เสี่ยงตาย เจาะลิ้น เจาะอวัยวะเพศ
การเจาะผิวหนังสามารถทำได้ทั่วร่างกาย แต่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ หากวิธีที่ทำไม่สะอาด ใช้เครื่องมือสกปรก รวมทั้งเจาะบริเวณที่ไม่เหมาะสม เช่น เจาะลิ้น เจาะอวัยวะเพศ ตามที่เป็นข่าวเกรียวกราว
ปลีกจมูกนิยมเจาะบริเวณร่องจมูกซึ่งติดกับสันจมูก ผนั้งกั้นช่องจมูกเหนือริมฝีปากบน เจาะระหว่าง รอยต่อของกระดูกอ่อนของผนั้งกั้นช่องจมูก กับเนื้อของจมูก ซึ่งหักจากปลายจมูกต่อกับร่องริมฝีปากบน เมื่อใส่ห่วงจะห้อยลง แต่นิยมเจาะคิ้ว ริมฝีปาก เจาะบริเวณใดก็ได้ ตลอดแนวริมฝีปาก อาจใส่เป็นห่วงหรือตุ้มประดับง่ามนิ้ว มักเจาะง่ามนิ้วระหว่างหัวแม่มือและนิ้วชี้ เนื่องจากมือต้องใช้งานแผลจึงทำให้แผลหายยาก หัวนม พบว่าแผลบริเวณนี้จะหายช้า
สะดือนิยมในผู้หญิงสมัยโบราณ ชาวอียิปต์นิยมการเจาะผิวหนังบริเวณสะดือเช่นกัน แผลจากการเจาะสะดือจะหายช้ามาก ลิ้น เจาะบริเวณกลางลิ้น ห่างจากปลายลิ้น 1 นิ้ว เพื่อไม่ให้ทะลุผ่านหลอดเลือด เครื่องประดับที่นิยมใส่เป็นลักษณะตุ้ม
การดูแลหลังการเจาะจะเหมือนการเจาะหู แต่แผลบริเวณหัวนมและสะดือจะหายช้า กว่า ส่วนการเจาะผิวหนังในช่องปาก จะมีเลือดออกมาก โดยเฉพาะบริเวณลิ้นซึ่งมีหลอดเลือดขนาดใหญ่ ถ้าการเจาะทะลุผ่านหลอดเลือด อาจเสียเลือดมาก และการติดเชื้อในช่องปากจะพบสูงกว่าการเจาะผิวหนังบริเวณอื่น
การเจาะลิ้นนอกจากมีปัญหาเลือดออก ยังเกิดเลือดคลั่งหลังเจาะ บางครั้งแผลจะบวม เจ็บปวดมาก ทำให้รับประทานอาหารไม่สะดวก น้ำลายออกมาก การดูแลแผลจะยุ่งยาก และเกิดการติดเชื้อสูง ส่วนปัญหาระยะยาวคือ เครื่องประดับที่ใส่ลิ้นจะกระทบกับฟัน ทำให้ฟันสึก บิ่น หรือหัก บางรายอาจทำให้รากฟันตาย อีกทั้งการใส่ตุ้มประดับในช่องปาก ยังเป็นที่หมกหมมของเศษอาหารทำให้เกิดการอักเสบ มีกลิ่นปาก พูดไม่ชัด เกิดปัญหาในการสื่อสาร
หนังกล่าวถึงการเจาะอวัยวะเพศว่า คนจิตใจปกติไม่มีใครเจาะ คนที่เจาะมักมีอาการป่วยทางจิต หรือติดสารเสพติด ทำให้ไม่มีวิจารณญาณ บางคนต้องการเรียกร้องความสนใจให้ตัวเองดูเด่น สิ่งที่อยากเตือนคือการใช้เข็มเจาะร่วมกัน หากเข็มไม่สะอาดอาจได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และซี ทำให้เกิดเป็นโรคมะเร็งตับ หรือ ติดเชื้อแบคทีเรียลามเข้าสู่กระแสเลือด เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต หรือติดโรคเอดส์ ที่สำคัญผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจรั่ว เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว ไม่ควรเจาะไม่ว่าบริเวณใด เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค และก่อให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะ ซ้ำเติมโรคที่เป็นอยู่
นต. นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์กล่าวว่า การเจาะอวัยวะเพศหญฺงนอกจากจะเจ็บปวด และรำคาญแล้ว การเสียดสีบ่อย ๆ อาจทำให้เกิดการอักเสบได้ อีกทั้งบริเวณดังกล่าวมีความอับชื้น มีเส้นเลือดหล่อเลี้ยงมาก อาจก่อให้เกิดบาดแผลอักเสบ บวมแดง ติดเชื้อตามมา ซึ่งเชื้อโรคอาจลุกลามไปยังปีกมดลูก ท่อปัสสาวะและไต หากมีการติดเชื้อไปในกระแสโลหิต อาจทำให้เสียชีวิตได้
ส่วนในผู้ชายนั้น นพ.บุญเรือง บอกว่าไม่ค่อยนิยมเจาะอวัยวะเพศ แต่จะเน้นฝังมุก ฝังโลหะเหมือนลูกปืน และเย็บปลายองคชาตให้เกิดแผลขรุขระ โดยเชื่อว่าเวลามีเพศสัมพันธ์จะทำให้ผู้หญิงพอใจ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด มักพบในกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติด และวัยรุ่น ปัญหาที่พบมากในกลุ่มนี้คือ เกิดแผลอักเสบติดเชื้อ ลามไปยังท่อปัสสวะ ต่อมลูกหมาก ทำให้เกิดการอักเสบ บางรายองคชาตเน่า จนต้องตัดทิ้ง นอกจากนี้ อาจทำให้เกิดแผลในฝ่ายหญฺงที่ไปมีเพศสัมพันธ์ และแพร่โรคเอดส์ หรือไวรัสตับอักเสบบี