การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางการท่องเที่ยวของ โครงการ MICE : Meeting lncentive Convention Exhibition และการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวภาคตะวันออก กิจกรรมเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวภาคตะวันออก จังหวัดตราด (เส้นทางที่ 1) โดยการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้รู้ถึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดในภาคตะวันออกว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจไม่แพ้ภาคอื่น โดยเฉพาะเส้นทางของ เกาะช้าง จังหวัดตราด ที่มีความหลากหลายจนอยากเชิญชวนให้ผู้ที่รักในการท่องเที่ยวทุดคนเข้ามาสัมผัส

เริ่มต้นการเดินทางด้วเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่ทุกคนจะได้หย่อยใจไปกับบรรยากาศป่าชายเลนแสนอุดมสมบูรณ์ที่อ่าวสลักคอก ป่าชายเลนผืนใหญ่ที่สุดบนเกาะช้าง ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 670 ไร่ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ตัวอ่อนของสัตว์น้ำต่างๆ และยังช่วยป้องกันการพังทลายของชายฝั่ง นักท่องเที่ยวจะได้ชมวิถีชาวบ้านในการทำอาชีพประมง พร้อมผ่อนคลายสบายใจไปกับกิจกรรมที่ชมรมท่องเที่ยวพื้นบ้านสลักคอกเตรียมไว้ต้อนรับ ทั้งการพายเรือคยักลัดเลาะชมความงามของธรรมชาติ สำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมการท่องเที่ยวแบบผจญภัย

แต่ผมขอแนะนำให้ลองสัมผัสบรรยากาศการ นั่งเรือมาด หรือที่นักท่องเที่ยวขนานนามว่า เรือกอนโดลาแห่งเกาะช้างที่ได้รับการสนับสนุนจาก องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) เพื่อเอาไว้ชมความงามของป่าชายเลน และอ่าวสลักคอก โดยจะมีคนคอยพายเรือให้เรานั่งสบายๆ ความเงียบสงบของอ่าวสลักคอก และความร่มรื่นของธรรมชาติ จะช่วยเนรมิตรบรรยากาศที่เหมาะแก่การพักผ่อนให้กับเรา ยิ่งถ้าได้ล่องเรือในช่วงเย็นพร้อมทานดินเนอร์กับคนรู้ใจ ความโรแมนติกที่มาพร้อมบรรยากาศ จะช่วยเติมเต็มความหวานให้กับทุกคู่รักได้เป็นอย่างดี

ส่วนคนที่ชอบการดำน้ำขอแนะนำให้ลองไปตามเส้นทางที่ผมมีโอกาสสัมผัสในครั้งนี้กับ เส้นทาง 3 เกาะ 3 สไตล์ เริ่มด้วยจุดดำน้ำ เกาะยักษ์ใหญ่ จุดดำน้ำตามเส้นทางเกาะช้างที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ เพราะนอกจากน้ำทะเลสีฟ้าครามสดใสชวนให้อยากเล่นน้ำแล้ว จุดเด่นของที่นี่คือ ฝูงปลาสวยงามหลากหลายสายพันธุ์ ที่จะว่ายน้ำหยอกล้อนักท่องเที่ยวตลอดเวลา ทำให้สามารถชมความงามของปลาสีสรรสดใสได้อย่างใกล้ชิด ใครที่ชอบการดำน้ำและเล่นสนุกกับฝูงปลา ถ้าได้มาดำน้ำที่เกาะยักษ์ใหญ่จะรู้สึกดีจนไม่อยากกลับขึ้นเรือเลยทีเดียว

จากนั้นเรือมุ่งหน้าพาผู้ร่วมเดินทางทุกคนมาต่อกันที่ เกาะหวาย หลังจากเรือเทียบฝั่งแล้ว ผู้ร่วมเดินทางทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน้ำใสมาก นอกจากความสวยงามของน้ำทะเลแล้ว ภายใต้น้ำทะเลนั้นก็มีแนวปะการังที่กำลังได้รับการฟื้นฟู ทำให้สามารถพบเห็นหอยมือเสือทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่เต็มแนวปะการัง อีกทั้งยังมีฝูงปลาหลากสีจำนวนมาก ที่คุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ว่ายวนเวียนอยู่ใกล้ๆขณะที่เรากำลังดำผุดดำว่ายดูปะการัง สะดุดตาด้วยศาลาขนาดใหญ่ด้านหน้าชายหาดที่ยื่นลงไปกลางทะเล และมองเห็นตั้งแต่เรือเข้าใกล้ฝั่ง ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล สามารถขึ้นไปนั่งเล่น นอนเล่น รับลมเย็นและชมวิวในมุมสูงบนชั้นสองของศาลาได้

ปิดท้ายเส้นทางชมความงาม 3 เกาะ 3 สไตล์ที่ เกาะเหลายา ตั้งอยู่ห่างเกาะหวายไม่ไกลมากนัก และอยู่ใกล้เกาะช้างเพียงนิดเดียว จุดเด่นของเกาะเหลายาอยู่ที่ความเงียบสงบ แบ่งสัดส่วนออกเป็น 3 เกาะคือ เกาะเหลายาใน กลาง และนอก เชื่อมต่อเกาะเหลายาในและกลางด้วยสะพานไม้สุดคลาสสิค เป็นอีกหนึ่งมุมสวยงามที่นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก ถึงแม้จะเป็นเกาะเล็กๆที่ยังมีคนรู้จักไม่มาก แต่ถ้าใครได้มาพักผ่อนบนเกาะเหลายาสักคืน รับรองว่าจะต้องติดใจกับบรรยากาศของทะเล ชายหาด ธรรมชาติ และความเงียบสงบ ที่ช่วยทำให้ได้ยิ่งเสียงคลื่นอย่างชัดเจนแน่นอน

ทุกสถานที่ท่องเที่ยวจะมีเรื่องราวที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองซ่อนอยู่เสมอ ขอเพียงนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนช่วยกันอนุรักษ์และพร้อมที่จะซึมซับถึงเอกลักษณ์เหล่านั้น ความสุขในการท่องเที่ยวก็จะส่งต่อมาถึงเราได้แน่นอน