จ.เพชรบุรี ไฟไหม้ทัวร์ขนทหารลงใต้โชคดีหนีทันไม่มีเจ็บ

ทหารจากค่ายสุรสีห์ ประมาณ 50 นาย หวิดดับทั้งคันหลังเกิดไฟลุกท่วมรถทัวร์ ขณะเดินทางลงไปสับเปลี่ยนกำลัง3จังหวัดชายแดนใต้ โชคดีวิ่งหนีลงจากรถได้ทันพร้อมอาวุธประจำกาย เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำหวั่นกระสุนปืนในรถระเบิด 

         เวลา 20.30 น.(2 มกราคม) พ.ต.ท.พิทักษ์ ถูไกรวงษ์ พนักงานสอบสวน สภ.เขาย้อย อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้รถทัวร์บนถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 135 ม.3 ต.สระพัง อ.เขาย้อย จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถทัวร์สีฟ้าทะเบียน 30 - 0282 ราชบุรี ที่ข้างตัวรถเขียนข้อความว่า หจก.สุภัทรเดช จำกัด เกิดไฟลุกท่วมทั่วทั้งคัน มีรถจำนวน 2 คันพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลเขาย้อย กำลังใช้น้ำฉีดสกัดเพื่อดับไฟที่กำลังลุกไหม้จากล้อและตัวรถ

จากการสอบสวนทราบว่ารถทัวร์คันดังกล่าวกำลังนำทหารประมาณ 50 นาย จากค่ายกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี หรือกองกำลังสุรสีห์ ไปผลัดเปลี่ยนกำลังที่ ฉก.นราธิวาส 36 อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส โดยทหารที่เดินทางมากับรถทัวร์คันดังกล่าวได้เล่าเหตุการณ์ว่า คณะได้ออกเดินทางจากค่ายฯตั้งแต่ตอนบ่าย 3 โมง โดยได้เช่ารถทัวร์ของเอกชนไปส่งจำนวน 2 คัน รวมทหารประมาณ 100 นาย ซึ่งคันแรกมีทหารอยู่บนรถประมาณ 45 คน ได้เดินทางไปถึง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ

          ส่วนคันที่ 2 มีทหารอยู่บนรถทัวร์ประมาณ 50 นาย เมื่อรถทัวร์วิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุได้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นบริเวณล้อหลังด้านขวา คนขับจึงได้จอดรถ และทหารทั้งหมดได้รีบวิ่งออกจากตัวรถ เบื้องต้นได้ใช้ถังดับเพลิงขนาดเล็กที่อยู่ในรถฉีดบริเวณล้อที่เกิดไฟลุกแต่ก็ไม่สามารถสกัดเพลิงไว้ได้ ไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนทั่วทั้งคัน โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย

          ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้ตัวรถอยู่นั้น ได้มีเสียงคล้ายเสียงปืนดังเป็นระยะ จนกระทั่งเสียงดังกล่าวเงียบลง รถดับเพลิงที่จอดรออยู่จึงได้เข้าใช้น้ำระดมฉีดเข้าไปในตัวรถที่ไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง และระหว่างที่ทหารได้วิ่งออกตัวรถทัวร์ได้นำเอาอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนออกมาได้เกือบทั้งหมด

          นอกจากนี้ทราบจากทหารว่ายังมีปืนเอ็ม 16 แบบยาวจำนวน 2 กระบอก พร้อมอาวุธปืนจำนวนหนึ่งติดอยู่ในรถ ทำให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรอ.เขาย้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ที่เข้ามาช่วยเหลือได้แจ้งให้ผู้ที่ใช้รถสัญจรบนถนนบริเวณดังกล่าวอย่างระมัดระวังอย่าเข้าใกล้ตัวรถ เพราะเกรงจะได้รับอันตรายจากกระสุนปืนที่ถูกความร้อนจนเกิดระเบิดขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงจะสามารถสกัดไฟได้อย่างสงบ ส่วนรถทัวร์ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน และทหารทั้งหมดได้รอรถยนต์จากค่ายกองพลทหารราบที่ 9  มารับ เพื่อเดินทางต่อไปยังฐาน ฉก.นราธิวาส 36 ต่อไป