8จว.ใต้ระทึกอีก-อุตุฯเตือนฝนถล่มซ้ำ

ถึง10มค. เหนือสั่น หนาวเพิ่ม 2-4องศา

น้ำท่วมใต้เริ่มคลี่คลาย นครฯ เร่งซ่อมสะพานเชื่อมทางขาดหลายจุด เกษตรกรโอดผลผลิตทิ้งเน่า เอาออกมาขายไม่ได้ สุไหงโก-ลกยังท่วม 1 ม. กรมอุตุฯ เตือนซ้ำ 8 จว.ใต้ เจอฝนหนักอีกระลอก 6-10 ม.ค.นี้ เหนือ-อีสาน-กลาง ประกาศภัยหนาวแล้ว 29 จว. เตือนอุณหภูมิลดอีก 2-4 องศา "สุขุมพันธุ์" จี้วางผังเมืองรวมกทม.-ปริมณฑล หวั่นกทม.จมน้ำในอีก 50 ปี ชาว "มหาชัย" โวยคูปอง 2 พัน ปิดพระราม 2 จี้ขอเป็นเงินสด ไม่เอาส่วนลด

สั่งกำลังพลพร้อมช่วยใต้

เวลา 08.00 น. วันที่ 5 ธ.ค. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว. กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ถึงอุทกภัยทางภาคใต้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. รายงานว่าให้ใช้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 เต็มพื้นที่เข้าไปแก้ปัญหาทุกจุด และตนสั่งให้เร่งซ่อมสะพานที่ขาดให้เร็วที่สุด ส่วนพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม ให้เตรียมเครื่องมือ และยุทโธปกรณ์หลักเข้าไปแก้ปัญหา และให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทั้งจากกองทัพภาคที่ 1, 2, 3 เตรียมพร้อมเข้าไปเสริม หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที

พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า สำหรับงบประมาณ จะใช้งบเร่งด่วนสำรองแก้ปัญหาล่วงหน้าไปก่อน และจะประเมินอีกครั้งหลังใช้ไป 7 วัน เพื่อดูว่าทำอะไรไปบ้างใช้งบประมาณเท่าไร เพื่อจะเสนอขอใช้งบประมาณต่อไป แต่ขณะนี้ได้ให้ใช้งบประมาณฉุกเฉินแก้ไขล่วงหน้าไปก่อน

ทร.ส่งเรือหลวงช่วยด้วย

พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ว่า กำลังของกองทัพเรือภาค 2 ภาค 3 และหน่วยนาวิกโยธิน ร่วมสนับสนุนเจ้าหน้าที่บ้านเมืองกับทางจังหวัดที่ร้องขอ โดยส่งกำลังพลไปช่วยเหลือที่อ.ระโนด และ จ.นรา ธิวาส จ.ปัตตานี กองทัพเรือพร้อมที่จะสนับ สนุนช่วยเหลือตลอดเวลา โดยเราจัดตั้งหมู่เรือช่วยผู้ประสบภัย มีเรือหลวงจักรีนฤเบศรและเรือหลวงสุรินทร์พร้อมช่วยเหลือ

สำหรับนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ติดตามเกาะต่างๆ ผบ.ทร.กล่าวว่า ทางกองทัพเรือสนับ สนุนและพร้อมช่วยตามที่รับการร้องขอ ซึ่งผู้ที่ร้องขอสามารถแจ้งไปที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหรือกองทัพภาคต่างๆ เราก็จะส่งกำลังพลไปช่วย ซึ่งในปัจจุบันกำลังพลกองทัพเรือพอเพียงที่จะไปให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งนี้กองทัพเรือได้ติดตามสถานการณ์ตลอด เพราะเราไม่ไว้วางใจ แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าไม่น่าจะรุนแรง

เตือน 8 จว.ใต้รับฝนเพิ่ม

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่รุนแรงทางภาคใต้ ปภ. จึงประสานทั้ง 8 จังหวัด พร้อมทั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมให้ตรวจสอบเขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ และคันกั้นน้ำ ให้มีความแข็งแรงเพื่อรับกับปริมาณน้ำ ตลอดจนการจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมจะใช้การได้ทันที

นายวิบูลย์กล่าวอีกว่า กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า ช่วงวันที่ 6-8 ม.ค. บริเวณภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกชุกเพิ่มขึ้น ฝนตกหนักบางพื้นที่ ประกอบกับหลายพื้นที่มีสภาพดินชุ่มน้ำและเกิดสถานการณ์อุทกภัยอยู่แล้ว อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่มอีก จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำริมชายฝั่งทะเล และพื้นที่เสี่ยงภัยใน 8 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี สตูล และนราธิวาส เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนักและคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 6-10 ม.ค. โดยติดตามพยากรณ์อากาศ และประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติจะได้อพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที ชาวเรือและชาวประมง ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

