ปิดตำนาน"บิน"ทะลุโลก กระสวยอวกาศ"ดิสคัฟเวอรี่!"
ดิสคัฟเวอรี่ จุดระเบิดบินออกนอกโลกครั้งแรก 30 ส.ค. 2527
กระสวยอวกาศชื่อชั้นระดับตำนาน ′ดิสคัฟเวอรี่ สเปซ ชัตเทิล′ ถึงคราวปลดระวางเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ภายหลังจากบินบุกเบิกนำมนุษย์ออกนอกโลกไปศึกษาห้วงอวกาศมานานร่วมๆ 30 ปี!
สํานักงานบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ′นาซ่า′ ส่งกระสวยอวกาศ ′ดิสคัฟเวอรี่′ออกนอกโลกเป็นครั้งแรกเพื่อปฏิบัติภารกิจอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2527 จนถึงปัจจุบัน สหรัฐมีฝูงบินกระสวยอวกาศอยู่ 3 ลำ ที่ชาวโลกคุ้นชื่อกันดี นั่นคือ
ดิสคัฟเวอรี่
เอนเดเวอร์
และแอตแลนติส
แต่ละลำทำหน้าที่บินหมุนเวียนสลับกันพา ′มนุษย์′ ไปทดลองนอกโลก รวมถึงรับ-ส่งมนุษย์อวกาศไปกลับ ′สถานีอวกาศนานาชาติ′ (ไอเอสเอส) ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
โครงการกระสวยอวกาศของสหรัฐทั้ง 3 ลำ จะถึงวาระปลดระวาง พร้อมกับนำเข้าไปเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป
โดยดิสคัฟเวอรี่ เป็นกระสวยลำแรกที่จะปิดตำนานการบิน ภายหลังเดินทางออกจากสถานีไอเอสเอส เพื่อกลับมายังพื้นโลกในวันพุธที่ 9 มีนาคมนี้ ตามเวลาสหรัฐ
เที่ยวบินประวัติศาสตร์อำลาภารกิจดิส คัฟเวอรี่ นำ 6 นักบินอวกาศทะยานออกจาก ′ศูนย์อวกาศเคนเนดี้′ เมื่อเวลา 16.53 น. วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา
ภารกิจสุดท้ายนี้มีชื่อรหัสว่า "STS-133" (เอสทีเอส-133) ซึ่งสื่อถึงตัวเลขเที่ยวบินรวมแล้ว 133 เที่ยว ซึ่งกระสวยอากาศสหรัฐ ทั้งสามลำเคยบินออกสู่วงโคจรโลก
แต่ถ้าว่ากันเฉพาะดิสคัฟเวอรี่ เคยออกบินทั้งสิ้น 39 เที่ยว
มีภารกิจสำคัญ อาทิ เป็นกระสวยอวกาศสหรัฐลำแรกที่บินออกนอกโลกในปี พ.ศ.2531 เพื่อนำดาวเทียมออกไปปล่อยสู่วงโคจร หลังจากเกิดโศกนาฏกรรมกระสวยอวกาศ ′ชาลเลนเจอร์′ ระเบิด
1.ลงจอด
2.หุ่นยนต์โรโบนอต 2
3.อุปกรณ์นักบินอวกาศ
4.เครื่องบินดัดแปลง รุ่น 747 ขนดิสคัฟเวอรี่กลับเข้าโรงเก็บ
5.แสงจากเครื่องยนต์ขับดับของดิสคัฟเวอรี่ 3 จุด มีแสงสีเงินดูคล้ายเพชร
6.ลูกเรือภารกิจ เอสทีเอส-133
7.อัลวิน ดรูว์-สตีฟ โบเว่น 2 มนุษย์อวกาศซ่อมแซมไอเอสเอส
9.อัลวิน ดรูว์-สตีฟ โบเว่น 2 มนุษย์อวกาศซ่อมแซมไอเอสเอส
10.ภาพถ่ายสถานีไอเอสเอส
11.เตรียมปล่อย
12.ลอยอยู่นอกโลก
|
นอกจากนั้น ยังรับหน้าที่นำกล้อง โทรทรรศน์สำรวจอวกาศเลื่องชื่อ ′ฮับเบิล สเปซ เทเลสโคป′ ไปส่งยังวงโคจรโลก
สําหรับรายชื่อนักบินอวกาศชุดสุดท้ายที่ร่วมเดินทางไปกับ ดิสคัฟเวอรี่ เอสทีเอส-133 ประกอบด้วย
ผู้บัญชาการ สตีฟ ลินซีด์
เอริก โบอี้ นักบิน
พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญประจำเที่ยวบิน คือ อัลวิน ดรูว์, นิโคล สต็อตต์, ไมเคิล บาร์แร็ตต์ และสตีฟ โบเว่น
โดยทีมมนุษย์อวกาศทั้งหมดเดินทางไปยังสถานีไอเอสเอส มูลค่า 3.5 ล้านล้านบาท ซึ่งลอยอยู่ในอวกาศห่างจากโลก 354 ก.ม.
