ภาวะตะคริวที่เกิดขึ้นจากการออกกำลังกาย
ตะคริว เกิดจากการที่กล้ามเนื้อหดเกร็งและไม่คลายตัวสู่ภาวะปกติ ส่วนใหญ่มักเกิดจากการออกกำลังกาย (Exercise associated muscle clamping; EAMC) ซึ่งเป็นภาวะที่พบบ่อย และมักเกิดกับการออกกำลังกายที่ใช้เวลานาน เช่น วิ่งมาราธอน ว่ายน้ำไกล ขี่จักรยาน ไตรกีฬา ฟุตบอล บาสเกตบอล เทนนิส เป็นต้น1-5 อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดตะคริวก็ยังไม่ชัดเจน
คำจำกัดความและการจำแนกประเภท
EAMC เกิดได้ทั้งขณะออกกำลังกาย หรือหลังหยุดออกกำลังกายทันที ทำให้เกิดอาการเจ็บจากการหดเกร็ง ของกล้ามเนื้อลาย ภาวะ EAMC นี้จะไม่รวมภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งขณะพัก ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อเรียบหรือกล้ามเนื้อลาย และไม่รวมภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งจากความเจ็บป่วยอื่น6,7
อุบัติการณ์และความชุก
ภาวะ EAMC เกิดขึ้นได้ในผู้เล่นกีฬาทั่วๆไป รายละเอียดดังตารางที่ 1 แสดงสัดส่วนประชากรที่ครั้งหนึ่งในชีวิตเคยเกิดภาวะ EAMC ขณะเล่นกีฬา ซึ่งพบว่ากลุ่มนักกีฬาไตรกีฬาเกิดภาวะ EAMC มากที่สุด8
ตารางที่ 1 แสดงประเภทกีฬากับสัดส่วนประชากรที่เคยเกิด EAMC ขณะเล่นกีฬา
ชนิดกีฬา
|
เปอร์เซนต์สัดส่วนประชากร |
รักบี้ |
52% |
ปั่นจักรยาน |
60% |
มาราธอน (42.2 กม.) |
39% |
ไตรกีฬา |
68% |
สาเหตุ
เดิมเชื่อว่าภาวะ EAMC เกิดจากปัจจัยกระตุ้นคือ ภาวะการเผาผลาญพลังงานของร่างกายและระดับสารเกลือแร่ในเลือดที่ผิดปกติ หรือภาวะขาดน้ำ หรือจากสภาพแวดล้อมเช่น ความร้อน ซึ่งสมมติฐานเหล่านี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดและยังไม่มีการเก็บข้อมูลวิจัยอย่างจริงจัง ในทางตรงข้ามมีผลงานวิจัยที่น่าเชื่อถือแสดงผลการศึกษาที่ขัดแย้งกับสมมติฐานดังกล่าว โดยพบว่าทั้งภาวะการขาดน้ำ และ ภาวะเกลือแร่ผิดปกติ ไม่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดภาวะ EAMC ทั้งในกลุ่มนักกรีฑาและนักไตรกีฬา9-12 สมมติฐานใหม่มีแนวคิดว่า EAMC เกิดจากการควบคุมระบบประสาทกล้ามเนื้อที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้กล้ามเนื้อล้า7
มีการศึกษาวิจัยจำนวนมากโดยเฉพาะจากการศึกษาในสัตว์ทดลอง เพื่อหาสาเหตุการเกิด EAMC และ พบว่าผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิด EAMC คือผู้ที่เคยมีอาการตะคริวขณะออกกำลังกาย และผู้ที่ออกกำลังกายโดยใช้กล้ามเนื้ออย่างหนักหน่วงกว่าปกติ5,9 ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่นที่ทำให้เกิด EAMC รองลงมา ได้แก่ การออกกำลังกายที่นานขึ้น การไม่ได้อบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกาย ผู้ที่มีมวลดัชนีกายสูง ผู้ที่เคยมีประวัติในครอบครัวว่าเป็นตะคริวขณะออกกำลังกาย และผู้ใหญ่มีโอกาสเกิด EAMC มากกว่าเด็ก ส่วนภาวะร่างกายขาดน้ำ และระดับสารเกลือแร่ในเลือดผิดปกตินั้นถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ำต่อการเกิด EAMC
