตาย เมื่อเห็นไปกับชายอื่นจึงความหึงหวงและรุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งจะได้ติดตามวัยรุ่นที่ก่อเหตุยังไม่มามอบตัวดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป