ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




ไอซีทีเล็งชง ครม.เคาะแผนพัฒนาโครงข่ายโทรคมนาคม article

ไอซีทีเล็งชง ครม.เคาะแผนพัฒนาโครงข่ายโทรคมนาคม

 
 
 

 

"ไอซีที" เตรียมชง ครม.เคาะแผนพัฒนาโครงข่ายโทรคมนาคม หนุน "ทีโอที-กสท" ยึดคลื่นความถี่สร้างประโยชน์สูงสุดให้ประชาชนและประเทศชาติ...

เมื่อวันที่ 25 ก.ค. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้จะนำเรื่องเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติแผนการพัฒนาและขยายโครงข่ายโทรคมนาคมของประเทศ เพื่อสนองตอบความต้องการใช้ของประชาชนทุกพื้นที่ของประเทศ และยังเป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลได้เร่งรัดผลักดันให้คนไทยเข้าถึงบริการโทรคมนาคม โดยเฉพาะการเดินหน้าโครงการแจกคอมพิวเตอร์แบบพกพา (แท็บเล็ต) โดยคาดว่าจะปรับลดงบลงทุนลดลงเหลือ 20,000 ล้านบาท จากเดิม 80,000 ล้านบาท ภายใน 5-6 ปีข้างหน้า

สำหรับแผนการลงทุนและแนวทางการพัฒนานั้น ได้มอบหมายให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ไปจัดทำแผนการพัฒนาโครงข่ายทั้งในส่วนของสายเคเบิลใยแก้ว (ไฟเบอร์ออฟติก) และโครงขายโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์รับส่งสัญญาณต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีครอบคลุมทั่วประเทศ ฉะนั้นควรใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินดังกล่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุด และจะนำโครงข่ายดังกล่าวมาใช้บริการหน่วยงานราชการที่มีอยู่ทั่วประเทศก่อน

"เบื้องต้นจะนำร่องกับสถานศึกษาหรือโรงเรียนทั่วประเทศที่มีอยู่ประมาณ 30,000 แห่ง เพื่อรองรับการใช้แท็บเล็ต เพราะหากไม่มีระบบอินเตอร์เน็ตไปยังโรงเรียนต่าง ๆ ก็จะไม่เกิดประโยชน์ แต่ปัจจุบันมีโรงเรียน 10,000 แห่งที่สายไฟเบอร์เข้าถึง ส่วนอีก 20,000 แห่งใช้ระบบเอดีเอสแอล และจานดาวเทียมไอพีสตาร์ ดังนั้นหากนำอุปกรณ์ส่งสัญญาณหรือเสาโทรคมนาคมที่มีอยู่มาติดตั้งอุปกรณ์ เพิ่มเติม เช่น ไวไฟ, ไว–แมกซ์, 3 จี ,และแอลทีอี หรือ 4 จี เป็นต้น ก็จะทำให้โรงเรียนได้ใช้ประโยชน์สูงสุด และหลังจากนั้นก็จะขยายไปยังโรงพยาบาลชุมชน และองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต) ที่มีอยู่ทั่วประเทศ" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

รมว.ไอซีที กล่าวต่อว่า ตามแผนการพัฒนาโครงข่ายดังกล่าว ทีโอที จะต้องใช้คลื่นความถี่ย่าน 2.3 กิ๊กกะเฮิรตซ์ (GHz) และ 2.6 GHz ในการส่งสัญญาณไปยังพื้นที่ไฟเบอร์ออฟติก เข้าไปถึง เพราะคลื่นความถี่ดังกล่าวจะใช้กับอุปกรณ์แอลทีอีหรือ4จีได้ ซึ่งจะทำให้การใช้คลื่นความถี่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อ ประเทศชาติและประชาชนอย่างมาก

สำหรับประเด็นการคืนคลื่นความถี่หรือจะใช้ คลื่นความถี่ต่อไปจนกว่าใบอนุญาตประกอบกิจการจะสิ้นสุดหรือหลังสัญญาสัมปทานสิ้นสุดลงหรือไม่นั้น น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ทีโอทีและกสท ไปจัดทำแผนการใช้คลื่นความถี่ที่มีอยู่ทั้งหมดแล้วว่า จะดำเนินการอย่างไรและมีเหตุผลและความจำเป็นในการใช้คลื่นอย่างไร เพื่อประกอบการพิจารณาว่าจะคืนคลื่นความถี่หรือไม่ ขณะเดียวกันได้เร่งหารือกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสอบถามความเห็นจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย เพื่อความชัดเจนในประเด็นดังกล่าว เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการดำเนินการต่อไป

"คลื่นความถี่เป็นสมบัติของชาติ ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเมื่อทีโอทีและกสท เป็นของรัฐ ประชาชนเป็นเจ้าของรัฐ ฉะนั้นการนำคลื่นความถี่ที่มีอยู่ มาสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติและประชาชน ทีโอทีและกสท ก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะดำเนินการ ส่วนกรณี กสทช.ให้คืนความถี่หลังสัญญาสัมปทานสิ้นสุดแล้วจะนำคลื่นไปจัดสรร ใหม่ด้วยวิธีการประมูล เพื่อนำรายได้เข้ารัฐนั้น ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่ง แต่หากทีโอทีและกสทมีโครงข่ายโทรคมนาคมให้บริการทั่วถึงในราคาที่เหมาะสม ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ ฉะนั้นก็ต้องพิจารณาให้ละเอียดและรอบคอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน ซึ่งทีโอทีและกสทก็ถือว่าได้ปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย" รมว.ไอซีที กล่าว.

 

 

  • 26 กรกฎาคม 2555, 03:09 น.







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน