กรุงเทพ ขอหมายจับ 85หน้าม้าแก๊งคอลฯ
รับจ้างเปิดบัญชีโทษ10ปีขอวงจรปิดแบงก์-ล่าตัว
ปปง.เร่งประสานกองปราบฯออกหมายจับ หน้าม้าเจ้าของบัญชีธนาคาร 85 คน ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน มีโทษจำคุก10 ปี และเร่งจับกุมเพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง หวังสกัดพวกหน้าม้า รับเปิดบัญชีธนาคารให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก่อคดีนรก พร้อม ประสานธนาคารขอเทปวงจรปิดตรวจสอบภาพขณะคนร้ายถอนเงินของเหยื่อจากตู้เอทีเอ็ม นำไปสเกตช์ภาพหาเบาะแสตัวคนร้าย ขณะที่ผู้การกองปราบฯตั้งชุดทำงานไล่ล่าแก๊งชั่วแล้ว
กรณี รศ.ดร.น้อย (นามสมมติ) อายุ 68 ปี อดีตอาจารย์หญิงมหาวิทยาลัยชื่อดัง ย่านบางเขน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์อ้างตัวเป็น พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาการเลขาธิการ ปปง. และบุคคลอื่นๆอีก ร่วมกันเล่นละครเนียนซะจนเหยื่อสูงวัยหลงเชื่อเผลอโอนเงินในบัญชีเพื่อลบชื่อที่ติดในบัญชีฟอกเงินพัวพันกับกลุ่มค้ายาเสพติดตามที่ถูกกล่าวอ้าง โอนให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปทั้งหมด 26,750,185 บาท ก่อนความแตก เมื่อไปติดต่อขอเงินคืนจาก ปปง. กระทั่งรู้ความจริงเสียเงินที่สะสมมาเกือบ 40 ปี ขณะที่รักษาการเลขาฯ ปปง.ตัวจริง เต้นผาง ถูกแก๊งชั่วอ้างชื่อ เร่งสั่งอายัดบัญชีธนาคารเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมให้เหยื่อเข้าแจ้งความที่กองปราบฯล่าตัวแก๊งนรกอีกทาง
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 11 ม.ค. พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาการเลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เผยถึงแนวทางในการติดตามเงินคืนเหยื่อสาวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า ขณะนี้ ปปง.ได้อายัดเงินในบัญชีธนาคารของเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ผู้เสียหายโอนเงินไปทั้งหมดรวม 85 บัญชี โดยตรวจสอบพบบัญชีที่ผู้เสียหายโอนให้คนร้ายเพิ่มอีก 10 บัญชี จากของเดิม 75 บัญชี ทำให้ยอดเพิ่มขึ้นอีก 3 ล้านบาท รวมยอดที่เสียหายทั้งสิ้นประมาณ 29 ล้านบาท หลังจากนี้ ปปง.จะร่วมกับกองปราบปรามรวบรวมพยานหลักฐานพิจารณาออกหมายจับเจ้าของบัญชีธนาคารทั้ง 85 คน ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ใน 2 ข้อหา คือข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มีอัตราโทษจำคุก 10 ปี พร้อมอายัดทรัพย์สินทั้งหมดมาตรวจสอบตามกฎหมายฟอกเงิน และให้เป็นเยี่ยงอย่างว่า การที่ไปรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร แลกกับเงินเพียง 500 บาท หรือ 1,000 บาท หากนำไปใช้ทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะคดีของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรง พวกหน้าม้า
รับจ้างเปิดบัญชีจะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดตามกฎหมายฟอกเงินด้วย ขณะเดียวกันจะเร่งติดตามความเคลื่อนไหวทางการเงินของแก๊งคนร้าย เพื่อหาเบาะแสติดตามอายัดทรัพย์สินมาคืนผู้เสียหายให้ได้
รักษาการ เลขาฯ ปปง.กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุ ได้ประสานให้ธนาคารที่เกี่ยวข้อง ส่งข้อมูลการทำธุร–กรรมทั้งหมดมาให้ ทั้งสาขาในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด คงต้องใช้เวลารวบรวม นอกจากนี้ได้ประสานธนาคารขอเทปวงจรปิด นำมาตรวจสอบหาเบาะแสขณะคนร้ายกดเงินผู้เสียหายจากตู้เอทีเอ็ม สเกตช์ภาพหารูปพรรณคนร้าย ขยายผลไปสู่บุคคลที่อยู่เบื้องหลัง ในอาทิตย์หน้า คงจะมีความชัดเจนด้านรูปคดี อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ น่าจะเป็นเครือข่ายข้ามชาติ โดยหน้าที่ในการติดตามจับคนร้าย ตำรวจกองปราบปรามจะเป็นผู้รับผิดชอบ ในส่วนของ ปปง.จะนำขยายผลอายัดทรัพย์สินของบุคคลที่เกี่ยวข้อง พร้อมรายงานผลการดำเนินการให้คณะกรรมการธุรกรรมทราบในวันที่ 31 ม.ค. ส่วนการขยายผลทลายเครือข่ายแก๊งคอนเซ็นเตอร์ คงต้องดูข้อเท็จจริงความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ว่าจะไปได้ถึงไหน
