บุหรี่กานพลูอันตรายกว่าบุหรี่ทั่วไป
เมื่อวันนี้ (24 ม.ค.) ผศ.ดร.ศรีรัช ลาภใหญ่ อาจารย์ประจำสาขาสื่อสารการตลาด คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวในการแถลงข่าวเรื่อง “บุหรี่กานพลู หรู แต่ไล่ล่าลูกหลานไทย” ว่า บุหรี่กานพลูเป็นบุหรี่ชูรสที่ใส่กานพลู มีต้นกำเนิดที่ประเทศอินโดนีเซีย บุหรี่ดังกล่าวถูกลักลอบเข้ามาประเทศไทยผ่านทางมาเลเซีย มาที่ด่านทางภาคใต้ก่อนถูกส่งเข้ามาจำหน่ายในกรุงเทพฯ วัยรุ่นนิยมสูบมากเพราะหาง่าย และราคาไม่แพง 3-4 มวน ราคา 20 บาท อีกทั้งรสขาติแรง มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์จูงใจวัยรุ่นมากขึ้นหลายวิธี เช่น สอดแทรเม็ดมินท์เข้าไปในมวนบุหรี่ ผู้สูบต้องให้เม็ดมินท์แตกก่อนจึงจะได้รสชาติ มีการทำกล่องบุหรี่ให้เล็กเท่ากล่องลิปสติก เพื่อให้วัยรุ่นเก็บใส่กระเป๋าได้งาย ไม่มีใครสังเกต จูงใจด้วยการออกแบบสีของกล่องบุหรี่ให้มีสีสันสดใสงดงาม เช่น สีฟ้าอ่อน เขียวอ่อน สีขาว สีทองสะท้อนแสง ทำให้ปัจจุบันมีวัยรุ่นหญิงก็นิยมสูบบุหรี่ดังกล่าวเพิ่มขึ้น ทำให้บุหรี่กานพลูสำหรับผู้หญิงถูกผลิตออกมามากขึ้น และมักจะมีคำว่าสลิมอยู่ที่กล่อง
ผศ.ดร.ศรีรัช กล่าวต่อว่า จากการวิจัยพบว่าบุหรี่ดังกล่าวมีขายทั่วไปใน 8 เขต กทม. คือ บางกะปิ บางรัก ปทุมวัน พระนคร ดินแดง จตุจักร ราชเทวี และป้อมปราบศัตรูพ่าย และ 2 จังหวัดปริมณฑล จ.นนทบุรี และ ปทุมธานี ตามหน้าห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง หน้ามหาวิทยาลัยเปิด บนสะพานลอยหน้าห้าง ใต้สถานีรถไฟฟ้า ตามตลาดนัดกลางคืน หน้าโรงภาพยนตร์ ในตลาดนัดสุดสัปดาห์ย่านจตุจักร
“สำหรับชื่อที่รู้จักกันดีของบุหรี่กานพลู คือ กาแรม หรือ แบล็ก ถ้าเป็นบุหรี่กล่องแดงบางยี่ห้อก็เรียกนมร้อน ส่วนบุหรี่กล่องเขียวก็เรียนนมเย็น เป็นการเรียกตามรสชาติของบุหรี่ที่เข้มและนุ่มไม่เหมือนกัน ปัจจุบันมีการวางขายเหมือนปลาหมึก แค่ใช้แผงที่ใช้สำหรับขายล็อตเตอรี่ก็ขายได้แล้ว โดยแถวบนจะเป็นบุหรี่ที่ได้รับความนิยมและมีราคาแพงสุด นอกจากนี้ยังมีการแบ่งขายเป็นแพ็คผสม 3 ยี่ห้อ โดยผู้ขายจูงใจด้วยรสชาติ 3 อย่าง คอ หอม นุ่ม เย็น ทั้งนี้พบว่าบุหรี่ดังกล่าวได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทุก 3 เดือนเพื่อจูงใจลูกค้าด้วย ดังนั้นเหตุผลที่ควรมีการเฝ้าระวังบุหรี่ดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันบุหรี่มีทุกที่แม้แต่หน้ามหาวิทยาลัย ราคาถูก ทุก 3 เดือนจะมีผลิตภัณฑ์ออกมาล่อตาล่อใจ อีกทั้งมีคำโฆษณาที่ทำให้เข้าใจผิดและเชื่อผิดๆ