อาการแสดง
ภาวะ EAMC มีอาการแสดงที่เฉพาะเจาะจง แพทย์สามารถให้การวินิจฉัยได้จากการซักประวัติอย่างละเอียดร่วมกับและการตรวจร่างกายที่ครบถ้วนโดยไม่จำเป็นต้องตรวจทางห้องปฏิบัติการ ประวัติและอาการสำคัญประกอบด้วย9,13-15
- มักเกิดขณะออกกำลังกายที่หนักหน่วงและใช้เวลานาน ในสภาวะแวดล้อมที่ร้อนและชื้นกว่าปกติ
- อาการจะเริ่มจากการกล้ามเนื้อล้าและกระตุก เรียกว่า cramping prone state ตามด้วยกล้ามเนื้อบริเวณนั้นหดเกร็งและปวด
- อาการปวดจะหายไปเมื่อหยุดกิจกรรม หรือเมื่อกล้ามเนื้อถูกยืดออก
- อาการข้างต้นสามารถเกิดซ้ำได้อย่างรวดเร็วหากกลับไปออกกำลังกายนั้นทันที
- อาการหดเกร็งจะเกิดได้ง่ายขึ้นหากมีการหดสั้นของกล้ามเนื้อบริเวณนั้นๆ
- มักเกิดกับกล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานเยอะในขณะออกกำลังกาย เช่น กล้ามเนื้อน่อง หรือกล้ามเนื้อต้นขา
ภาวะ EAMC โดยทั่วไปเป็นการเกิดตะคริวของกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน แต่ไม่ทำให้เกิดอาการเกร็งทั้งตัวหรือหมดสติ ดังนั้นหากพบนักกีฬามีอาการรุนแรงข้างต้น ควรให้การปฐมพยาบาลอย่างรีบด่วน และควรหาสาเหตุอื่นร่วมด้วยเช่น ภาวะขาดสมดุลของสารน้ำและเกลือแร่ในเลือด หรือ ความผิดปกติของสมอง ปอด หัวใจ รวมถึงควรสอบถามประวัติการใช้ยาประจำ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการหมดสติได้ 6,7
การดูแลรักษาเมื่อเกิด EAMC ในระยะเฉียบพลัน
เริ่มแรกสุด ควรนำนักกีฬามาอยู่ในที่ที่ปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาทางน้ำ เนื่องจากนักกีฬาเหล่านี้จะไม่สามารถขยับร่างกายได้เหมือนปกติ หลังจากหยุดกิจกรรมและนำนักกีฬาออกมาสู่บริเวณที่ปลอดภัยแล้วจึงเริ่มช่วยเหลือโดยการยืดกล้ามเนื้อ (passive stretching)16-20 เพื่อลดประจุไฟฟ้าภายในกล้ามเนื้อ โดยทั่วไปหลังจากทำการยืดกล้ามเนื้อแล้วภายใน 10-20 วินาที นักกีฬาจะมีอาการดีขึ้นทันที และควรทำการยืดกล้ามเนื้อต่อจนครบ 20-30 นาที21 การดื่มน้ำหรือน้ำเกลือแร่ รวมถึงการเช็ดตัวให้อุณหภูมิร่างกายกลับสู่ภาวะปกติ จะช่วยลดภาวะ EAMC ลงได้ ส่วนการให้สารน้ำเกลือทางหลอดเลือดดำยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่ามีประโยชน์หรือไม่
สำหรับการฉีดยา magnesium หรือ calcium หรือ การฉีดกลุ่ม diazepam เพื่อคลายกล้ามเนื้อ อาจจำเป็นต้องใช้ในรายที่มีอาการรุนแรง แต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังเพราะอาจทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำลง และการใช้ยาเกินขนาดสามารถทำให้นักกีฬาหยุดหายใจได้ นอกจากนี้การให้ความรู้แก่นักกีฬาที่เกิดภาวะ EAMC รุนแรงนับว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการสังเกตปัสสาวะและสีของปัสสาวะ ถ้าปัสสาวะไม่ออก หรือปัสสาวะสีเข้มกว่าปกติอย่างน้อยภายในช่วง 24 ชั่วโมงแรก ควรกลับมาแพทย์เพื่อตรวจซ้ำ
การวินิจฉัยและดูแลรักษาผู้ป่วยที่เกิดภาวะ EAMC ซ้ำ
