เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้(1 ม.ค.)นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี องค์กรสาธารณประโยชน์พาน.ส. รดา อินทรักษา อายุ 32 ปี พนักงานเสมียนบัญชีบริษัทขายเหล็กแห่งหนึ่งย่านเอกชัย-บางบอนเข้าพบพ.ต.อ.ชาญ  แก้วท่าไม้ ผกก.สน.บางขุนเทียน พร้อมแถลงจับกุมนายนรินทร์ แซ่กอ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเขที่ 162 ซอยบางแวก 21 แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม. ผู้ต้องหาคดีฆ่าอื่นโดยเจตนา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา จากการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 31 ธ.ค ที่ผ่านมา น.ส.รดา ได้เดินทางมายังมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีฯ เพื่อร้องทุกข์นางปวีณา หงสกุล กรณีนางสาย เพิ่มรุ่งเรือง อายุ 56 ปี มาดาถูกนายนรินทร์ แซ่กอ  สามีตนใช้น้ำมันเบนซินราดแล้วจุดไฟเผาจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ผ่านมา 2 เดือนแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ เกรงว่าทางครอบครัวจะได้รับอันตราย โดยน.ส.รดา กล่าวว่า เมื่อวันเกิดเหตุตนได้ไปงานเลี้ยงกับหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานโดยบอกกับนายนรินทร์ สามีว่าจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น.หลังเสร็จงานเลี้ยงทุกคนกำลังแยกย้ายกันกลับ เป็นจังหวะที่สามีของตนเดินเข้ามาในร้านเรียกให้ตนนั่งต่อแล้วสั่งเบียร์มาดื่มต่อจนตี 5 จึงเดินทางกลับ  ระหว่างทางได้มีปากเสียงกัน  เนื่องจากนายนรินทร์ กลัวว่าตนจะกลับไปคืนดีกับแฟนเก่า

น.ส.รดา กล่าวอีกว่า  จากนั้นนายนรินทร์ได้บอกให้แท็กซี่แวะปั๊มน้ำมันแถวพระราม 2 ซื้อน้ำมันเบนซินบอกว่าจะเอาไปเติมรถจักรยานยนต์  เมื่อซื้อน้ำมันเสร็จเข้ามานั่งในรถแท็กซี่แล้วทำน้ำมันหกใส่ตน  ทำให้เถียงกันอีก เมื่อกลับถึงบ้านตนรีบเดินเข้าบ้านเห็นแม่อยู่ในครัวจึงได้บอกกับแม่ว่าสามีแกล้งทำน้ำมันหกใส่ แม่ของตนโมโหเดินไปต่อว่านายนรินทร์ที่หน้าบ้าน  จากนั้นก็ได้ยินเสียงแม่ร้องตะโกนว่า  “อย่าๆ” แล้วก็มีเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดตนจึงรีบวิ่งออกไปดูเห็นไฟกำลังลุกท่วมร่างของแม่อยู่จึงตะโกนให้คนในบ้านออกมาช่วยกันดับไฟ ระหว่างที่ชุลมุนกันอยู่นั้น นายนรินทร์ได้วิ่งหลบหนีไป จึงรีบนำร่างของแม่ส่งรพ. แล้วเข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.สิทธิวงศ์  ยิ่งยวด พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.บางขุนเทียน เพื่อให้ติดตามตัวสามีจอมโหดมาดำเนินคดีด้วย  ส่วนอาการแม่แพทย์ลงความเห็นว่าสาหัสมากต่อมาได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ตนเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้จับตัวคนร้ายจึงได้มาร้องเรียนกับทางมูลนิธิฯ เนื่องจากกลัวว่าสามีจอมโหดจะกลับมาทำร้ายคนที่บ้านอีก

                ภายหลังรับแจ้งนางปวีณา ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.ชาญ เพื่อให้เร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว พร้อมกันนี้ได้ประสานไปยังกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอให้ช่วยเรื่องเงินชดเชยความเสียหายพร้อมทั้งขอรับการคุ้มครองพยานต่อไป ต่อมา ได้รับแจ้งจากพ.ต.อ.ชาญ ว่าได้จับกุมตัวนายนรินทร์ ผู้ต้องหาได้แล้ว นางปวีณาจึงได้เดินทางมาพร้อมผู้เสียหายเพื่อชี้ตัวคนร้ายพร้อมกับคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากนายนรินทร์ มีจิตใจโหดเหี้ยมทั้งเคยข่มขู่ว่าหากน.ส.รดาบอกเลิกความสัมพันธ์ก็จะต้องตายกันไปข้างหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะทำการแถลงข่าวอยู่นายนรินทร์  ผู้ต้องหาได้ยกมือไหว้ขอโทษญาติผู้ตาย พร้อมกล่าวว่าที่ทำลงไปไม่ได้ตั้งใจเป็นเพราะน้ำมันหกใส่และตนถือไฟแช็คอยู่จึงเกิดประกายไฟขึ้น รู้สึกเสียใจมากไม่คิดว่าเรื่องจะใหญ่โตขนาดนี้ หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปอยู่ทางใต้และตั้งใจว่าจะเข้ามอบตัวกับตำรวจหลังปีใหม่แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน

ด้านพ.ต.อ.ชาญ กล่าว่าที่ผ่านมาเป็นช่วงเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหม่ๆและประชาชนเดือดร้อนกันมาก ยืนยันว่าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจได้ออกหมายจับและสืบสวนติดตามจับกุมตัวได้ย่านถนนราชพฤกษ์ขณะผู้ต้องหาย้อนกลับมาหาญาติ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และจะฝากขังในวันพรุ่งนี้พร้อมคัดค้านการประกันตัว.