ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




วิธีการทำเทียนหอมสุด article

 วิธีการทำเทียนหอมสุด

เรียบเรียงข้อมูลโดย www.legendnews.net  

 

 เทียนหอม

 

     เทียนหอม มีหลายประเภท ได้แก่ เทียนหอมบล็อค เทียนหอมประดับชนิดลอยน้ำ เทียนประดับที่บรรจุในภาชนะ เทียนรูปดอกไม้ และเทียนหอมประดิษฐ์ ประเภทดอกไม้สนาม ความหมายของคําที่ใช้ ในมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ชุมชน คำว่า เทียนหอม หมายถึง ผลิตภัณฑ์ ที่ได้จากการนําพาราฟิน และไขผึ้งมาหลอมละลายรวมกัน อาจเติมสีแล้วเติมน้ำมันหอมระเหยนําไปปั้นด้วยมือ หรือหล่อแบบขึ้นรูป หรือกดจากพิมพ์ ให้ มีรูปทรงตามต้ องการอาจประกอบด้วยวัสดุอื่นเพื่อให้
เกิดความสวยงาม เช่น ดอกไม้ แห้ง มีไส้ เทียนสําหรับจุดไฟ และมีกลิ่นหอมของน้ามันหอมระเหย

วิธีการทำเทียนหอม

วัสดุ


     วัตถุดิบหลักที่สำคัญ ได้แก่ พาราฟิน โพลีเอสเตอร์ น้ำหอม ไส้เทียน และสีเคลือบดอก
โดยแหล่ง Supplier ที่สำคัญจะอยู่ในประเทศจีนและไต้หวัน

ขั้นตอน และกระบวนการผลิตเทียนหอม

    สำหรับกระบวนการผลิต และขั้นตอนการผลิตสามารถจัดลำดับแผนกของการผลิตได้ดังนี้


1.  พาราฟิน 1 กก.

2.  บีแวกซ์ 1 ขีด

3.  เทียนเหนียว 1 ขีด

4.  สีเทียน หรือ สีน้ำมันผง

5.  ไส้เทียน

6.  หัวน้ำหอมกลิ่นที่ชอบ 15 cc

7.  พิมพ์รูปต่างๆ

วิธีทำเทียนหอม

     นำพาราฟินใส่ภาชนะตั้งไฟละลายจากนั้นใส่บีแว็กซ์ และเทียนลงไป พอละลายเข้ากันใส่สีเทียน หรือสีน้ำมันผงให้สีอ่อนเข้มตามต้องการตักหยอดใส่พิมพ์เมื่อเทียนเริ่มแข็งตัวใส่ไส้เทียนที่เตรียมไว้

   * วิธีทำไส้เทียนให้แข็ง ทำได้โดยนำฝ้ายดิบสำหรับทำใส้เทียนจุ่มลงในพาราฟิน ที่ต้มละลายแล้ว จากนั้นดึงใส้เทียนให้ตึง พอแห้งจะได้ใส้เทียนเป็นเส้นตรง จากนั้นตัดตามยาวตามต้องการ

 

 

 

เก๋ๆๆเทียนหอมๆๆๆ

 

เทียนหอม-เข้าพรรษา

ใกล้ถึงวันเข้าพรรษาแล้วนะคะ ในสมัยก่อนมีการถวายเทียนพรรษาเพื่อให้พระสงฆ์ได้ใช้ในระหว่างเข้าพรรษา พระท่านจะอยู่ประจำที่ไม่ได้เดินธุดงค์ เทียนจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่นอกจากใช้เพื่อให้แสงสว่างแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงปัญญา อีกด้วย

วันนี้เลยเอาเทียนหอมสวยๆของพี่สาวมาแบ่งกันชมค่ะ การให้ทานด้วยของประณีตนั้นเป็นการให้ทานด้วยจิตเคารพสูงสุด ทีปราถนาจะให้ด้วยแรงศรัทธาอย่างมาก แสดงถึงความตั้งใจของผู้ให้ทาน บุญที่ได้รับนั้นย่อมส่งผลให้ชีวิตได้พบเจอกับสิ่งที่เป็นความประณีต เรียบร้อย เช่นกันค่ะ



เทียนหอมคุณภาพส่งออก ของโอทอปติดดาวทีเดียวที่ขึ้นชื่อที่สุดของภาคอีสาน เป็นการถ่ายทอดแนวคิดจากฃคนรุ่นเก่า มาสู่คนรุ่นใหม่ สมกัยเป็นเมืองเทียนค่ะ



ปีนี้ถ้ามีโอกาสได้ไปเที่ยวงานแห่เทียนพรรษา ที่อุบลราชธานี อย่าลืมแวะซื้อเทียนสวยๆ หนึ่งในความภาคภูมิใจของชาวอุบลราชธานี กับ "เทียนหอมเดชอุดม" ติดกลับบ้านเพื่อเอามาถวายพระที่บ้าน หรือ ถวายพระที่วัดอื่นกันนะคะ



