"วัชระ เพชรทอง" ส.ส.ปชป. จี้สภาฯ ตั้ง กก.สอบหาตัวการเรียกค่าต๋ง 20% สร้างสภาฯ ใหม่  ด้าน “เจริญ” ป้อง “ขุนค้อน” ยังไม่ได้ประมูล เรียกรับผลประโยชน์อย่างไร... 

วันที่ 8 พ.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน โดยก่อนเข้าสู่วาระกระทู้ถาม นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ หารือว่ามีกระแสข่าวบุคคลอ้างตัว เป็นคนของ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรียกรับ 20 เปอร์เซ็นต์ จากผู้รับเหมาก่อสร้าง 2 บริษัท ที่ผ่านการคัดเลือกคุณสมบัติ เข้าประมูลก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ และให้จ่ายก่อน 10 เปอร์เซ็นต์ ในวันเซ็นสัญญา รวมถึงยังขอให้ช่วยบริจาคทอดกฐินส่วนตัวของประธานฯ คนละ 3 แสนบาท และได้จ่ายไปแล้ว ซึ่งเป็นงานทอดกฐินสามัคคี ที่จะมีขึ้นในวันที่ 10-11 พ.ย. โดยนายสมศักดิ์เป็นประธานทอดถวายวัดแจ้งสว่างนอก บ้านโนนหัน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น มีการอ้างชื่อประธานสภาฯ และยังบังคับร่วมทำบุญอีก จะชี้แจงเรื่องนี้อย่างไร 

นายเจริญ ชี้แจงว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ ในเมื่อยังไม่มีการประมูล ตนได้รับมอบหมายจากประธานฯ ให้ดูแลความถูกต้องเรียบร้อย การส่งมอบพื้นที่ทั้งหมด และตนเป็นคนทักท้วงเองว่า การที่รัฐสภาจ่ายเงินชดเชยแก่หน่วยทหารแล้ว ให้เขาไปจัดจ้างบริษัทภายนอกมาดำเนินการเอง ทำไมรัฐสภาไม่ดำเนินการเอง ถ้าท่านเป็นนักกฎหมายจะเข้าใจว่า เมื่อเรามอบเงินไปให้กับคู่สัญญา ซึ่งวันนี้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อมอบสัญญาตามที่กำหนดแล้ว คู่สัญญาก็จะขอขยายเวลารัฐสภาเอง ก็ได้แต่นั่งดูเฉยๆ ทำอะไรไม่ได้ 

ทั้งนี้ ตนจึงแก้ปัญหาคุยกับทางทหารว่า ในวันที่ 5 ธ.ค. ซึ่งถือเป็นวันดี จะได้ลงนามระหว่างรัฐสภากับทหารในการส่งมอบพื้นที่ การระบุว่ามีการเรียกเงินจากผู้รับเหมาจึงเป็นไปไม่ได้ เพราะยังมีการประมูลใดๆ ทั้งสิ้น และตนยังให้ความเห็นต่อประธานฯ เองว่าหากประมูลตอนนี้ อาจเกิดปัญหาเหมือนส่วนราชการอื่นที่ประมูลไปก่อสร้างไป พอถึงเวลาไม่มีการส่งมอบพื้นที่ รัฐสภาเองจะเป็นผู้ผิดสัญญาถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย ซึ่งตนได้ประสาน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ให้ช่วยหารือกับทาง กทม. ที่มีพื้นที่เดียวคือ ห้องสมุดของ กทม. ที่ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะส่งมอบพื้นที่เมื่อไร ทั้งที่รัฐสภาจ่ายชดเชยไปแล้ว 140 ล้านบาท แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเลย ทุกพื้นที่ต้องส่งมอบพื้นที่ได้ชัดเจนจึงจะเริ่มการประมูลได้

อย่างไรก็ตาม นายวัชระ กล่าวว่า รัฐสภาเราเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เราเคยได้ยินแต่การคอรัปชันในฝ่ายบริหาร แต่ไม่เคยได้ยินการคอรัปชันในฝ่ายนิติบัญญัติมาก่อน จึงวิตกกังวลแทนเกียรติภูมิรัฐสภาไทย ขอให้ประธานสภาฯ ได้ชี้แจงในเรื่องนี้ด้วยว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร และให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบต่อไป 

ขณะที่นายเจริญ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีการพิสูจน์ก็กล่าวหากัน ทั้งที่เรื่องยังไม่มีมูลเลย