ในนักกีฬาบางรายที่เกิดภาวะ EAMC ซ้ำ ควรตรวจให้แน่ใจว่าเกิดจากภาวะ EAMC หรือเกิดจากภาวะการเจ็บป่วยอื่น ประวัติที่ควรถามเพิ่มเติม คือ
- ภาวะกล้ามเนื้อเกร็งนั้นเกิดขณะออกกำลังกายที่ไม่ได้หนักกว่าเดิม และระยะเวลาสั้นกว่าเดิมหรือไม่
- ภาวะกล้ามเนื้อเกร็งนั้นเกิดขณะพักหรือไม่
- ภาวะกล้ามเนื้อเกร็งนั้นมีอาการอื่นร่วมด้วยหรือไม่ เช่น ปวด ไม่มีแรง หรืออาการชา ฯลฯ
- ภาวะกล้ามเนื้อเกร็งนั้นเกิดทุกครั้งที่ออกกำลังกายหรือไม่
- การยืดกล้ามเนื้อช่วยให้อาการทุเลาลงหรือไม่ หรือทำให้อาการเป็นมากขึ้น
- มีประวัติในครอบครัวที่มีภาวะกล้ามเนื้อเกร็งขณะออกกำลังกายหรือไม่
- ได้ใช้ยาอะไรเป็นประจำอยู่หรือไม่
จากการซักถามประวัติข้างต้น หากคำถามใดก็ตามมีคำตอบว่า “ใช่” ก็ควรมีการตรวจวินิจฉัยอื่นเพิ่มเติม
โดยให้ความสำคัญกับการตรวจระบบประสาท กล้ามเนื้อ ระบบต่อมไร้ท่อ และกลุ่มโรคมะเร็ง การตรวจทางห้องปฏิบัติการที่จำเป็น ได้แก่ CBC, plasma viscosity, electrolytes, CPK, thyroid function test นอกจากนี้หากตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติ ควรส่งตรวจการทำงานของกล้ามเนื้อ ได้แก่ การตรวจความยืดหยุ่น ความแข็งแรง และความทนทานของกล้ามเนื้อ สำหรับผู้ที่มีอาการเรื้อรัง และไม่ตอบสนองต่อการรักษา ควรตัดชิ้นกล้ามเนื้อขนาดเล็กเพื่อส่งตรวจผลทางพยาธิวิทยาเพื่อแยกโรคกลุ่ม myopathy
การป้องกันการเกิดภาวะ EAMC
กุญแจสำคัญในการป้องกันการเกิดภาวะ EAMC คือการป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อล้า โดยควรปฏิบัติตาม
คำแนะนต่อไปนี้
- ตระหนักและระลึกรู้เสมอว่าภาวะ EAMC มักเกิดในสภาพแวดล้อมที่ร้อนและชื้น
- นักกีฬาที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะ EAMC ควรออกกำลังกายที่เบากว่าในระยะเวลาที่สั้นกว่าที่เคย ปฏิบัติมาก่อน
- นักกีฬาควรตรวจสอบความสมบูรณ์ของร่างกายก่อนออกกำลังกายทุกครั้ง
- นักกีฬาควรยืดกล้ามเนื้อที่มักเกิดภาวะ EAMC ก่อนและหลังการออกกำลังกายทุกครั้ง
- นักกีฬาควรรับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ โดยมีคาร์โบไฮเดรตเพียงพอเพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อล้า
สรุป
ภาวะ EAMC เป็นภาวะที่เกิดได้บ่อยในนักกีฬาที่ออกกำลังกายแบบอึด (endurance) ปัจจุบันมีหลักฐานทางการวิจัยแสดงให้เห็นชัดว่าภาวะนี้เป็นผลมาจากกล้ามเนื้อที่ล้า ประกอบกับการทำงานที่ผิดปกติของระบบประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิด EAMC ได้แก่ เคยมีประวัติเกิดภาวะ EAMC รวมถึงการออกกำลังกายที่หนักและนานกว่าปกติ ส่วนปัจจัย ภายนอกที่มีผลคือสภาวะแวดล้อมที่ร้อนและชื้น การวินิจฉัยภาวะนี้ใช้เพียงการซักถามประวัติและการตรวจร่างกายที่ครบถ้วนเท่านั้น การรักษาในระยะเฉียบพลันคือ หยุดกิจกรรมทันทีและทำการยืดกล้ามเนื้อที่มีอาการ สำหรับผู้ที่มีอาการซ้ำ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่นนอกเหนือจากภาวะ EAMC หลักการป้องกันการเกิดภาวะนี้ คือการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกล้ามเนื้อล้า