แวะซื้อกันที่บ้านคุณชาลิดา อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เพื่อจะได้เลือกสินค้าที่ถูกใจที่สุด เพราะของจะเยอะมากค่ะ แต่ถ้าเวลาน้อย ก็แวะซื้อที่สนามบินนะคะ



เข้าพรรษานี้ขอให้เพื่อนๆชาว BG มีจิตใจสงบ ระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมคำสอน และระสงฆ์ ผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ แบ่งเวลาจากการทำงานที่หนักเหนื่อยมาสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน ทำสมาธิให้ใจสงบกันนะคะ



พระหลวงตามหาบัวท่านเคยกล่าวไว้ว่า "ในวันหนึ่งคืนหนึ่งให้เราได้ไหว้พระสวดมนต์ เพื่อให้จิตใจได้พบความสงบ ละทิ้งความวุ่นวาย แล้วเราจะพบว่า จิตมีสติแท้นั้น ไม่อยู่ไกลเลย"



ยังมีเทียนสวยๆอีกเยอะเลยนะคะ

 

คำตอบพรั่งพรู ทำให้รู้ว่า ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อย ล้วนผ่านสายอาชีพมาอย่างโชกโชน บางครั้งไม่น่าเชื่อว่า จากเคยทำธุรกิจบ้านจัดสรร มูลค่านับร้อยนับพันล้านบาท แต่วันนี้กลับมีความสุขกับธุรกิจค้าขายก๋วยเตี๋ยว หรือบางคนคลุกคลีอยู่แวดวงอสังหาริมทรัพย์ แต่แล้วเส้นทางชีวิตผกผันหันมาก่อร่างสร้างความสำเร็จกับธุรกิจเกษตร เป็นต้น 

หลงรักงานก่อสร้าง

อับปางเพราะเศรษฐกิจ

ผู้ประกอบการดังจะกล่าวถึงก็เช่นกัน เขาผ่านอาชีพหลากหลายสาขา โดยเริ่มตั้งแต่ศึกษาจบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จากนั้นสมัครทำงานตรงตามความรู้ กับตำแหน่งผู้สื่อข่าวอาชญากรรม แต่เพียง 3 เดือนเท่านั้น เขาตัดสินใจลาออก เพราะมองว่าไม่ใช่สิ่งซึ่งตนเองต้องการ

อาชีพใหม่ กับตำแหน่งไกด์ในบริษัททัวร์ ซึ่งก่อร่างสร้างด้วยตัวเอง นำคณะนักท่องเที่ยวร่วมทางไปยังหลายๆ ประเทศ คลุกคลีอยู่นาน 7-8 ปี จนเกิดความรู้สึกชอบ แต่ไม่ใช่

เหตุผลอยู่ในใจ ไม่จำเป็นต้องอธิบายขยายความ เพราะเพียงรู้ตัวว่าสิ่งซึ่งทำอยู่ ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง การก้าวออกมาเพื่อค้นหาอาชีพใหม่ จึงสำคัญกว่า

แสงแดดแผดเผาเนื้อตัว เหงื่อไหลอาบร่าง ความเหนื่อยแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะกับอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ไม่มีทางสบายกาย แต่ คุณกัณฑ์พัฒน วงศ์ศิริกุล กลับภูมิอกภูมิใจในอาชีพนี้ “เปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้าง โครงการใหญ่หลายแห่ง มีลูกน้องประมาณ 200 คน ตอนนั้นกิจการไปได้ดี มีกำไรจากหยาดเหงื่อสมเหตุสมผล ซึ่งผมรู้สึกชอบมาก ได้ตากแดดให้ตัวดำซะบ้าง ยอมรับว่ามีความสุขมาก รู้เลยว่าอาชีพนี้คือเราแล้ว”

แม้โชคดีกับการได้งานซึ่งตนเองรักและภาคภูมิใจ แต่กลับต้องจากลาอาชีพนี้ไป เพราะพิษภัยของเศรษฐกิจปี 2540 “ไม่มีใครเก่งเกินสิ่งแวดล้อม ร่วงกันเป็นแถว ผมบอกกับลูกน้องว่าต้องหยุดธุรกิจไว้ก่อน ให้เงินพวกเขา แล้วบอกว่า ถ้าวันหนึ่งทุกอย่างพร้อม จะกลับมาทำงานร่วมกันอีก เพราะอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ผมรัก”

จำนวนเงินในกระเป๋า 8 หลัก สำหรับชายหนุ่มวัย 35 นับว่าน่ากระหยิ่มยิ้มย่อง กับความสามารถที่ได้มาด้วยอาชีพสุจริต แต่กระนั้นยังอดคิดไม่ได้ จะทำอย่างไรให้จำนวนเงินเพิ่มพูน

