1 วัน พระอาจารย์
วิถีแห่งการปฎิบัติ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
เสถียร จันทิมาธร
|
หนังสือ บูรพาจารย์ ไม่เพียงแต่นำเสนอ ประวัติ ปฏิปทา ของ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เท่านั้น หากที่สำคัญเป็นอย่างมาก คือการลำดับสถานทีจำพรรษาอย่างเป็นระบบ
พ.ศ.2463 พำนัก ณ เสนาสนะป่าอรัญวาสี อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย
พ.ศ.2464 จำพรรษา ณ เสนาสนะป่าบ้านห้วยทราย อำเภอคำชะอี จังหวัดนครพนม ปัจจุบันคือ จังหวัดมุกดาหาร
เริ่มต้นวางระเบียบการบวชผ้าขาวก่อนที่จะบรรพชา อุปสมบท
พ.ศ.2465 ณ เสนาสนะป่าบ้านหนองลาด อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร
พ.ศ.2466 ณ เสนาสนะป่ามหาชัย บ้านหนองบัวลำภู อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ปัจจุบันขึ้นกับจังหวัดหนองบัวลำภู
พ.ศ.2467 หวนกลับไปจำพรรษาอีกครั้ง ณ เสนาสนะป่าสาระวารี อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ฝากตัวเป็นศิษย์
พ.ศ.2468 หวนกลับมาจำพรรษาอีกครั้ง ณ เสนาสนะป่าอรัญวาสี อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย พร้อมกับ พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล
พ.ศ.2469 หลังออกพรรษา พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล และ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้เรียกศิษยานุศิษย์ ประชุมพร้อมกัน ณ เสนาสนะป่า บ้านสามผง อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม มติสำคัญ คือการวางระเบียบ
เป็นระเบียบอันทรงความหมายเป็นอย่างสูงสำหรับพระธุดงค์ พระนักปฏิบัติ ปรารภความเพียร
นั่นคือระเบียบการอยู่ป่า การตั้งสำนัก และแนวทางสั่งสอนการปฏิบัติจิตตภาวนา
ชีวประวัติ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต สำนวนเขียน พระอริยคุณาธาร (เส็ง ปุสโส) ได้ประมวลกิจวัตรประจำวัน พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาให้ได้รับรู้
เป็นการรับรู้อย่างประจักษ์ในการประสานปริยัติกับปฏิบัติอย่างแนบแน่น
นั่นก็คือ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ปฏิบัติกิจประจำวันเป็นอาจิณวัตรเพื่อเป็นแบบอย่างแก่สานุศิษย์ และพร่ำสอนสานุศิษย์ให้ปฏิบัติเป็นอาจิณวัตร ต่อไปนี้
เวลาเช้าออกจากกุฏิทำสรีรกิจ คือ ล้างหน้า บ้วนปาก นำบริขารลงสู่โรงฉัน ปัดกวาด ลานวัดแล้วเดินจงกรม พอได้เวลาภิกขาจารก็ขึ้นสู่โรงฉัน นุ่งห่มเป็นปริมณฑล สะพายบาตรเข้าสู่บ้านเพื่อบิณฑบาต
กลับจากบิณฑบาตแล้วจัดแจงบาตร จีวร แล้วจัดอาหารใส่บาตร นั่งพิจารณาอาหาร ปัจเจกขณะทำภัตตุนุโมทนา คือ ยถาสัพพีเสร็จแล้วฉันจังหัน
ฉันเสร็จแล้วล้างบาตรเก็บบริขารขึ้นกุฏิ
ทำสรีรกิจพักผ่อนเล็กน้อย แล้วลุกขึ้นล้างหน้าไหว้พระ สวดมนต์และพิจารณาธาตุอาหารปฏิกูล ตังขณิก อดีตปัจจเวกขณะ แล้วชำระจิตนิวรณ์นั่งสมาธิพอสมควร เวลาบ่าย 3-4 โมง กวาดลานวัด ตักน้ำใช้ น้ำฉันมาไว้
อาบน้ำชำระกายให้สะอาดปราศจากมลทิน แล้วเดินจงกรมจนถึงพลบค่ำจึงขึ้นกุฎิ
หากใครได้ศึกษาบทเรียนประสบการณ์ธรรมไม่ว่าจะเป็น พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี ไม่ว่าจะเป็น พระอาจารย์ชา สุภัทโท จะรับรู้ว่ายามค่ำคืนกับ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ทรงความหมายเป็นอย่างสูง
พระอริยคุณาธาร (เส็ง ปุสโส) ประมวลกิจวัตรประจำวันระยะกาลนี้ไว้ค่อนข้างละเอียด
เวลากลางคืนตั้งแต่พลบค่ำไปสานุศิษย์ก็ทยอยกันขึ้นไปปรนนิบัติ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้เทศนาสั่งสอนอบรมสติปัญญาแก่สานุศิษย์พอสมควรแล้ว สานุศิษย์ถวายการนวดฟั้น (เฟ้น) พอสมควรแล้ว
พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ก็เข้าห้อง ไหว้พระ สวดมนต์ นั่งสมาธิแล้วพักนอนประมาณ 10.00 น.
เวลา 03.00 น. ตื่นนอนล้างหน้า บ้วนปาก แล้วปฏิบัติกิจอย่างในเวลาเช้าต่อไป
กิจบางประการเมื่อมีลูกศิษย์มากและแก่ชราแล้วก็อาศัยศิษย์เป็นผู้ทำแทน เช่น การตักน้ำใช้ น้ำฉัน เพราะเหน็ดเหนื่อยเนื่องจากชราภาพ ส่วนกิจอันใดเป็นสมณประเพณีและเป็นศีลวัตรกิจนั้น ท่านปฏิบัติเสมอเป็นอาจิณมิได้เลิกละ
ท่านกล่าวว่า ต้นดี ปลายก็ดี ครั้นผิดมาแต่ต้น ปลายก็ไม่ดี
ความเชื่อมั่นอย่างยิ่งของ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต คือ
'ผิดมาตั้งแต่ต้น ฮวงเม่าบ่มี'นั่นคือ การทำนาเมื่อบำรุงรักษาต้นข้าวดีแล้ว ย่อมหวังได้แน่ซึ่งผล จึงได้เอาใจใส่ตักเตือนสานุศิษย์ให้ปฏิบัติศีลวัตรบนพื้นฐานแห่งความเชื่อมั่น
เมื่อมีวัตรก็ชื่อว่ามีศีล ศีลเป็นเบื้องต้นของการปฏิบัติ