จ.เชียงราย จับแก็งคอลเซ็นเตอร์เรียกค่าไถ่
แถลงจับแก็งคอลเซ็นเตอร์เรียกค่าไถ่
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ พิสุทธิ์ศัก รรท รองผบช.น. พร้อมด้วยพ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาคย์ รองผบก.น.7 และพ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สน.ตลิ่งชัน แถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายธนาวุฒิ แซ่หม่อ อายุ 25 ปี ชาวไทยเชื่อสายจีน อยู่บ้านเลขที่ 784 หมู่ 1 ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการกับแก็งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงประชาชนว่าบุคคลในครอบครัวถูกจับเป็นตัวประกัน พร้อมกับเรียกค่าไถ่ และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่จ.552/2554 ในข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นฯ ร่วมกันฉ้อโกง,ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตัวเป็นบุคคลอื่น ลงวันที่ 27 ธ.ค.54 โดยจับกุมตัวได้ที่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส ปิ่นเกล้า แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม.
พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ตลิ่งชัน ได้รับแจ้งจากพล.ร.ท.สมบัติ ไชยทรัพย์ อายุ 75 ปี ข้าราชการบำนาญ ว่ามีคนร้ายโทรศัพท์มาที่บ้านพัก พร้อมกับบอกว่าได้จับตัวลูกสาวเอาไว้ หากต้องการได้ตัวคืนให้นำเงินสดจำนวน 6.9 แสนบาท มาแลก ถ้าไม่นำเงินไปให้จะตัดแขนและขาส่งไปให้ทีละชิ้น อีกทั้งยังข่มขู่ว่าห้ามแจ้งความกับตำรวจ ซึ่งขณะที่คุยโทรศัพท์ก็ได้ยืนเสียงผู้หญิงคล้ายกับลูกสาวร้องขอความช่วยเหลือ ด้วยความกลัวพล.ร.ท.สมบัติ จึงรีบนำเงินไปมอบให้คนร้ายที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางแค เมื่อคนร้ายได้เงินแล้วก็หลบหนีไปทันที กระทั่งเมื่อพล.ร.ท.สมบัติ รู้ตัวว่าถูกหลอกจึงเข้าแจ้งความทันที
พล.ต.ท.วินัย กล่าวอีกว่า จากนั้นผู้ต้องหาได้หลอกลวงผู้เสียหายอีกหลายรายแต่บางรายก็ไม่เดินทางนำเงินมาให้ตามที่นัดหมาย จนกระทั่งรายล่าสุดผู้ต้องหาได้เรียกเงินค่าไถ่จำนวน 1.9 แสนบาท และนัดส่งมอบที่ห้างโลตัส ปิ่นเกล้า แต่ผู้เสียหายได้โทรศัพท์เข้าแจ้งความไว้ก่อน ผู้ต้องหาจึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ตลิ่งชันจับกุมตัวเอาไว้ได้ ผู้ต้องหารายนี้มีหน้าที่แค่ไปรับยังมีผู้ร่วมขบวนการอยู่เบื้องหลังอีกหลายคน จะเป็นคนทำหน้าที่โทรศัพท์ไปหลอกลวงเหยื่อ จัดฉากหาคนมาส่งเสียงร้องและข่มขู่ให้ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนขยายผลจับกุมต่อไป เบื้องต้นจากการตรวจสอบขณะนี้พบว่ามีผู้เสียหายประมาณ 2 ราย แต่อยู่ระหว่างการประสานงานว่ายังมีผู้เสียหายรายใดที่เคยตกเป็นเหยื่ออีกหรือไม่ ทั้งนี้อยากฝากไปถึงประชาชนว่าหากถูกคนร้ายโทรศัพท์ไปที่บ้านให้รีบตรวจสอบกับคนในครอบครัวก่อน อย่าเพิ่งหลงเชื่อนำเงินไปให้
จากการสอบสวนนายธนาวุฒิ ให้การรับสารภาพว่า ทำมาแล้ว 2 ครั้ง โดยก่อนหน้านี้ขณะที่ขายของอยู่ย่านประตูน้ำได้รู้จักกับชาวจีนรายหนึ่งและให้เบอร์โทรศัพท์ไป จากนั้นก็ได้รับการว่าจ้างให้ก่อเหตุดังกล่าว ตนมีหน้าที่เพียงแค่รับโทรศัพท์และไปรับเงินจากเหยื่อเท่านั้น ได้ค่าจ้าง 5,000 บาท ที่ทำไปเพราะเพิ่งตกงาน ต้องการเงินไปเลี้ยงครอบครัวเท่านั้น
