เปิดชีวิต "หนุ่มหัวโต"ถึง 6 เซนติเมตร
เปิดชีวิต "หนุ่มหัวโต" คนขับสามล้อแดงเมืองอ่าง ทอง เกิดมามีศีรษะใหญ่กว่าคนทั่วไปจนหา "หมวกกันน็อก" ใส่ไม่ได้ เวลาขี่จยย. หรือสามล้อเครื่องรับจ้างโดนด่านจราจรเรียกประจำ ล่าสุดเพิ่งถูกจับต้องไปเสียค่าปรับที่โรงพักอีก เคราะห์ดีรองผกก.รับฟังเรื่องราวแล้วเห็นใจ สั่งอนุโลมยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ ขณะที่เจ้าตัวยืนยันไม่เคยมีเจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย แต่หาซื้อหมวกกันน็อกไซซ์ใหญ่ไม่ได้จริงๆ วอนร้านไหนมีขายช่วยบอกด้วยจะรีบไปซื้อ เผยหมวกกันน็อกมาตรฐานเบอร์ใหญ่สุดตามท้องตลาดไซซ์ บิ๊กเบิ้ม "เอ็กซ์แอล" ยังเล็กกว่าศีรษะ "หนุ่มหัวโต" ถึง 6 เซนติเมตร
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ณัฐวัชร์ ปุ้งโพธิ์ รองผกก.สส.สภ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง นำตำรวจจราจรตั้งด่านตรวจจับผู้ขับขี่รถยนต์และจักรยานยนต์ โดยเฉพาะจักรยานยนต์กับสามล้อแดง ซึ่งต้องสวมใส่หมวกกันน็อก โดยระหว่างกำลังตั้งด่านอยู่นั้นปรากฏว่ามีนายสมบัติ เชียงคำ อายุ 37 ปี และนางอรัญญา ภรรยา อายุ 34 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 64/57 ม.3 ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง ขี่จักรยานยนต์ผ่านเข้ามาที่ด่านโดยไม่ได้สวมหมวกกันน็อก ตำรวจจึงเรียกตรวจและแจ้งข้อหานายสมบัติฐานขี่จักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อก ก่อนส่งตัวไปเสียค่าปรับที่โรงพัก สภ.เมืองอ่างทอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะมาเสียค่าปรับที่โรงพักดังกล่าวนายสมบัติโอดครวญกับตำรวจและสื่อมวลชนว่า ไม่เคยมีเจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย หรือจงใจขี่จักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกกัน น็อก แต่ที่ผ่านมาเวลาตำรวจตั้งด่านตนถูกจับแทบทุกครั้ง เนื่องจากขนาดศีรษะใหญ่กว่าคนปกติจึงหาหมวกกันน็อกมาใส่ไม่ได้ ทุกวันนี้จนปัญญาจริงๆ อยากให้ตำรวจเห็นใจเพราะเป็นแค่คนหาเช้ากินค่ำ มีอาชีพรับจ้างขับสามล้อแดง รายได้ตกประมาณวันละ 300 บาทเท่านั้น ถ้าวันไหนถูกจับต้องเสียค่าปรับถึง 200 บาท