“ตอนนั้นเรื่องการใช้จ่ายไม่ค่อยรอบคอบนัก คิดแต่ว่าจะเพิ่มเงินให้เป็น 2 เท่าในเวลารวดเร็วได้อย่างไร จึงกระโจนเข้าไปในตลาดหุ้น ใช้เวลาเล่นหุ้นไม่นาน จากคิดว่าจะรวย 2 เท่า 3 เท่า กลายเป็นคนมีหนี้ จุดนั้นทำให้ผมรู้เลยว่า เราอาจเก่งในด้านการก่อสร้าง แต่กับตลาดหุ้น ผมเหมือนเด็กตัวน้อยๆ คนนึง”

แม้กระเป๋าว่างเปล่า แต่ไม่อาจส่งผลกระทบให้เกิดความท้อ คุณกัณฑ์พัฒนเชื่อว่ายังมีหนทางสร้างอาชีพ รอจังหวะให้ตัวเองก้าวเข้าไปสัมผัสอีกครั้ง

 

เปิดตลาดเทียนแฟนซี

ต่างชาติสนใจสั่งผลิต

จากมุมมองของผู้เคยประกอบธุรกิจ เล็งเห็นว่าเทียนแฟนซี สามารถทำตลาดได้ จึงแนะนำแฟนสาวให้หันมาจับงานหัตถกรรม และเพื่อยืนยันให้เห็นภาพความเป็นไปได้ เริ่มต้นคุณกัณฑ์พัฒน เลือกนำผลิตภัณฑ์เทียนหลากหลายรูปแบบ ไปเสนอเพื่อขอร่วมออกงานแสดงสินค้า BIG & BIH ในปี 2541 ซึ่งกรมส่งเสริมการส่งออก จัดขึ้น

ความแปลกใหม่ของสินค้าภายในบู๊ธเล็กๆ สามารถเรียกผู้ผ่านไปมาให้หยุดชื่นชม “ย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน ตลาดเทียนแฟนซี ถือเป็นตลาดใหม่ ไม่ค่อยมีใครรู้จัก กระทั่งลูกค้ารายหนึ่งจากประเทศสหรัฐอเมริกา เข้ามาติดต่อสั่งผลิตจำนวนมาก แต่ตอนนั้นแฟนผมเขาไม่อยากทำเป็นธุรกิจ โดยเฉพาะกับตลาดต่างประเทศ เนื่องด้วยไม่เก่งเรื่องการใช้ภาษามากนัก ผมจึงขอเข้ามาดูแลส่วนนี้”

อาชีพไกด์ ทำให้ได้เดินทางไปต่างบ้านต่างเมือง พบปะเจรจาบ่อยครั้ง นำมาซึ่งการใช้ภาษา อีกทั้งยังรับรู้ความต้องการของชาวต่างชาติ “ต่างประเทศเขามีความโดดเด่นเรื่องเทคโนโลยี แต่กับสินค้าประเภทงานฝีมือ ไม่สันทัด เขาจึงยกย่องผลิตภัณฑ์ของไทย”

ผู้ประกอบการกล่าวต่อว่า “ก่อนหน้านี้เคยนำสินค้าเทียนแฟนซี ส่งไปให้เพื่อนซึ่งอยู่ต่างประเทศลองขาย ปรากฏได้รับความนิยม จึงคิดว่าถ้าทำตลาดต่างประเทศ มีโอกาสเป็นไปได้สูง และกับการออกงานบิ๊ก ซึ่งทุกปีจะเดินทางมาร่วมงาน ถือเป็นโอกาสอันดี มีลูกค้าจากหลายๆ ประเทศ เดินทางเข้าชมผลิตภัณฑ์ และโดยส่วนใหญ่ติดต่อซื้อขาย ส่วนอีกหนึ่งช่องทางเลือกทำ เปิดเว็บไซต์ ให้ผู้สนใจจากทั่วโลกคลิกเข้ามาชมผลิตภัณฑ์ ซึ่งตอนนั้นเปิดเป็นบริษัทแล้ว ภายใต้ชื่อ บีคราฟท์”

หลังประกอบธุรกิจราว 2 ปี บริษัท บีคราฟท์ จำกัด คิดขยายช่องทางสร้างรายได้ โดยจับจองพื้นที่ในตลาดนัดจตุจักร เปิดหน้าร้าน รองรับกลุ่มเป้าหมายหลักชาวต่างชาติ ซึ่งผลตอบรับดี แต่เพียงระยะเวลา 3 ปี ตลาดเทียนแฟนซีกลับมีผู้ร่วมส่วนแบ่งทางการตลาด ชนิดที่ว่านับรายผู้จำหน่ายไม่ถ้วน