ด้าน นพ.หทัย ชิตานนท์ ประธานสถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย กล่าวว่า บุหรี่กานพลูมีใบยาสูบ 60% และมีกานพลู 40 % บุหรี่กานพลูปลดปล่อยกลิ่นหอมซึ่งมีสารยูจีนอล (eugenol) ซึ่งเป็นยาชาเฉพาะที่ เมื่อสูบเข้าไปสารยูจีนอลจะทำให้ส่วนบนของหลอดลมในปอดของผู้สูบชา เป็นเหตุให้ผู้สูบสูดส่วนที่แน่นที่สุดของควันลงไปในส่วนที่ลึกที่สุดของปอด ทำให้สูบควันเข้าไปได้มากกว่าบุหรี่ทั่วไป นักวิชาการเห็นพ้องกันว่าเมื่อเด็กสูบบุหรี่กานพลูจะทำให้ติดได้เร็วกว่าเพราะสารยูจีนอลเนื่องจากสูบแล้วจะไม่สำลักแม้จะเป็นการสูบมวนแรกก็ตาม ทำให้สูบเข้าไปได้เต็มปอดและปริมาณมาก ดังนั้นถือว่าเป็นอันตรายกว่าบุหรี่ทั่วไป จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาควบคุมด้วย
นพ.หทัย กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2552 สหรัฐฯห้ามนำเข้าบุหรี่กานพลูจากอินโดนีเซีย ด้วยเหตุผลว่ารสขาติที่หวานหอมของบุหรี่ประเภทนี้ทำให้เด็กเริ่มสูบบุหรี่ โดยอินโดนีเซียส่งออกบุหรี่กานพลูไปสหรัฐฯถึงปีละกว่า 1 แสนล้านบาท กรณีนี้อินโดนีเซียจึงได้ฟ้องร้องต่อองค์การการค้าโลกที่ห้ามบุหรี่กานพลู แต่ไม่ห้ามบุหรี่เมนทอลทั้งที่มีสารปรุงรสเหมือนกัน ซึ่งทางองค์กรการค้าโลกได้ติดสินออกมาแล้วว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมือนกัน และทางสหรัฐฯก็ไม่ยอมสู้ต่อ แต่ข่าวล่าสุดทางอินโดนีเซียยังไม่มีท่าทีเรื่องนี้
นพ.หทัย กล่าวต่อว่า บุหรี่กานพลูที่จำหน่ายในประเทศไทยล้วนผิดกฎหมาย โดยลักลอบผ่านทางช่องแคบมะละกา ขึ้นฝั่งมาเลเซียที่แคว้นกัวลา เชลังงอ แล้วส่งต่อมาเก็บที่เกาะตรังกานู ก่อนส่งเข้าไทยทางฝั่งทะเล จ.สตูล แล้วขนส่งด้วยรถมาหาดใหญ่เพื่อเข้าคลังใหญ่ในกรุงเทพฯแถวๆสำเพ็ง
ผศ.ดร.นิทัศน์ ศิริโชติรัตน์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า บุหรี่กานพลูผิดกฎหมายประเทศไทย 2 ฉบับคือ พ.ร.บ.ยาสูบ มาตรา 46 ซึ่งรับผิดชอบโดยกรมสรรพสามิต หากลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท และมาตรา 50 มีโทษปรับ 15 เท่าของค่าสแสตมป์ยาสูบที่ต้องปิด และผิด พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2535 มาตรา 11 ซึ่งดูแลโดยกระทรวงสาธารณสุข กรณีไม่แจ้งส่วนประกอบ มีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือทั้งจำทั้งปรับ