พ.ต.อ.สีหนาทกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมายอมรับ ปปง.ทำอะไรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้ เพราะไม่มีคณะกรรมการธุรกรรม ต่างกับปัจจุบันที่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการธุรกรรมเรียบร้อย ทำให้อายัดเงินในบัญชีที่ผู้เสียหายได้ทันหลังผู้เสียหายเข้าพบ ปปง.หลังจากนี้ ยืนยันว่าจะอายัดทรัพย์สิน และไล่ตามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตลอด ทางแก้ปัญหาจะร่วมกับตำรวจทลายเครือข่ายทั้งที่ตั้งอยู่ในประเทศหรือนอกประเทศ ไล่ล่ายึดทรัพย์สินควบคู่กันไป ที่สำคัญต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วประเทศรู้ถึงพฤติกรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะเชื่อว่าอีกไม่นานแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะกลับมาอาละวาดอีก โดยจะเงียบไปในระยะนี้ ตนจะใช้เป็นโอกาสในการรีบประสานกับคณะกรรมการกฤษฎีกา ในการเร่งพิจารณาร่างกฎกระทรวง ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพราะจะเป็นเครื่องมือให้สถาบันการเงินและธนาคารตรวจสอบลูกค้าที่มาเปิดบัญชีเงินฝากให้มากขึ้น
รักษาการเลขาฯ ปปง.ยังกล่าวอีกว่า ในอนาคต ธนาคารต้องตรวจสอบคนที่มาเปิดบัญชีธนาคารแล้วมีรายได้ไม่เหมาะสมกับอาชีพ หรือมีอาชีพไม่เหมาะสมกับฐานะ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง ถ้าออกกฎหมายได้เร็ว สถาบันการเงินจะสกัดกั้นการจ้างหน้าม้ามาเปิดบัญชีเพื่อทำธุรกรรมผิดกฎหมายได้มากขึ้น ทั้งนี้ หากร่างกฎกระทรวงดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกา จะส่งให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะลงนามประกาศเป็นกฎกระทรวง ในอนาคตเมื่อกฎกระทรวงบังคับใช้ สถาบันการเงินหรือธนาคารต้องกำหนดนโยบายรับลูกค้าต่อไป ลูกค้าจะมาขอเปิดบัญชีธนาคารแล้วได้รับเล่มสมุดเงินฝากในทันทีคงไม่ได้ นอกจากนี้ ตามกฎหมายใหม่ สถาบันการเงิน และธนาคารต้องกำหนดนโยบายรับความเสี่ยง นโยบายป้องกันการฟอกเงิน หากพบความผิดปกติต้องรายงานให้ ปปง.ทราบ จะทำให้ ปปง.รู้ความเคลื่อนไหวการพยายามกระทำความผิดล่วงหน้า
ด้านกองปราบปราม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤ–นาถ ผบก.ป. กล่าวว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. กำชับให้ทาง บก.ป.เร่งติดตามจับกุมคนร้ายแก๊งนี้ให้ได้โดยเร็ว และได้สั่งการให้ตั้งคณะทำงานขึ้น 1 ชุด เพื่อเร่งสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีนี้ หลังจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความ เบื้องต้นได้สอบสวนในประเด็นต่างๆ พร้อมทั้งนัดหมายเจ้าหน้าที่ ปปง.เพื่อสอบปากคำด้วย นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนจะนัดหมายผู้แทนธนาคารต่างๆเข้าให้ข้อมูลในประเด็นการทำธุรกรรมของผู้เสียหายผ่านบัญชีธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารกรุงเทพ ผู้เสียหายอ้างว่าได้ใช้โอนเงินไปถึง 287 ครั้ง ครั้งละ 2-3 แสนบาท นอกจากนี้ จะตรวจสอบชื่อของผู้ที่เป็นเจ้าของบัญชีธนาคาร 85 บัญชี ว่าทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคนร้ายอย่างไร และยังมีบุคคลใดร่วมกระทำความผิดอีกหรือไม่ เพื่อเร่งสืบสวนติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี
ขณะที่ พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป.กล่าวว่า ได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้แล้ว แต่อาจจะต้องเชิญตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอข้อมูลการตรวจสอบการทำธุรกรรมทางธนาคารของผู้เสียหายจาก ปปง.เสียก่อน ว่ามีการโอนเงินที่ใด กดเงินออกจากบัญชีไปจากตู้เอทีเอ็มที่ไหน เมื่อได้ข้อมูลแล้วจะนำข้อมูลประกอบกับพยานหลักฐานต่างๆ ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ส่วนรายชื่อเจ้าของบัญชีธนาคารนั้น ได้เร่งตรวจสอบชื่อและนามสกุลจริง พร้อมทั้งส่งชุดสืบสวนกระจายกันลงพื้นที่เฝ้าติดตามตัวในทันที หากพยานหลักฐานชัดเจน จะขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาต่อไป เบื้องต้นพบว่าเป็นความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแอบอ้างเป็นบุคคลอื่น กรณีดังกล่าวยังเข้าข่ายมูลฐานความผิดที่ ปปง.สามารถติดตามยึดทรัพย์ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดได้อีกด้วย
ผกก.1 บก.ป.กล่าวอีกว่า สําหรับการโทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารโดยมีการแอบอ้างหน่วยงานอย่าง ปปง. หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทราบว่าทางหน่วยงานต่างๆเหล่านี้มีการตรวจสอบข้อมูลกับทางธนาคารมาตลอด โดยเฉพาะ ปปง.มีอำนาจที่จะสามารถตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารได้ ทั้งนี้ ในส่วนของผู้เสียหายรายนี้ พนักงานสอบสวนยังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัดว่าคนร้ายเจาะจงที่จะเลือกเพราะทราบข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหายหรือไม่ หรือเป็นเพียงการสุ่มเลือกตามวิธีการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่พบอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นแก๊งคนร้ายชาวไต้หวันตามที่เคยพบข้อมูลก่อนหน้านี้หรือไม่