จ.สุราษฎร์ธานี ฝนหยุดตก-จนท.เร่งซ่อมถนนสะพาน

อุตุฯ ยัน ภาคใต้ช่วงนี้ ไม่มีพายุ มรสุมระลอกใหม่ ถึงพรุ่งนี้ ชายฝั่งอาจมีฝน คลื่นแรง ด้านผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี ระบุ พื้นที่ใกล้กลับสู่สภาวะปกติ แม่ทัพภาค 4 เผยเร่งซ่อมแซมถนน - สะพาน

นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ในรายการเปิดข่าวเด่นเจาะประเด็นดัง FM 102.75 MHz ว่า อากาศในวันนี้ ยังคงปลอดโปร่ง ท้องฟ้าแจ่มใส คลื่นลมยังปกติ ไม่สูงมากนัก แต่ในวันพรุ่งนี้ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ระลอกใหม่ จะมาถึง ก็จะทำให้พื้นที่ริมชายฝั่งทะเลมีฝนบ้างเล็กน้อย แต่ไม่มากนัก ไม่น่าจะกระทบกับพื้นที่น้ำท่วมขังที่มีอยู่ในขณะนี้ คลื่นลมในทะเลก็จะรุนแรงขึ้น พี่น้องประชาชนคงต้องติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เรือประมงต้องระวัง หรือเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้ และยืนยันว่าในช่วงนี้ จะไม่มีพายุเข้าภาคใต้แน่นอน

ด้าน นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ในพื้นที่ใกล้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากฝนหยุดตกมา 3 วัน ระดับน้ำในแม่น้ำลำคลองก็ลดลงทั้งหมดแล้ว ทำให้เหลือเพียงพื้นที่ราบลุ่ม ที่เป็นพื้นที่การเกษตร
ของประชาชนเท่านั้น ที่ยังมีน้ำท่วมขัง แต่คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีก 1 - 2 วัน ก็น่าจะระบายสู่ธรรมชาติได้ทั้งหมด

ขณะที่ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัตช์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ ท้องฟ้าเปิดหมดแล้ว ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่สะดวกมากขึ้น น้ำก็ระบายได้หมดแล้ว มีเพียงบางพื้นที่ ที่ยังท่วมขังเท่านั้น ยืนยันว่าประชาชนทุกคนในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว เหลือเพียงการเข้าฟื้นฟูพื้นที่ ซ่อมแซมถนนหนทางให้กลับมาใช้การได้ตามปกติเท่านั้น ซึ่งในทุกพื้นที่ เจ้าหน้าที่ทหารได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ และเจ้าหน้าปกครองในแต่ละพื้นที่เป็นอย่างดี ส่วนกรณีของสะพานแบริ่ง ที่ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ นั้น ซ่อมเสร็จเปิดใช้แล้ว 1 แห่ง ส่วนอีก 1 แห่ง จะพยายามซ่อมแซมให้สามารถใช้การได้ในวันนี้



นครศรีฯน้ำท่วมคลี่คลายทั้งหมดแล้ว เร่งฟื้นฟู
นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผย กับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ในรายการเปิดข่าวเด่นเจาะประเด็นดัง FM 102.75 MHz ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่คลี่คลายทั้งหมดแล้ว เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการฟื้นฟู ซึ่งคาดว่าการแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ชุดสุดท้าย น่าจะเสร็จสิ้นในวันอาทิตย์นี้ ส่วนการซ่อมแซมถนนหนทางสายต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย รวมถึงสะพาน โดยเฉพาะพื้นที่ อ.นบพิตำ ก็จะทำให้เร็วที่สุด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า จังหวัดได้รับงบประมาณในการสร้างสะพานถาวรแล้ว ก็จะเร่งดำเนินการต่อไป ส่วนกรณีของ อ.ร่อนพิบูลย์ ที่เกิดดินสไลด์ ก็จะเข้าไปตรวจสอบสาเหตุอีกครั้ง ซึ่งเบื้องต้นอาจเกิดจากการอุ้มน้ำของดิน หรือการขุดบ่อลูกรังในพื้นที่ด้านล่าง

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังกล่าวต่อไปอีกว่า จะมีการเข้มงวดในการดูแลรักษาพื้นที่ป่า ป้องกัน
การบุกรุกพื้นที่ป่าของจังหวัดมากขึ้น รวมถึงการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ ป้องกันการบุกรุกป่า และส่งเสริมการปลูกป่า
เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยป้องกันปัญหาน้ำป่า และดินโคลนถล่มอีกทางด้วย