ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006 มาจนถึงปัจจุบันมีข้อมูลชัดเจนว่าการทำธุรกรรมออนไลน์เติบโตต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็ก
ธิปไตย สิริโยธิน ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการตลาด ผลิตภัณฑ์เลเซอร์เจ็ท บริษัทฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด หรือเอชพีเล่าให้ฟังว่า การค้าขายออนไลน์เติบโตมากในกลุ่มสินค้าประเภทแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ พบว่า ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006-2008 ธุรกิจออนไลน์เติบโตเป็นสองเท่า
แม้กระทั่งโซเชียลเน็ตเวิร์กก็โต 100% คาดว่าจะถึง 20 ล้านคน ภายในปี ค.ศ. 2013 หรือปีหน้า
จากปัจจุบันมีการใช้งานในบ้านเราประมาณ 13 ล้านคน
เอชพีมองเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของธุรกิจออนไลน์ของกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็กซึ่งมักจะติดอุปสรรคเรื่องจำนวนพนักงาน และเครื่องมือที่มีจำกัดในขณะเดียวกันก็ต้องการประสิทธิภาพในการทำงานที่แข็งแกร่งและรวดเร็ว แต่ต้องลดต้นทุนและลดขั้นตอนการทำงานด้วย
ในฐานะที่มีระบบคลาวด์เป็นของตัวเอง มีโซลูชั่นเกี่ยวกับการพิมพ์มากมาย เช่น อี-พรินต์
จึงนำจุดเด่นที่มีมาใช้กับธุรกิจเอสเอ็มอี ผ่านเครื่องพิมพ์เลเซอร์เจ็ท โปร รุ่น เอ็ม 275 คุณธิปไตย ได้สาธิตการสแกนสินค้าขึ้นเว็บไซต์ เพื่อลดขั้นตอนและลดต้นทุน เพียงนำสินค้าที่เราจะวางจำหน่ายออนไลน์ เช่น เครื่องประดับมาจัดวางบนเครื่องพิมพ์ จากนั้นเริ่มสแกน โดยกล้องอยู่บ้าน ซึ่งเป็นกล้องที่มีมุมมอง 3 มิติ สแกนได้ 3 มุม จะสั่งพรินต์ ตกแต่งภาพหรือส่งไฟล์ไปยังกูเกิล ด็อค ได้ โดยไม่ต้องใช้กล้องถ่ายรูป แล้วเอาไฟล์จากกล้องมาสั่งพรินต์อีกต่อไป
กล้องสแกน 3 มิติ บนเลเซอร์เจ็ท เอ็ม 275 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เพียงพอต่อการทำสแกนภาพเพื่อทำธุรกิจออนไลน์
ความเก่งกาจของพรินต์เตอร์รุ่นนี้ ก็อยู่ที่การเชื่อมต่อออนไลน์ เป็นพรินต์เตอร์ที่มีแอพพลิเคชั่น เรียกว่า บิสสิเนส แอพพลิเคชั่น เอชพี มาให้เลือกใช้งาน ทั้งข่าวสารและบันเทิง จะสั่งพิมพ์ข่าวจากแอพพลิเคชั่นที่ส่งมาอัพเดทเป็นประจำในพรินต์เตอร์ก็ได้ โดยไม่ต้องต่อพ่วงเข้ากับเครื่องพีซีอีกต่อไป
เทคโนโลยีอี-พรินต์ในเครื่องพิมพ์ของเอชพี กำลังจะเป็นมาตรฐานที่จะเข้ามาในพรินเตอร์เกือบทุกรุ่น เพื่อให้เราสั่งพิมพ์ได้จากทั่วโลก ผ่านระบบคลาวด์ ขอแค่จุดที่เราอยู่นั้นมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตก็พอแล้ว
เทคโนโลยีกำลังเข้ามาทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น สะดวกขึ้น สิ่งสำคัญก็คือ ต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน ถึงจะเรียกว่า คุ้มค่า.