จ.ปทุมวัน จนท.บุกจับคลินิกเถื่อนที่ปทุมฯ วันเดียว 2 แห่ง
ที่ปรึกษา รมว.สธ.พร้้อมเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.คลองหลวง บุกจับคลินิกในย่านท้องที่ จ.ปทุมธานี 2 แห่ง หลังคลินิกดังกล่าว เปิดให้การรักษาพยาบาลคนไข้โดยไม่ได้รับอนุญาต ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และปลอมแปลงใบรับรองแพทย์...
เมื่อ เวลา 13.30 น.วันที่ 11 ม.ค. 55 นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ได้เข้าตรวจสอบภายในสถานพยาบาล ชื่อคลินิกการแพทย์ ตั้งอยู่เลขที่ 2/2 ถนนเลียบคลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เนื่องจากสืบทราบว่าคลินิกแห่งนี้เปิดทำการรักษาคนไข้โดยไม่ได้รับอนุญาต
เมื่อ เจ้าหน้าที่ไปถึง พบว่าคลินิกดังกล่าวนั้นตั้งอยู่ในอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ริมถนนเลียบคลองสาม พบนางธนิสร แสนสิงห์ ซึ่งอ้างว่าเป็นพยาบาลวิชาชีพและดูแลคลินิกแห่งนี้ กล่าวว่า คลินิกแห่งนี้เป็นของ พลตรีจักราวุฒิ แสงสืบ ตนเองเป็นเพียงผู้ดูแล ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าคลินิกแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาต และเปิดรักษาคนไข้โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งยังมีการออกใบรับรองแพทย์ โดยมีแพทย์คนหนึ่งเซ็นใบรับรองแพทย์ทิ้งไว้ให้เท่านั้น จึงควบคุมตัวนางธนิสร ไปสอบสวนดำเนินคดี
ใน เวลาต่อมาประมาณ 15.00 น. กำลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบคลินิกแห่งที่ 2 ชื่อ เอ็น.เจ การแพทย์ ตั้งอยู่เลขที่ 40/443 หมู่บ้านพฤกษา B ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พบนางพรรณี หนูแก้ว อายุ 44 ปี ซึ่งอ้างตัวเป็น พญ.สาลี พลอยแสงสาย และ น.ส.หนึ่ง อายุ 18 ปี ผู้ช่วยพยาบาล อยู่ภายใน จากการสอบสวน นางพรรณี อ้างว่า คลินิกแห่งนี้เพิ่งทำการเปิดคลินิกเมื่อไม่นาน และกำลังอยู่ในระหว่างการยื่นขอใบอนุญาต แต่ก็ต้องการเปิดให้ประชาชนรู้ว่า ทางคลินิกจะเปิด จึงได้เปิดทำการก่อนได้รับในอนุญาต
ด้าน นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ กล่าวว่า ในเบื้องต้น พบว่าคลินิกทั้งสองแห่งเปิดให้การรักษาพยาบาลคนไข้ โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งทำกิจกรรมอื่นๆ หลายอย่าง ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 16 ฐานประกอบกิจการ และดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 26 ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต รวมทั้งขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ปลอมแปลงใบรับรองแพทย์ ซึ่งได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับตัว และรวบรวมหลักฐานต่างๆ ไปดำเนินการสอบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