ภัยหนาว 29 จังหวัด

นายวิบูลย์กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาว 29 จังหวัด 316 อำเภอ 2,557 ตำบล 29,661 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก น่าน ตาก พะเยา ลำปาง ลำพูน เพชรบรูณ์และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร เลย หนองคาย นครพนม อุบลราช ธานี มหาสารคาม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ บึงกาฬ อุดรธานี และหนองบัวลำภู ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี ราชบุรี และนครปฐม
เหนืออุณหภูมิลดอีก 2-4 องศา

นายทวา พันธุ์ไม้สี หัวหน้าสถานีอุตุนิยม วิทยาลำปาง เผยว่า ในช่วงวันที่ 6-8 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้อากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า จากนั้นช่วงวันที่ 9-10 ม.ค. จะมีกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ทำให้มีฝนในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศหนาวเย็น และให้ระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก

"แม่ทะ"ประกาศภัยหนาว

นายเสริม สูรยกานต์กูล นายกเทศมนตรีตำบลน้ำโจ้ อ.แม่ทะ เผยว่า อุณหภูมิในพื้นที่ 13-15 องศาเซลเซียส โดยบางหมู่บ้านในหุบเขา อุณหภูมิอยู่ต่ำกว่า 11 องศาเซลเซียส โดย อ.แม่ทะ นั้น ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากภัยหนาว พร้อมกับอีก 12 อำเภอ ของจ.ลำปางแล้ว ทำให้ทางแต่ละอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งนำผ้าห่มกันหนาวรุดออกแจกจ่าย ซึ่งผู้ประสบภัยหนาวทั้งจังหวัดมี 135,082 ราย โดยผู้สูงอายุมีจำนวนถึง 56,428 ราย

จ่อฟ้องรัฐแก้น้ำท่วมเหลวเพิ่ม

นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ฟ้องร้องรัฐบาลแก้ไขปัญหาน้ำท่วมล้มเหลวต่อศาลปกครองกลาง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม ว่า ขณะนี้มีประชาชนที่เพิ่งทราบข่าวยื่นหนังสือมอบอำนาจและเอกสารที่เกี่ยวข้องให้กับทางสมาคมฯเพิ่มเติม กว่า 300 คนแล้ว โดยจะปิดรับรอบสองในวันที่ 16 ม.ค. นี้ หลังจากนั้นจะรวบรวมรายชื่อและเอกสารมายื่นศาลปกครองอีกครั้ง เพื่อเป็นการร้องสอดในคดีดังกล่าว คาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 500 ราย

หวั่นกทม.จมใน 50 ปี

เวลา 14.00 น. ที่ห้องแกรนด์ไดมอนด์บอลรูม ตึกไอซีซี อารีนา เมืองทองธานี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานกล่าวเปิดงานการประชุมสัมมนาเพื่อส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 5 ในหัวข้อ "การช่วยกรุงเทพมหานครจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" ว่า ความท้าทายคือทำอย่างไรให้กทม.พัฒนาอย่างยั่งยืนท่ามกลางความไม่แน่นอนของสภาพภูมิอากาศ เพราะกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา กทม.ไม่วางแผนล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นถนน ที่พักอาศัย สำนักงาน โรงเรียน และพื้นที่สาธารณะ ทำให้เติบโตอย่างไม่เป็นระเบียบ นอกจากนี้ ปัญหาทางกายภาพที่กทม.สูงกว่าระดับน้ำทะเลเพียง 1 ม. หากกทม.ดินทรุดปีละ 1 ซ.ม. ภายใน 50 ปี กทม.จะจมน้ำได้

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวอีกว่า การแก้ไขจะต้องทำผังเมืองประสานกับปริมณฑล ต้องวางแนวป้องกันร่วมกัน และก่อนหน้านี้เราใช้การต่อสู้กับธรรมชาติเป็นตัวตั้ง แต่หลังจากนี้ จะต้องปรับแนวคิดให้อยู่กับธรรมชาติให้ได้ เช่น การปลูกบ้านยกสูงหนีน้ำ ซึ่งภูมิปัญญาท้องถิ่นจะช่วยแก้ปัญหาได้

