สิ่งที่ชาวอียิปต์เคารพบูชา..เทพเจ้าแมว
แมวอียิปต์
|
อยากรู้ว่าอียิปต์โบราณทำไมต้องบูชาแมว มีแมวมัมมี่ด้วย ปัจจุบันมีสายพันธุ์ให้เลี้ยงไหม
Ying
ตอบ Ying
เกี่ยวกับอียิปต์กับแมว อาศัยข้อมูลจาก สุทธิลักษณ์ อำพันวงศ์ ในหนังสือ 108 ซองคำถาม มาตอบว่า อดีตกาลในประเทศอียิปต์ วันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ ได้มีงานฉลองเทพเจ้าแมวที่เรียกว่า พาชต์ (Pasht) เป็นพิธีใหญ่กระทำกันในโบสถ์ มีรูปปั้นหินมหึมาของเทพเจ้าแมวประดิษฐานอยู่บนแท่น เทพเจ้ามีร่างกายเป็นสตรีเพศ แต่มีศีรษะเป็นแมว มีพิธีเซ่นสรวงด้วยเนื้อสัตว์ น้ำผึ้ง และผลไม้ มีสาวงามประดับศีรษะด้วยดอกไม้ออกมาร้องเพลงร่ายรำถวายเทพเจ้าเป็นการสนุกสนาน มีคนไปร่วมงานถึง 7 แสนคน
ในนิยายของอียิปต์โบราณเล่าว่า พาชต์ หรือจันทราเทพี เป็นมเหสีของรา (Ra) หรือสุริยเทพ (บางเอกสารเรียก บาสต์-Bast เป็นธิดาของสุริยเทพ) ตอนกลางคืนราต้องไปซ่อนตัวอยู่ยมโลก พาชต์เก็บแสงอาทิตย์ไว้ในดวงตาและช่วยส่องให้ราเดินทางไปโดยสะดวก
ในการเดินทางแต่ละครั้ง ราต้องต่อสู้กับงูใหญ่ที่เข้ามาขวางทางรามักจะจำแลงร่างเป็นแมวในการต่อสู้กับงู ถ้าสู้ชนะก็จะนำแสงสว่างกลับไปสู่โลกได้ในวันรุ่งขึ้น ส่วนงูถูกทำร้ายถึงเลือดตกยางออก แต่พอวันรุ่งขึ้นก็กลับหายสนิท และต่อสู้กับราอีกไม่มีที่สิ้นสุด
ถ้างูใหญ่มีชัยก็จะไม่มีแสงสว่างในวันรุ่งขึ้น นั่นคือการเกิดสุริยคราส ผู้คนจะช่วยกันส่งเสียงตะโกนเต็มที่เพื่อให้งูใหญ่ตกใจและปล่อยรา แล้วแสงอาทิตย์จะคืนมาสู่โลกอีกครั้ง
กล่าวกันว่า พาชต์ก็เคยแปลงตัวเป็นแมวเช่นเดียวกัน ชาวอียิปต์โบราณจึงเชื่อว่าแมว เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นเทพเจ้าจำแลง
กฎหมายอียิปต์โบราณห้ามนำแมวออกนอกประเทศ และถ้าใครพบแมวอียิปต์ในต่างประเทศจะต้องนำกลับมาบ้านด้วย นอกจากนี้ ผู้ใดจะฆ่าแมวไม่ได้ ถ้าแมวตาย คนในครอบครัวต้องไว้ทุกข์ โกนคิ้ว และเอาซากศพแมวไปทำมัมมี่เก็บรักษาไว้
ในครอบครัวที่มั่งคั่งมัมมี่แมวจะห่อด้วยผ้าลินินสองสีและมัดทำลวดลายสวยงาม หีบใส่มัมมี่ทำด้วยบรอนซ์ประดับเพชรพลอย ก่อนนำไปฝังไว้ในสุสานใกล้โบสถ์ของพาชต์ ณ เมืองบูบาสติส
ปัจจุบันมัมมี่แมวบางตัวยังคงเก็บรักษาไว้ ณ พิพิธภัณฑสถานอียิปต์ในกรุงไคโร และที่พิพิธภัณฑสถานของอังกฤษในกรุงลอนดอน
การเลี้ยงแมวของอียิปต์นับว่าได้กระทำมาตั้งแต่โบราณกาล เพราะนอกจากรูปปั้นแมว มัมมี่แมวแล้ว ยังมีภาพเขียนผนังเกี่ยวกับแมวเหลืออยู่เป็นประจักษ์พยาน ทั้งนี้ อียิปต์เป็นชาติแรกที่ฝึกแมวซึ่งเดิมเป็นสัตว์ป่า ให้เชื่องและเลี้ยงไว้ในบ้านเพื่อให้ช่วยจับหนู
สำหรับแมวสายพันธุ์อียิปต์โบราณที่สืบสายพันธุ์มาจนถึงปัจจุบันคือ แมวอะบิสซิเนียน (Abyssinian) เป็นแมวสีสันสวยงาม สีขนเป็นสีสลับกันในเส้นเดียวมองเห็นได้อย่างชัดเจน เป็นแมวขนาดปานกลาง ลักษณะท่าทางภายนอกสง่าผ่าเผย แข็งแรงดูมีกล้ามเนื้อ กระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็นต่อสิ่งที่อยู่รอบตัวมัน แต่แฝงไว้ด้วยความนุ่มนวลภายใน แสดงให้เห็นถึงลักษณะทางกายภาพและลักษณะทางอารมณ์ที่กลมกลืนกัน
อะบิสซิเนียนยังเป็นแมวรักเจ้าของ ฉลาด ปราดเปรียว และขี้เล่น ประสาแมว จัดเป็นสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ชอบเลี้ยงแมว โดยคะแนนความชื่นชอบอยู่ในอันดับที่ 3 ของโลก ในกลุ่มแมวสายพันธุ์ขนสั้น
ไม่มีหลักฐานบอกถึงต้นกำเนิดและช่วงเวลาของแมวอะบิสซิเนียน แต่มีเรื่องที่เล่าว่า อะบิสซิเนียนสืบสายพันธุ์มาจากแมวศักดิ์สิทธิ์ หรือแมวซึ่งเป็นที่เคารพบูชาสักการะของอียิปต์โบราณ พวกเขาเรียกว่า Myeu
ทั้งนี้ คาดช่วงเวลาว่าน่าจะเป็นกว่า 4,000 ปีมาแล้ว โดยรูปลักษณ์ที่ปรากฏเห็นอยู่ทุกวันนี้ลักษณะคล้ายคลึงกับหลักฐานทางโบราณคดีที่ค้นพบ ได้แก่ ภาพวาดสีบนผนังถ้ำ และรูปปั้น รูปแกะสลัก จัดเป็นหลักฐานสำคัญที่ทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างอะบิสซิเนียนกับแมวอียิปต์โบราณ