“จุดประสงค์ของการเปิดหน้าร้าน ส่วนหนึ่งเพื่อลดต้นทุนวัตถุดิบ เพราะผมสั่งซื้อพาราฟิน และวัตถุดิบในการผลิตเทียนเข้ามาเอง ซึ่งถ้าซื้อจำนวนมากราคาถูก แต่ขณะนั้นกำลังผลิตไม่มากพอ จึงเปิดหน้าร้านเพื่อระบายวัตถุดิบ และนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายควบคู่ ประมาณ 3 ปี สินค้าก๊อบปี้เต็มไปหมด ในที่สุดต้องปิดหน้าร้าน แล้วหันมาให้ความสำคัญกับการออกงานแสดงสินค้าและขายผ่านเว็บไซต์”

คู่

เทียนดอกไม้เท่านั้น

สำหรับรูปแบบเทียนผลิตจำหน่าย มีความหลากหลาย ซึ่งกับการเริ่มต้นธุรกิจถือเป็นโอกาสอันดี ลูกค้ามีสิทธิเลือก ต่อเมื่อเกิดผู้ประกอบการมากราย จำต้องค้นหาจุดเด่น จึงสรุปเฉพาะเทียนดอกไม้นับร้อยแบบ ทั้งที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไทย และสายพันธุ์มากมายในต่างประเทศ อาทิ ดอกบัว ทานตะวัน ดอกเยอร์บีร่า เดลี่ กุหลาบ เป็นต้น

“ถ้าในตลาดมีคู่แข่งขัน ต้องหาจุดแข็งให้เจอ แล้วมุ่งผลิตทิศทางเดียว แต่ถ้ายังสะเปะสะปะจะไม่เก่งสักทาง ซึ่งในตลาดต่างประเทศ ถ้าพูดถึงเทียนแท่งเทียนเท ส่วนใหญ่เขาใช้เครื่องจักรผลิต เราสู้เขาไม่ได้ หรือถ้าผลิตสินค้าราคาถูก ก็สู้ประเทศจีนไม่ได้อีก นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงเลือกทำสินค้าคุณภาพสูง เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับพรีเมี่ยม ซึ่งส่วนใหญ่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซึ่งถ้าเปรียบเทียบราคาขาย บีคราฟท์แพงกว่าประเทศจีน 30-50 เปอร์เซ็นต์ และเลือกเป็นเทียนรูปดอกไม้ ทั้งแบบธรรมดา และใส่กลิ่นหอม ตามความถนัดและความชำนาญของเรา”

ในส่วนของผู้ซื้อจากเริ่มต้นสหรัฐอเมริกา เริ่มขยับฐานสู่ประเทศทางฝั่งยุโรป รวมทั้งสิ้นกว่า 20 ราย ซึ่งทั้งหมดสั่งผลิตนำไปจำหน่าย โดยเฉลี่ยปีละ 2 ครั้ง หรือราวเดือนมิถุนายน และกรกฎาคม คิดเป็นยอดขายต่อครั้งหลักหมื่นถึงหลักแสน หรือนับรวมรายได้ต่อปี ซึ่งคุณกัณฑ์พัฒน เผยตัวเลขกลมๆ ว่าราว 8 หลัก ต่อเมื่อหักลบต้นทุน คงเหลือกำไรประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์

ลักษณะการผลิตเบื้องต้น รับจ้างผลิต โดยลูกค้าสั่งล่วงหน้า 90 วัน แล้วนำไปติดแบรนด์ของตนเอง กระทั่ง 2 ปีให้หลัง พร้อมสร้างชื่อเสียงเป็นของตน ภายใต้ชื่อ “BLOOMING BLISS

 

 

ถ้าเป็นงานฝีมือหัตถกรรม เย็บปักถักร้อย ลูกค้ายอมรับฝีมือคนไทย ซึ่งผมเชื่อว่าไม่มีชาติใดในโลกทำได้ดีเท่า เพราะมันมาจากสายเลือด แต่ปัญหาใหญ่ คือ การลอกเลียนแบบ ต้องมีความรอบคอบ ให้ความสำคัญตั้งแต่วัตถุดิบ อย่างพาราฟินใช้เกรดเอ จุดเผาไหม้ได้หมด ส่วนของสีนอกจากคุณภาพดีแล้ว ต้องนำมาผสมยูวีโปรเท็กชั่น เพื่อความสดใสคงทน เนื่องด้วยระยะเวลาผลิต การขนส่งทางเรือ กว่าจะนำสินค้าขึ้นชั้นวางจำหน่ายประมาณ 3 เดือนเป็นอย่างต่ำ สีต้องสดใสเหมือนเดิม”

 

 








เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน