จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จับเพิ่ม 'ไอ้โหดมอญพ่อลูก' ฆ่าปาดคอชิงรถ หวังเอาโชว์เพื่อน

จับเพิ่มมอญโหด พ่อ-ลูกร่วมฆ่าปาดคอ 2 ผัวเมียชิงรถที่ด่านเจดีย์สามองค์ ลูกรับสารภาพสิ้นพ่อวางแผนฆ่าเพราะทนไม่ได้ที่เพื่อนลูกเยาะเย้นที่ไม่มีรถยนต์ขับ จึงคิดหารถให้ใช้และนำกลับไปอวดเพื่อนที่เคยดูถูก...

จากกรณีคดีฆ่าโหด 2 ผัวเมียจากกทม.ชิงรถยนต์หนีข้ามแดนที่ด่านเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยตร.สภ.สังขละบุรี สามารถติดตามจับกุม นายครรชิต อดีตทหารมอญเชื้อสายพม่า ผู้เป็นพ่อได้ก่อน จากนั้นจึงติดตามจับกุมนายชัยรัตน์ ผู้เป็นลูกที่หลบหนีอยู่ตามแนวชายแดน กระทั่ง เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ม.ค. พ.ต.อ.จิตร วิจิตรจินดา ผกก.สภ.สังขละบุรี สั่งการให้ พ.ต.ท.สมชาย โตเฟื่อง สว.สส.ฯ พร้อม ร.ต.ท.กฤตญุตม์ นุ่นชูคำ รอง สวป.สภ.สังขละบุรี ด.ต.วิเชียร เขื่อนวิชัย ผบ.หมู่ ป.สภ.สังขละบุรี พร้อมกำลังของ ร้อยตชด.ที่ 134 (สังขละบุรี) คือ ด.ต.ภิรมณ์ ปันยอด ผบ.หมู่ กก.ตชด.13 ส.ต.ท.สังวาลย์ มีทรัพย์ ผบ.หมู่ กก.ตชด.13 ร่วมนำกำลังไปที่ชายแดนไทยที่ติดต่อกับชุมชนชาวมอญ ฝั่งพม่า เพื่อรับตัวนายชัยรัตน์ หรือ อองนาย (ไม่มีนามสกุล) อายุ 16 ปี บุตรชายของนายครรชิต โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายชัยรัตน์มาสอบสวนที่สภ.สังขละบุรี

พ.ต.ท.ศักดิ์ชาย ชวนชม รอง ผกก.สส.ฯ และ พ.ต.ท.สมบัติ โพธิ์งาม รอง ผกก. ป.ฯ ได้ร่วมกันสอบปากคำนายชัยรัตน์ ซึ่งนายชัยรัตน์ ให้การรับสารภาพว่า ตนกับพ่อทำงานเป็นช่างทำท่อประปาอยู่ที่ซอยลาดพร้าว 80 สาเหตุที่ก่อเหตุเนื่องจากช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางกลับมาเที่ยวปีใหม่ที่บ้านจองกุยฝั่งมอญ จากนั้นโดนเพื่อนๆ ในหมู่บ้านเดียวกันพูดจาเยาะเย้ยว่าตนไม่มีปัญญาซื้อรถยนต์ใช้เช่นเพื่อน และยังพูดอีกว่ารถจักรยานยนต์นั่งได้แค่ 2-3 คน แต่รถยนต์สามารถนั่งได้ตั้งหลายคน ทำให้ตนโกรธมาก ต่อมาพ่อของตนได้ยินกลุ่มเพื่อนพูดนินทาตนเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ จึงเกิดน้อยใจ และคิดจะหารถยนต์ให้ใช้ และนำไปอวดเพื่อนที่เคยพูดเยาะเย้ยเอาไว้