เพื่อนำส่งหุ่นยนต์โรโบนอต 2
ส่งเสบียงให้มนุษย์อวกาศบนสถานีไอเอสเอส
ส่งอะไหล่และช่วยซ่อมแซมสถานี
รวมถึงขนอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ไปยังสถานีอีกด้วย
อันที่จริงตามกำหนดการเดิม ดิสคัฟเวอรี่เที่ยวสุดท้ายต้องบินไปไอเอสเอสตั้งแต่เดือนพ.ย. ปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ภารกิจต้องเลื่อนมาจนถึง ปีนี้ เพราะถังเชื้อเพลิงมีปัญหาเกิด ′รอยร้าว′ ขึ้นภายในเพราะผลจากการเติมเชื้อเพลิง
ส่วนสาเหตุที่ทำให้โครงการกระสวยอวกาศสหรัฐต้องถึงเวลาปิดฉากนั้น สืบเนื่องมาจาก ′โอเปอเรชั่น คอสต์′ หรือต้นทุนในการดำเนินโครงการมีค่าใช้จ่ายสูงมากอีกทั้งงบประมาณที่ได้จากรัฐสภาสหรัฐ (คองเกรส) ยังคงมีปัญหา และเกิดข้อถกเถียงว่าไม่ควรนำเงินไปผลาญกับกระสวยอวกาศรุ่นเก่าอีกต่อไป
แต่ควรทุ่มงบประมาณไปพัฒนา-สร้างยานอวกาศรุ่นใหม่ๆ ที่สามารถนำ ′มนุษย์′ ท่องอวกาศไปได้ไกลเกินกว่าสถานีไอเอสเอส
เช่น นำมนุษย์ไปสำรวจดาวเคราะห์น้อย, ดาวอังคารหรือแม้แต่บินสำรวจไปไกลกว่าระบบสุริยะ!
ภาระหน้าที่การบินไปกลับโลก-ไอเอส เอส หลังจากนี้ต้องฝากไว้กับ ′ยานอวกาศ รัสเซีย′ ซึ่งแต่ละเที่ยวบินต้องใช้งบประมาณถึง 51 ล้านดอลลาร์ หรือ 1,785 ล้านบาท ต่อ 1 ที่นั่ง!
อีกหนึ่งแนวทางที่รัฐบาลสหรัฐและ นาซ่ามองไว้ ก็คือ จะดึง ′ภาคเอกชน′ เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างยานอวกาศรุ่นใหม่ๆ ที่มีความคล่องตัวสูง คอยทำหน้าที่ขนส่งมนุษย์และอุปกรณ์ต่างๆ ไปกลับระหว่างโลกกับไอเอสเอสแทนกระสวยอวกาศ ซึ่งใหญ่โต เทอะทะ
"จริงๆ แล้วดิสคัฟเวอรี่มีกำหนดการบินกลับโลกภายใน 11 วัน แต่เราเพิ่มเป็น 13 วัน เพื่อให้ทีมดิสคัฟเวอรี่ ช่วยมนุษย์ อวกาศบนสถานีไอเอสเอสดูแลการติดตั้ง ′โมดูล ลีโอนาร์โด มิลติเพอร์โพสต์′ให้เรียบร้อย ยานดิสคัฟเวอรี่จึงจะบินกลับ โลกเพื่อปิดฉากเที่ยวบินสุดท้ายในวันที่ 13 มี.ค.นี้" นาซ่า แถลง
ด้านเที่ยวบินสุดท้ายของกระสวยเอนเดเวอร์ กำหนดไว้วันที่ 19 เมษายน..
ตามด้วยยานแอตแลนติส ปิดฉากประวัติ ศาสตร์บินทะลุโลก วันที่ 28 มิถุนายนนี้
โรเบิร์ต บรุน หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีนาซ่า ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี โดยประเมินว่า
หลังจากโครงการกระสวยอวกาศสิ้นสุดลงในปีนี้ นาซ่าจะมุ่งเข็มทิศไปในเรื่องการทดลองทางวิทยาศาสตร์บนไอเอสเอส
อาทิ การทดลองรีไซเคิลน้ำดื่มบริสุทธิ์ ในอวกาศ และการหาวิธีป้องกันไม่ให้คนที่อยู่ในอวกาศได้รับอันตรายจากรังสีต่างๆ และสภาพไร้แรงดึงดูด
พร้อมๆ กันนั้น นาซ่าจะเดินหน้าสร้างพันธมิตรภาคเอกชน ให้เข้ามาสู่ธุรกิจสร้างยานอวกาศรุ่นใหม่
เพื่อรับ-ส่งมนุษย์ไปกลับระหว่างโลกกับวงโคจรระดับต่ำของโลกมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ข้อจำกัดสำคัญที่สุดของ นาซ่าตอนนี้ คือ การเจรจาของบประมาณจากสภาคองเกรส
คาดว่าการพัฒนาพาหนะขนส่งสำหรับ อวกาศในอนาคต อาจต้องใช้เวลาถึง 10 ปี กว่าจะประสบความสำเร็จ" บรุน กล่าว
ขณะที่นาซ่าออกแถลงการณ์ ชี้แจงว่า
ด้วยภาวะเงื่อนไขที่สภาต้องการให้เราสร้างยานอวกาศ จรวดขับดัน และแคปซูลอวกาศรุ่นใหม่ ให้เสร็จภายใน 5 ปีนั้นเราไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอนด้วยงบประมาณเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน!
แต่ท้ายที่สุด บรุนยังมองโลกในแง่ดีว่า
"ขอให้เราลองคิดถึงเรื่องนี้ว่าเหมือนกับการเปิดอ่านหนังสือไล่ไปทีละบท ขณะนี้เราก็แค่กำลังอ่านข้ามจากบทเก่าไปสู่บทใหม่เราเชื่อมั่นว่าโครงการส่งมนุษย์บินท่องไปในอวกาศจะไม่มีทางถึงจุดจบอย่างแน่นอน!"
30 ส.ค. 2527 : ดิสคัฟเวอรี่ ออกบินภารกิจแรก
29 ก.พ. 2531 : ดิสคัฟเวอรี่เป็นกระสวยอวกาศลำแรก ที่บินออกนอกโลก หลังเกิดเหตุกระสวยชาลเลนเจอร์ระเบิด
24 เม.ย. 2533 : ดิสคัฟเวอรี่บินส่งกล้องฮับเบิลสู่วงโคจร
3 ก.พ. 2538 : ไอลีน คอลินส์ เป็นผู้หญิงคนแรกที่รับหน้าที่นักบินดิสคัฟเวอรี่
8 มี.ค. 2544 : ดิสคัฟเวอรี่ บินรับลูกเรือไอเอสเอส 3 คนกลับสู่โลก หลังอยู่บนสถานีไอเอสเอสนาน 136 วัน
26 ก.ค. 2548 : ดิสคัฟเวอรี่ เป็นกระสวยอวกาศลำแรกที่ออกบิน หลังเกิดโศกนาฏกรรมกระสวยโคลัมเบียระเบิดขณะบินกลับพื้นโลก
23 ต.ค. 2550 : ดิสคัฟเวอรี่ปฏิบัติภารกิจในอวกาศ 14 วัน เพื่อนำโมดูลส่วนที่อยู่อาศัย ไปประกอบเข้ากับสถานีไอเอสเอส
24 ก.พ. 2554 : ดิสคัฟเวอรี่ออกบินเที่ยวสุดท้าย ไปยังไอเอสเอส