"พ่อเมือง" ต้องระวัง เตรียมตัวชิงเก้าอี้
วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2555
ตามที่ทราบกันว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) คนปัจจุบันก็ทำงานมาถึงช่วงสุดท้าย และจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 10 ม.ค. 2556 ซึ่งเป็นการพ้นจากตำแหน่งตามกฎหมาย หรือหากจะเป็นทางการก็คือตามพระราชบัญญัติระเบียบกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ. 2542 เมื่อทำงานครบ 4 ปี
แต่ทั้งนี้เนื่องจากกรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่การปกครองแบบพิเศษ ดังนั้นผู้ว่าฯ กทม. จึงต้องมาจากการเลือกตั้งด้วยสิทธิและเสียงของคนกรุงเทพฯ เอง โดยสถานการณ์การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ถือเป็นสมรภูมิการแข่งขันทางการเมืองที่สำคัญ แม้จะถูกเรียกว่าเป็นการเมืองสนามเล็ก แต่การแข่งขันไม่ได้เล็กตามไปด้วย เพราะการเลือกผู้ว่าฯ กทม. ถือเป็นการกำหนดทิศทางของชีวิตคนกรุงเทพฯ ได้เลย ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 มาตรา 7 บัญญัติให้คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ภายใน 45 วันนับแต่วันครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี หรือหากจะมีการลาออกก่อนครบวาระก่อนวันที่ 10 ม.ค. 56 จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ภายใน 60 วันนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง
แต่ไม่ว่าการพ้นตำแหน่งในครั้งนี้จะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม แต่สิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่เตรียมตัวจะลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. คนต่อไป ที่อาจจะต้องเริ่มระมัดระวังตั้งแต่ตอนนี้คือข้อที่ห้ามมิให้กระทำภายใน 60 วัน ก่อนวันครบวาระการดำรงตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งก็คือเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. 55 เป็นต้นไปจนเสร็จสิ้นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. โดยข้อห้ามดังกล่าวนี้จะไม่ใช่เป็นการกำหนดเฉพาะผู้ว่าฯ กทม. คนปัจจุบันที่จะลงสมัครอีกสมัยหนึ่งเท่านั้น แต่จะใช้บังคับกับผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งทุกคนเช่นเดียวกันจึงควรระมัดระวังให้ดี มิฉะนั้นอาจจะกระทำผิดกฎหมายและถูกตัดสิทธิได้
ตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวประกอบกับประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องวิธีการหรือลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2551 ข้อ 6 บัญญัติว่า เมื่อมีการประกาศให้มีการเลือกตั้งอันเนื่องมาจากการครบวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการหรืออาศัยผู้ใดกระทำการเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น หรือให้งดเว้นการลงคะแนนเลือกตั้งแก่ผู้สมัครใดภายใน 60 วัน ก่อนวันครบวาระการดำรงตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้งด้วยวิธีการดังนี้ 1. จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เช่น งานวันเกิด งานบวช งานโกนจุก งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ งานบุญงานเทศกาล งานขึ้นปีใหม่ หรืองานศพ เป็นต้น 2. ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่า โดยทางตรงหรือทางอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด มัสยิด สุเหร่า ศาลเจ้า โรงเจ โบสถ์คริสต์ โบสถ์พราหมณ์ สำนักปฏิบัติธรรม สถาบันการศึกษา สถานสงเคราะห์ ชุมนุม ชมรม สโมสรหรือสถาบันอื่นใดที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศ เช่น การบริจาคเงิน การประมูลทรัพย์สิน หรือสิ่งของในงานกุศลต่าง ๆ เป็นต้น 3. โฆษณาหาเสียงเลือกตั้งด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่าง ๆ รวมทั้งการแสดงและการละเล่นอื่น ๆ 4. เลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใด 5. หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพล คุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในเรื่องใดอันเกี่ยวกับผู้สมัครใด เช่น การปราศรัยด้วยข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เป็นต้น และที่สำคัญให้คิดค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ดังนั้น ในส่วนของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. คนปัจจุบัน ที่ได้เคยประกาศว่าจะลงสมัครเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 และเพื่อไม่ให้เป็นการกระทำผิดกฎหมายจึงได้สั่งการให้ข้าราชการ กทม. ปลดป้ายประชาสัมพันธ์ต่าง ๆที่ติดตั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งหมดว่า ป้ายใดที่มีข้อความแสดงชื่อ ตำแหน่ง รูปภาพ และลายเซ็นของผู้ว่าฯ กทม. คณะผู้บริหารฝ่ายการเมือง ให้ทำการรื้อถอน ยกเว้นป้ายประชาสัมพันธ์ที่เป็นนโยบายหรือโครงการ ของ กทม. ที่ไม่แสดงรูปภาพ ชื่อ ตำแหน่ง หรือลายเซ็น ของผู้ว่าฯ กทม. และคณะไปแล้วตั้งแต่ก่อนวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา
นอกจากในส่วนของผู้สมัครแล้ว ผู้ที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือข้าราชการ กทม. ที่เกี่ยวข้องโดยตรง เนื่องจากอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมเพื่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ แต่ปัจจุบันยังต้องเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้ว่าฯ กทม. คนปัจจุบัน จึงเป็นช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกัน ซึ่งอาจจะเกิดความยากลำบากในการทำงานที่อาจจะส่งผลกับการเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งนางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัด กทม. ได้ออกหนังสือให้หน่วยงาน กทม. งดจัดโครงการเกี่ยวกับมวลชนและวางตัวเป็นกลางทางการเมืองในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ตาม พระราชบัญญัติดังกล่าวประกอบกับประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง วิธีการหรือลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น พ.ศ. 2551 ข้อ 6 บัญญัติว่า เมื่อมีการประกาศให้มีการเลือกตั้งอันเนื่องมาจากการครบวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดยในหน่วยงานและส่วนราชการของ กทม. ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้ คือ ให้ข้าราชการและลูกจ้างในสังกัดวางตัวเป็นกลางทางการเมืองโดยเคร่งครัดและให้ใช้ความระมัดระวังในการไปร่วมกิจกรรมมวลชนต่าง ๆ ตลอดจนระมัดระวังการใช้ตำแหน่งหน้าที่กระทำการใด ๆ อันเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ งดจัดโครงการเกี่ยวกับการประชุม อบรม สัมมนา ทัศนศึกษาดูงาน ตลอดจนการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับมวลชน จนเสร็จสิ้นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ยกเว้นงานพระราชพิธี งานประเพณีสำคัญที่จัดเป็นประจำทุกปี หรือกิจกรรมที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ ซึ่งถ้าหากไม่ดำเนินการอาจเกิดความเสียหายแก่ราชการให้หน่วยงานหรือส่วนราชการพิจารณาดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ระมัดระวังอย่าให้มีการหาเสียงทางการเมือง หรือเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อบุคคลใด จนทำให้เสียความเป็นกลางทางการเมือง รวมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องวางตัวเป็นกลางทางการเมืองโดยเคร่งครัด