หลังจากที่ตนกับพ่อเดินทางกลับกรุงเทพฯเพื่อไปทำงานตามปกติ พ่อได้พูดกับตนว่าจะหารถยนต์ให้ใช้โดยไม่ต้องเสียเงินและไม่ต้องเหนื่อยด้วย ต่อมาวันที่ 9 ม.ค. ช่วงเช้าพ่อได้ไปติดต่อเพื่อขอเช่ารถยนต์กระบะและได้นัดหมายสองสามีภรรยาเอา ไว้โดยให้ไปรับที่บ้านพักลาดพร้าวซอย 80 ต่อมาเมื่อถึงเวลานัดหมายในเวลาประมาณ 07.30 น.ผู้เสียชีวิตก็ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กส์พลัส แค็ป สีบอรนซ์ หมายเลขทะเบียน ลจ 3887 กทม.มาตามนัด

หนุ่มมอญ รับสารภาพต่อว่า ผู้ตายได้ขับรถมุ่งหน้ามาที่ อ.สังขละบุรี เมื่อมาถึงใกล้จุดเกิดเหตุ พ่อได้พูดกับตนเป็นภาษามอญว่า ให้ตนเตรียมตัวไว้ให้ดี แต่ตนบอกพ่อว่าไม่มีอาวุธ พ่อบอกว่าไม่เป็นไรเพราะได้เตรียมเอาไว้แล้ว เพียงแต่ให้ตนดึงที่คาดเข็มขัดของผู้หญิงให้แน่นเพื่อไม่ให้ดิ้นหลุด จากนั้นพ่อได้พูดบอกคนขับว่าให้จอดรถก่อนเพื่อรับคนกลับไปด้วย ซึ่งคนขับก็หลงเชื่อจึงได้จอดรถ จากนั้นพ่อได้ใช้มีดตัดพลาสติกที่เตรียมไว้ จี้คนขับ และพ่อได้สั่งให้ตนนำเอากระดาษกาวที่เตรียมไว้ในกระเป๋าให้นำมามัดตาและใบหน้าของคนขับเอาไว้เพื่อไม่ให้มองเห็น และให้ตนดึงรัดที่รัดของผู้หญิงเอาไว้ให้แน่น

จากนั้นพ่อได้ลากเอาคนขับลงไปจากรถยนต์กระบะ และได้ใช้มีดตัดพลาสติกเชือด เข้าที่บริเวณลำคอจนเสียชีวิตคาที่ ส่วนมีดได้ไปโดนบริเวณนิ้วของพ่อได้รับบาดเจ็บด้วย เมื่อตนเห็นเลือดตนจึงวิ่งหนีขึ้นมาบนรถ จากนั้นพ่อได้มาลากตัวผู้หญิงที่นั่งอยู่ฝั่งซ้ายลงไปด้วย และใช้มีดเล่มเดียวกันฟันอย่างแรงไปตามร่างกายหลายครั้งจนเสียชีวิตในที่สุด หลังก่อเหตุแล้วจึงได้รีบขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวข้ามชายแดนไปยังฝั่งมอญ นอกจากเอารถยนต์ไปแล้ว ยังมีเงินสดของผู้ตายประมาณ 1,000 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง หลังจากหลบหนีอยู่ที่บ้านได้ประมาณ 6 วันก็ถูกเจ้าหน้าที่ทหารมอญจับกุมนำส่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.สังขละบุรีได้นำตัวนายครรชิต ผู้พ่อเป็นอดีตทหารมอญที่เหยียบกับระเบิดจนขาขวาขาด และใส่ขาเทียมอยู่ได้ถูกนำตัวเดินทางไปแถลงข่าวที่ บช.ภ.7 และนำตัวกลับมาควบคุมที่ สภ.สังขละบุรี เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมและจะนำผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปทำแผนรับ สารภาพเพื่อประกอบสำนวนสอบสวนแล้วจึงจะส่งตัวฝากขังต่อไปในข้อหาร่วมกันฆ่า ชิงทรัพย์ผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนโดยใช้อาวุธ.