โดยพล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก ผู้ต้องหากระทำความผิดหลายกรรมหลายวาระต่างกันคือ ผู้ต้องหาได้อ้างตัวเป็นตำรวจชื่อ ร.ต.ต.เพชรน้ำหนึ่ง พิทักษ์พัฒนารักษ์ ตำแหน่งรอง สว.สส.กองกำกับการสืบสวนปราบปรามยาเสพติด พร้อมทั้งอ้างว่า สามารถวิ่งล้มคดีต่างๆได้ โดยเรียกรับเงินจากผู้เสียหายที่หลงเชื่อรายละ 3-4 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังเดินสายหลอกลวงข่มขู่หญิงสาววัยรุ่นในตัวเมืองนครราชสีมา แลกกับการถูกจับในข้อหาออกมาเที่ยวในเวลากลางคืน ด้วยการขอร่วมหลับนอนด้วย มีคนตกเป็นเหยื่อแล้วหลายราย
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาเข้าไปตีสนิทและหลอกลวงนายพ. (นามสมมติ ) ชาวจ.นครราชสีมา ว่า จะช่วยวิ่งล้มคดีที่ลูกชายซึ่งถูกจับในข้อหาพรากผู้เยาว์ โดยเรียกรับเงินรวม 3.3 หมื่นบาท แต่ปรากฏว่าลูกนายพันธ์ ยังถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.หินดาด อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา ว่าถูกชายอ้างตัวเป็นตำรวจต้มตุ๋นหลอกลวง จนกระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวไว้ได้ขณะหลบหนีกบดานอยู่ที่ โรงแรมฟ้าไทย ถนนโพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพด้วยว่า ล่าสุดช่วงกลางดึกวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาข่มขู่หญิงสาววันรุ่นคนหนึ่ง ขณะกำลังเดินเล่นอยู่บริเวณสวนสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อขอร่วมหลับนอนด้วย และหากไม่ยินยอมจะส่งดำเนินคดี จนผู้เสียหายยินยอมร่วมหลับนอนด้วย และคาดว่าจะมีคนตกเป็นเหยื่อมาแล้วหลายราย เบื้องต้น จึงนำตัวส่งดำเนินคดีข้อหา ปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน มีเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวไปสอบสวนขยายผลดำเนินคดีต่อไป.