นายสมบัติระบุว่า บ้านเดิมเป็นคนเชียงราย ตั้งแต่สมัยอยู่จังหวัดเชียงรายโดนจราจรจับตลอดเหมือนกัน แต่ไม่เคยนิ่งนอนใจ ผ่านไปจังหวัดไหนพยายามหาซื้อหมวกกันน็อกตลอด แต่หาซื้อไม่ได้เพราะศีรษะตนใหญ่กว่าหมวกกันน็อกขนาดมาตรฐานที่มีจำหน่ายตามท้องตลาด ปัจจุบันมาอาศัยทำมาหากินกับภรรยาในเขตพื้นที่ จ.อ่างทอง กว่า 2 ปีแล้ว เวลาโดนจับบางครั้งเจ้าหน้าที่แค่ว่ากล่าวตักเตือนและปล่อยตัวเพราะเห็นใจ อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วงที่ขี่สามล้อแดงแล้วไม่ได้สวมใส่หมวกกันน็อกแต่จะพกติดตัวตลอด เมื่อถูกจับก็อธิบายให้เจ้าหน้าที่ฟังสาเหตุที่ไม่ใส่
ด้านพ.ต.ท.ณัฐวัชร์กล่าวว่า กรณีนี้ถือเป็นกรณีพิเศษไม่เคยเจอมาก่อน เจ้าหน้าที่รู้สึกเห็นใจ เพราะนายสมบัติไม่มีเจตนา และจะตรวจสอบไปยังผู้ผลิตว่าข้อเท็จจริงแล้วมีการผลิตหมวกกันน็อกที่ใหญ่กว่านี้และมีจำหน่ายหรือไม่ ถ้ามีเจ้าหน้าที่จะช่วยเลือกจัดหามาให้ แต่ถ้าไม่มีคงต้องมาพิจารณากันต่อไปว่าจะมีวิธีปฏิบัติอย่างไร เบื้องต้นสั่งให้บันทึกรายชื่อและแจ้งตำรวจจราจรรับทราบชื่อนายสมบัติไว้เป็นกรณีพิเศษ ให้อนุโลมไม่ต้องจับกุม ทั้งนี้ ช่วงที่นายสมบัติมารายงานตัวกับ สภ.เมืองอ่างทอง ตำรวจไม่เชื่อว่าจะหาหมวกกันน็อกมาใส่ไม่ได้ จึงหาหมวกกันน็อกขนาดต่างๆ มาให้ลองสวม แต่ทุกใบใส่ไม่ได้จริงๆ ทำให้ทั้งตำรวจและประชาชนบนโรงพัก รวมถึงตัวนายสมบัติเองต่างหัวเราะด้วยความครื้นเครง
นายสมบัติให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า จากนี้ก็ต้องประกอบอาชีพขับสามล้อรับจ้างบริเวณตลาดปลาในเขตเทศบาลเมืองอ่างทองตามปกติ ส่วนขนาดศีรษะของตนใช้สายวัดแล้วได้เส้นรอบวงยาว 68 เซนติเมตร (680 มิลลิเมตร) ถ้าร้านไหนมีหมวกกันน็อกใหญ่กว่านี้อยากให้ช่วยแจ้งด้วย จะได้รีบติดต่อซื้อมาใส่
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสอบถามข้อมูลขนาดหมวกกันน็อกไซซ์มาตรฐานกับนายธวัชชัย สมุทรสิน ผู้จัดการทั่วไปบริษัทเอสวายเค ออโต้พาร์ท ผู้ผลิตหมวกกันน็อกรายใหญ่ยี่ห้ออินเด็กซ์ เปิดเผยว่า โดยทั่วไปขนาดหมวกกันน็อกแบ่งตามไซซ์เหมือนกับไซซ์เสื้อ คือ เอส, เอ็ม, แอล และเอ็กซ์แอล (S, M, L, XL) โดยแต่ละไซซ์จะมีขนาดเส้นรอบวงศีรษะแตกต่างกัน โดยไซซ์เอสเส้นรอบวงศีรษะอยู่ที่ประมาณ 500-560 มิลลิเมตร (ม.ม.) ไซซ์เอ็ม 570-580 ม.ม. ไซซ์แอล 590-600 ม.ม. และไซซ์เอ็กซ์ แอล 610-620 ม.ม.
นายธวัชชัยกล่าวว่า มาตรฐานศีรษะของคนไทยโดยทั่วไปจะสวมใส่หมวกกันน็อกไซซ์เอ็ม และแอล อย่างไรก็ตาม สำหรับไซซ์เอ็กซ์แอล นั้นมีลูกค้าจำนวนไม่น้อยมาซื้อกับทางบริษัทโดยตรง ในส่วนของการผลิตหมวกกันน็อกบริษัทส่วนใหญ่จะไม่ผลิตหมวกกันน็อกไซซ์ใหญ่กว่าเอ็กซ์แอล เพราะไม่มีคนซื้อและยังไม่เคยมีลูกค้าสั่งทำหมวกกันน็อกขนาดใหญ่เป็นพิเศษ หากสั่งทำเฉพาะรายบุคคลคงเป็นเรื่องยากอีกด้วย