หน้าที่หูเสื่อจัดการ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Plectranthus amboinicus (Lour.) Spreng
ชื่อสามัญ : Country Borage, Indian Borage ,Oreille, Oregano
ชื่อวงศ์ : Labiatae
ชื่อสมุนไพรอื่น ๆ : หูเสือ (ชัยภูมิ พิจิตร) เนียมหูเสือ (ภาคกลาง) หอมด่วนเสือ (ตาก) หอมด่วนหูเสือ (ภาคเหนือ)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ต้น สมุนไพรหูเสือเป็นพืชล้มลุกอายุ 2-3 ปี สูงประมาณ 20-40 ซม. ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยมถึงค่อนข้างกลมและอวบน้ำหักได้ง่าย ทั้งต้นมีกลิ่นหอม
ใบ ใบสีเขียวอ่อนรูปร่างกลมรี โคนใบสอบ ปลายใบมน ลักษณะใบหนา กรอบ และมีขนอ่อนทั่วไป ริมขอบใบจักเป็นคลื่นมนรอบๆ ใบ แผ่นใบนูน เส้นใบลึก
ดอก ดอกหูเสือออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ยาว14-39 เซนติเมตร ดอกขนาดเล็กเป็นหลอดยาว 3.5 มิลลิเมตร มีสีม่วงอ่อนหรือขาว กลีบเลี้ยงมี 2 กลีบ กลีบบนรูปไข่ ปลายแหลม กลีบล่างปลายสอบแหลม กลีบดอกเป็นท่อสั้น ปลายบานออก
การขยายพันธุ์ : หูเสือขยายพันธุ์โดยการปักชำยอด ต้น
หูเสือ สมุนไพร ดอกสมุนไพรหูเสือออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง มีขนาดเล็กมีสีม่วงอ่อนหรือขาว กลีบเลี้ยงมี 2 กลีบ กลีบบนรูปไข่ ปลายแหลม กลีบล่างปลายสอบแหลม กลีบดอกเป็นท่อสั้น ปลายบานออก
ส่วนที่ใช้ : ยอดและใบอ่อน, ลำต้นฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา:
สารสกัดจากสมุนไพรหูเสือสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ยับยั้งยีสต์ ยับยั้งเชื้อรา ฆ่าแมลง ยับยั้งการงอกของพืชอื่น ยับยั้งเอนไซม์ protease จากเชื้อ HIV และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สารสำคัญที่พบในใบหูเสือ เช่น น้ำมันหอมระเหย thymol, carvacrol, ?-terpinene, cyperene เป็นต้น
สรรพคุณของสมุนไพร :
- หูเสือมีค่าดัชนีแอนติออกซิเดนท์ 4.74
- เบต้า แคโรทีน 2.55 มก. แซนโทฟิลล์ 4.24 มก. วิตามิน ซี 10.15 มก.
- หูเสือมีกลิ่นหอมชวนให้รับประทาน นิยมนำมารับประทาน เป็นผักสดแกล้มกับอาหารเภทลาบ ยำ ก้อย และน้ำพริก เพื่อดับกลิ่นคาวและทำให้อาหารมีกลิ่นหอม
- หูเสือนอกจากนำมาใช้เป็นเครื่องเทศประกอบอาหารไทย ฝรั่งแล้ว ยังมีสรรพคุณทางสมุนไพร คือ ใบและยอด นำใบและยอดมาคั้นหยอดห ูแก้ปวดหู แก้ฝีในหู แก้หูน้ำหนวก แก้หวัดคัดจมูก ขยี้ทาแก้แมลงป่องต่อย,ตะขาบกัดและแก้ปวดหัว หรือนำไปผสมยานัตถ์ ให้มีกลิ่นหอม และกินกับหมากก็ได้ ลำต้น ใช้ซักผ้า,สระผม