สาว 18 อยากตาโต ซื้อบิ๊กอายส์มาใส่เอง แต่เกิดระคายเคือง จนเผลอขยี้ตา ทำให้กระจกตาดำเป็นแผลติดเชื้อหนัก โชคดีตาไม่บอด เพราะมาพบแพทย์ทัน แต่จะมองเห็นไม่ชัดไปตลอดชีวิต
วานนี้ (8 กรกฎาคม) นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้วัยรุ่นผู้หญิงยังนิยมใส่คอนแทคเลนส์ตาโต หรือ บิ๊กอายส์ เพื่อเปลี่ยนสีตา หรือขยายขนาดของตาดำ ให้ดูกลมโต ทั้ง ๆ ที่การใช้บิ๊กอายส์ หรือแม้กระทั่งคอนแทคเลนส์ที่เป็นเลนส์สายตา ล้วนเสี่ยงอันตราย เพราะถือเป็นสิ่งแปลกปลอม และหากเกิดการติดเชื้อที่กระจกตา อาจถึงขั้นตาบอดได้ภายใน 2 วัน ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีผู้ป่วยจากการใส่คอนแทคเลนส์บิ๊กอายส์มารักษาที่ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2554 มีประมาณ 20 ราย ส่วนในปี 2555 พบ 2 ราย ซึ่งรายล่าสุดเข้ามารักษาตัว เมื่อประมาณวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ผู้ป่วยรายนี้ เป็นหญิงวัยรุ่นอายุ 18 ปี ซื้อบิ๊กอายส์จากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านบางลำภูมาใส่ แล้วมีอาการระคายเคืองที่ตาขวา จึงเผลอไปขยี้ตา ทำให้มีอาการตาบวม เมื่อมาพบแพทย์ จึงทราบว่าเชื้อแบคทีเรียได้กัดกินบริเวณกระจกตาดำ มีแนวยาว 5 มิลลิเมตร และลึกลงไปประมาณ 1 มิลลิเมตร จนเกือบทะลุกระจกตาดำ ซึ่งถ้ามาพบแพทย์ช้ากว่านี้ 1 วัน ตาบอดแน่นอน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะรักษาจนหายแล้ว ก็จะมีรอยแผลเป็นที่ตาดำ ส่งผลให้มองเห็นไม่ชัดเหมือนคนปกติตลอดไป นพ.ฐาปนวงศ์ ยังกล่าวอีกว่า การใส่คอนแทคเลนส์บิ๊กอายส์จะทำให้ดวงตาคับแน่น เนื่องจากมีไซส์ใหญ่กว่าดวงตาจริง ขณะเดียวกันหากใส่เป็นเวลานานจะทำให้เป็นโรคตาแห้ง โดยมีอาการตาผ่าวร้อน แพ้แสง ซึ่งจะสร้างความรำคาญแก่ดวงตาไปตลอดชีวิต ดังนั้นจึงขอเตือนว่าการใช้คอนแทคเลนส์ไม่ว่าชนิดใด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ รวมทั้งต้องเก็บรักษาในน้ำยาแช่คอนแทคเลนส์โดยเฉพาะ ปิดฝาให้สนิท เปลี่ยนน้ำยาแช่เลนส์ทุกครั้งที่ใช้ ห้ามล้างคอนแทคเลนส์ด้วยน้ำประปา เนื่องจากสารคลอรีนอาจทำให้เลนส์เสื่อมสภาพ และต้องล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสคอนแทคเลนส์ทุกครั้ง ทางด้าน นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งมาจาก นพ.ฐาปนวงศ์ จึงส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบห้างสรรพสินค้าที่ผู้ป่วยซื้อบิ๊กอายส์มา และเมื่อสอบถามกลับไปยังผู้ป่วยพบว่า ซื้อบิ๊กอายส์มาเก็บไว้นานแล้ว ทั้งนี้ ปัจจุบันมีบิ๊กอายส์ที่ได้รับอนุญาตจากทาง อย. เพียง 2-3 ยี่ห้อเท่านั้น ซึ่งประชาชนสามารถโทรศัพท์มาสอบถามได้ที่สายด่วน อย. โทร.1556