พท.จี้กทม.จ่ายเยียวยา

ที่รัฐสภา นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานคณะกรรมการประสานงานภาคกทม. พรรคเพื่อไทย แถลงเรียกร้องให้กทม.เร่งจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเร่งด่วน เพราะรัฐบาลได้วางหลักเกณฑ์การจ่ายเงินไว้เป็นหลักการเดียวกันทั่วประเทศแล้ว แต่ปรากฏว่าตั้งแต่เกิดเหตุน้ำท่วมกทม.สามารถจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ประสบภัยได้เพียง 268,624 ราย จากผู้ยื่นขอรับเงินช่วยเหลือ 549,046 ราย แต่ยอดของผู้เดือดร้อนจริงๆ จะอยู่ที่ 828,603 ราย

มหาชัยปิดถนนยัวะคูปอง 2 พัน

เวลา 14.30 น. ชาวบ้านสมุทรสาคร 500 คน รวมตัวปิดถนนพระราม 2 ทางเข้าออกตัวเมืองมหาชัย เนื่องจากไม่พอใจกระทรวงพลังงานที่แจกคูปองมหกรรมสินค้าเบอร์ 5 เยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ไม่สามารถใช้เป็นคูปองเงินสดเพื่อซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ นอกจากนี้ บางร้านยังปิดร้านหนี หรือจำกัดสินค้าให้ซื้อได้ ทำให้การจราจรติดขัดกว่า 10 ก.ม. นานกว่า 3 ชั่วโมง เนื่องจากชาวบ้านไม่ต้องการคูปองส่วนลด แต่ต้องการเปลี่ยนเป็นคูปองเงินสด จนกระทั่งนายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ชี้แจงกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่าจะนำเรื่องไปหารือกับกระทรวง และชี้แจงข้อแก้ไขในวันที่ 11 ม.ค. ทำให้ชาวบ้านพอใจแยกย้ายกลับ

อุบลฯจ่ายชดเชยซ่อมบ้าน

จ.อุบลราชธานี ที่สำนักงานเทศบาลตำบลคำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ ชาวบ้านที่รับผลกระทบจากน้ำท่วม 201 หลังคาเรือน ตรวจสอบรายชื่อและจำนวนเงินชดเชยค่าซ่อมแซมบ้านพักอาศัยที่ถูกน้ำท่วมเสียหาย โดยชาวบ้านหลายหลังคาเรือนไม่พอใจที่รับค่าชดเชยไม่เท่ากัน จนเจ้าหน้าที่ต้องชี้แจงว่าเงินชดเชยบ้านเสียหายจะได้ไม่เกินหลังละ 1.5 หมื่นบาท และเสียหายทั้งหลังไม่เกิน 3 หมื่นบาท โดยจะได้รับค่าชดเชยลดหลั่นกันไปตามสภาพความเป็นจริง

"ร่อนพิบูลย์"ดินถล่มคนติดนับพัน

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าฯ นครศรีธรรม ราช ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากดินสไลด์ ที่บ้านเขาวัง หมู่ที่ 12 ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ โดยจุดเกิดเหตุเป็นสวนยางพาราและสวนผลไม้ของชาวบ้าน เส้นทางเข้าหมู่บ้านเขาวังถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง ทำให้ทางโรงเรียนตชด.บ้านเขาวัง และชาวบ้านที่อาศัยอยู่ข้างในได้รับความเดือดร้อน 150 ครัวเรือน จำนวนกว่า 1,200 คน เดินทางออกภายนอกไม่ได้

เร่งลำเลียงอาหารส่ง

นางกนกพร เดชเดโช ส.จ.เขต อ.ร่อนพิบูลย์ กล่าวว่า ต้องเร่งลำเลียงอาหารให้ชาวบ้านที่ตกค้างอยู่ในหมู่บ้านเขาวังที่กำลังขาดแคลน และเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้ระบุว่าจะต้องตัดต้นยางพาราในพื้นที่ของชาวบ้าน เพื่อทำเส้นทางเบี่ยงเข้าหมู่บ้านแต่ติดปัญหาเจ้าของที่ดินคือนางแก้ว เรืองฤทธิ์ อายุ 70 ปี ที่กังวลว่าหากตัดเส้นทางเบี่ยงผ่านที่แล้วจะทำให้เสียที่ทำกิน ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามเจรจาทำความเข้าใจจนยอมให้ตัดทางแล้วเพื่อเร่งลำเลียงอาหารเข้าพื้นที่

เทศบาลเสียหายกว่า 100 ล้าน

นายเชาวัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมในเขตเทศบาล คิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ความเสียหายส่วนใหญ่จะเป็นในเขตชุมชนต่างๆ โดยเทศบาลจะมีการระดมกำลังทำความสะอาดหรือบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ วันที่ 7 ม.ค.นี้ โดยชุมชนที่เสียหายมากที่สุดคือ ชุมชนบ่อทรัพย์ ชุมชนท่าโพธิ์

นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครศรีฯ กล่าวอีกว่า เทศบาลจะร่วมกับชลประทานนำเครื่องสูบน้ำ 19 เครื่อง เร่งสูบน้ำในเขตเทศบาล คาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 วัน หากฝนไม่ตกลงมาเพิ่มเติมจะสูบหมดอย่างแน่นอน และหลังจากนี้เทศบาลจะหารือร่วมจังหวัดและชลประทานเพื่อจะหามาตรการป้องกันปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว โดยตนจะขอสนับสนุนงบประมาณจำนวน 2 พันล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาและป้องกันน้ำท่วมซ้ำซาก

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่นครศรีฯ ล่าสุด น้ำเริ่มลดระดับลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ในเขตเทศบาลมีเพียงน้ำท่วมขังในชุมชนบ่อทรัพย์ ท่าโพธิ์ ตลาดคูขวาง สะพานยาว เท่านั้น

"กรุงชิง"เร่งซ่อมสะพาน

ส่วนที่ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ นายชัชชัย พงศ์พิทักษ์ นายช่างโครงการก่อสร้างสะพานนบพิตำ กล่าวว่า ระดมเจ้าหน้าที่ รวมทั้งกองทัพภาคที่ 4 เร่งซ่อมสะพานที่บริเวณม.5 บ้านปากลง ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ ที่พังเสียหายจากน้ำป่าไหลหลากโดยการก่อสร้างนั้นจะใช้สะพานแบริ่งมาติดตั้งโดยยกระดับสะพานให้สูงขึ้นกว่าเดิม 70 ซ.ม. คาดว่าจะเสร็จและเปิดใช้ได้ภายในเวลา 21.00 น. วันที่ 5 ม.ค. ส่วนที่บริเวณ ม.8 ต.กรุงชิง ที่มีสะพานพังเสียหายหลายจุด ทางทหารช่างพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของโครงการก่อสร้างสะพานเร่งซ่อมแซม คาดว่าไม่เกิน 2 วันจะเปิดใช้งานได้

นายช่างโครงการก่อสร้างสะพานกล่าวอีกว่า อยากให้สร้างสะพานรูปแบบใหม่แบบที่บ้านภูเขาเหล็ก อ.นบพิตำ ซึ่งจะเป็นสะพานคอนกรีตอัดแรงโดยทำสะพานยาว 70 ม. กว้าง 12 ม. ฐานรากของสะพานเจาะเข็มลงในหินแกรนิต 1 ม. โดยออกแบบเป็นเสาเดี่ยว ซึ่งรับน้ำหนักได้ 80 ตัน และต้านทานแรงน้ำและแผ่นดินไหวได้ด้วย

ปีติถุงยังชีพพระราชทาน

ที่อ.สิชล หลายพื้นที่ยังคงถูกตัดขาดเนื่องจากสะพานเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน และเส้นทางหลักเสียหายจนสัญจรไม่ได้ ขณะเดียวกัน นายกองเอก ดร.ดิษฐพร วัชโรทัย ปธ.กก.บริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ และนายประสงค์ พิทูรกิจจา เลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ พร้อมด้วยคณะลำเลียงสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวนมาก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราช ทานมาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบภัยในพื้นที่ อ.สิชล และอ.นบพิตำ

น้ำป่าซัดเสาไฟฟ้าล้ม

นายภาณุตส์ นาคเพ็ชร์ ผจก.ไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.ท่าศาลา เผยว่า จากการสำรวจของเจ้าหน้าที่พบว่า ที่บ้านเขาไม้ไผ่ ม.8 และบ้านห้วยตง ม.7 ต.กรุงชิง มีเสาไฟฟ้าแรงสูงถูกน้ำป่าซัดล้มเสียหาย 12 ต้น ราษฎรเดือดร้อนไม่มีไฟฟ้าใช้ 80 ราย กฟภ.กำลังเร่งส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่ประสบภัยเพื่อเร่งซ่อมติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงใหม่ต่อไป คาดว่าจะซ่อมเสร็จในวันที่ 9 ม.ค. เนื่องจากสะพานที่จะเข้าไปในหมู่บ้านขาดถึง 7 สะพานด้วยกัน จึงต้องเร่งซ่อมสะพานให้เสร็จก่อน

เกษตรกรโอดผลผลิตเสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากผลกระทบสะพานขาด ทำให้ชาวสวนผลไม้ในพื้นที่ ม.6 ต.กรุงชิง ซึ่งมีพื้นที่ปลูกสวนผลไม้ทั้งเงาะ มังคุด ลองกอง นับหมื่นไร่และมีผลผลิตออกสู่ตลาดวันละนับพันตัน ไม่สามารถนำผลผลิตดังกล่าวออกมาขายได้ ทำให้ผลผลิตของเกษตรกรนับพันตันต่อวันต้องเน่าเสีย และทำให้ราษฎรขาดรายได้เป็นเงินมหาศาล

จมน้ำดับเพิ่ม 1

เวลา 13.00 น. พ.ต.ท.ไพรัช ทองฉิม พงส.เวร สภ.ย่อยปากพูน อ.เมือง จ.นครศรี ธรรมราช เข้าชันสูตรพลิกศพนางกอบ นิ่มช่วย อายุ 71 ปี อยู่ 368 ม.10 ต.ปากพูน อ.เมือง หลังจากจมน้ำเสียชีวิตใกล้กับบ้านริมถนนสายบางปู-ท่าอากาศยาน เนื่องจากพยายามเดินลุยน้ำไปทำความสะอาดบ้านที่ถูกน้ำท่วมสูงและเริ่มที่จะลดระดับลง ซึ่งคาดว่านางกอบอาจจะหมดแรงแล้วเป็นลมจมน้ำจนเสียชีวิต ทำให้ จ.นครศรี ธรรมราช มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย

มท.1ชง6พันล้านแก้ท่วมหาดใหญ่

เวลา 16.00 น. ที่จ.สงขลา นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทย พร้อมนายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อ.หาดใหญ่ และตรวจสภาพคลอง ร.1 บ้านหน้าควน เขตเทศบาลเมืองควนลัง ซึ่งเป็นคลองที่ผันน้ำมาจากคลองอู่ตะเภา เพื่อระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลา โดยเห็นด้วยกับการขยายคันคลองส่งน้ำให้กว้างขึ้น เพื่อระบายน้ำลงทะเลสาบสงขลาให้มากขึ้น ซึ่งต้องใช้งบกว่า 3 พันล้านบาท แต่หากจะแก้ไม่ให้น้ำท่วมหาดใหญ่อย่างเบ็ดเสร็จ ต้องใช้งบกว่า 6 พันล้านบาท ซึ่งจะเร่งเสนอเข้าครม.พิจารณา

มาร์คโวยรัฐบาลไม่ช่วยใต้

เวลา 13.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะนำสิ่งของมอบให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย พื้นที่จ.ชุมพร 4 จุดได้แก่ 1.ต.พ้อแดง 2.โรงพยาบาลอำเภอหลังสวน อ.หลังสวน 3.วัดแหลมปอ ต.สวี อ.สวี และ 4.องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งตะโก อ.ทุ่ง ตะโก โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยากเห็นบทบาทของรัฐบาล และศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ดูแลภาคใต้มากกว่านี้ ตนจะได้ติดตามการทำงาน เพราะทราบว่ามีรัฐ มนตรีที่รับมอบหมายให้ดูแลอยู่ แต่รัฐบาลพยายามไม่ให้ความสนใจกับน้ำท่วม เพราะอยากให้สนใจเรื่องการฟื้นฟูหลังน้ำลด พอเกิดเหตุที่ภาคใต้ ซึ่งอาจจะล่าช้ากว่าที่อื่น ก็จะเป็นปัญหาขึ้นมา

"นรา"ใกล้คลี่คลาย

ที่จ.นราธิวาส สภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก หยุดตกแล้ว 2 วัน ทำให้น้ำท่วมขังพื้นที่ทางการเกษตร และบ้านเรือนราษฎรใน 11 อำเภอ ลดลงต่อเนื่องเกือบเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ยกเว้นพื้นที่ราบลุ่มที่ยังคงมีท่วมขังอยู่เป็นจุดๆ โดยมีความสูงเฉลี่ย 30-40 ซ.ม. ส่วนพื้นที่ที่ยังท่วมขังหนัก คือที่อ.สุไหงโก-ลก ทั้ง 3 ชุมชน เนื่องจากน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลกยังสูงกว่าตลิ่ง 1 ม. ทำให้ประชาชน 32 ครัวเรือนต้องย้ายไปอาศัยที่ศูนย์อพยพ โรงเรียนเทศบาล 4 ทั้งนี้คาดว่าหากฝนหยุดตกอีก 2-3 วัน สภาวะน้ำท่วมจะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