สัปดาห์ก่อนตำรวจนครบาลจับแท็กซี่แสบ ลวงผู้โดยสารอ้างมีกิจการร้านอาหารขอเบอร์โทรศัพท์ไว้ ชักชวนมาร่วมหลับนอน ถ้าไม่ยอมใช้มีดจี้ข่มขืนชิงทรัพย์ ทำมาแล้วเป็น 10 ครั้ง บอกตัวเองติดเชื้อเอชไอวีด้วย เหตุจนมุมตำรวจเพราะฉกทรัพย์ผู้โดยสารไปซึ่ง ๆ หน้า แล้วนัดมาไถ่ของคืน แต่สาวไม่ยอมแจ้งตำรวจเลยต้องเข้าซังเต
ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานสหกรณ์แท็กซี่สยาม ยังเป็นรองประธานมูลนิธิเพื่อคนขับรถแท็กซี่ เล่าให้ฟังหลายเรื่องที่น่าสนใจ การแก้ปัญหาเรื่องนี้ ซึ่งเป็นปัญหาจากคน ทางกลุ่มผู้ประกอบการเคยเสนอ แต่ประมาณมีข่าวก็ดูเหมือนจะทำ แต่พอข่าวเงียบก็เหมือนเดิม
เรื่องนี้ทุกฝ่ายต้องช่วยกันทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการ และคนที่จะเข้าสู่อาชีพนี้ ซึ่งเรายังเห็นว่าเป็นงานพื้น ๆ จำกัดเรื่องรายได้ ผลตอบแทน ต้องมีการพัฒนาให้เห็นว่า นี่คืองานให้บริการ ต้องรู้ว่าเรามีหน้าที่อะไร ไม่ใช่แค่ขับรถอย่างเดียว แต่ต้องดูแลสภาพรถ การให้บริการ การแต่งกาย ความปลอดภัย การพูดจาให้ดีและเหมาะสมด้วย คุณวิฑูรย์ ยังฝากข้อเตือนใจสำหรับผู้ใช้บริการทุกคน โดยเฉพาะสาว ๆ ว่าผู้โดยสารต้องรู้จักสิทธิของตัวเอง เพราะโดนละเมิดเป็นประจำ แท็กซี่ไม่สามารถปฏิเสธผู้โดยสารได้ เพราะที่ผ่านมาถูกร้องที่ 1584 ถูกปรับทุกคัน รถทุกคันที่จดทะเบียนจะมีป้ายสีแดงงดรับผู้โดยสาร ถ้าไม่รับ ต้องติดป้ายนี้วิ่งช่องกลางหรือขวาไปเพื่อแสดงให้เห็นว่าจะไม่รับ ไม่เช่นนั้นปฏิเสธผู้โดยสารไม่ได้
เวลาเรียกรถอย่าเกรงใจ ถ้าเห็นว่าไม่ตรงลักษณะ ไม่อยู่ในสภาพที่ควรแก่การให้บริการ ทั้งลักษณะรถ ความสะอาด การแต่งกายของคนขับไม่สุภาพเรียบร้อย ไม่ปักชื่อสกุลไว้ที่เสื้อ ก็ปฏิเสธไม่ไปได้ ถ้าโดนปฏิเสธแล้วเขาก็ต้องมาปรับปรุงด้วย
ขึ้นมาบนรถแล้ว สังเกตป้ายที่อยู่ซ้ายหน้า จะมีใบขับขี่ของคนขับ เป็นบัตรจริง ถ้าถ่ายสำเนาติดไว้ให้สันนิษฐานว่ามีพฤติกรรมไม่ดีแอบแฝงได้ ภาพตรงกับหน้าของคนขับจริงหรือไม่
ขึ้นมาแล้ว ให้โทรฯ แจ้งคนใกล้ชิด แจ้งทะเบียนรถ หรือชื่อคนขับ ไม่จำเป็นอย่าคุย ถ้าคุยก็อาจจะต่อความไปถึงเรื่องอื่น ๆ ได้ โดยปกติการพูดคุยผู้โดยสารจะต้องเริ่มก่อน ถ้าคนขับเริ่มก่อนอย่าไปพูดคุยจนเกินความจำเป็น
ก็ฝากไว้ด้วยครับ.