ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




ติด1ใน6หลักสูตรทางวิชาการ "หลักสูตรพตส."

ติด1ใน6หลักสูตรทางวิชาการ "หลักสูตรพตส."

 

วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2555 เวลา 11:49 น.
 
            วันนี้ ( 1 ธ.ค.) ที่โรงแรมโกลด์เมาท์เท่น วังนำเขียว นายอภิชาติ สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ และนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม ได้ร่วมจัดการอบรมหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูงรุ่นที่ 4 (พตส.4) โดยนายอภิชาติ กล่าวว่า เรามีความตั้งใจในการทำงานเมื่อเข้ามาเป็นกกต.แล้วก็พยายามที่จะทำทุกอย่าง เพื่อประโยชน์ของประเทศ แต่การเลือกตั้งมักมีปัญหาที่สำคัญคือเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง ซึ่งเราต้องช่วยกันลำพังเพียงแค่คนของกกต.ไม่เพียงพอ เพราะมีอยู่2,500 คนทั่วประเทศ ปัญหาที่เราต้องช่วยกันแก้คือทำอย่างไร ให้การเลือกตั้งมีความสุจริตและเที่ยงธรรม ปราศจากการซื้อสิทธิขายเสียง

           ทุกวันนี้ความขัดแย้งมีมากขึ้นแต่หลักสูตรพตส.ที่เราทำขึ้นนั้น เพื่อต้องการเปิดโอกาสให้บุคคลเข้ามามีส่วรร่วมโดยไม่จำกัดสีไม่จำกัดฝ่าย เปิดโอกาสทางความคิดที่แตกต่างกันมาแสดงความคิดเห็นร่วมกันเพื่อหาทางแก้ไขให้กับประเทศชาติ ดังนั้นจึงคาดหวังว่าผู้ที่เข้ามาร่วมในหลักสูตรเมื่อจบออกไปแล้วก็ต่างคนต่างไปทำหน้าที่ตามบทบาทอำนาจของตัวเองเพื่อไปพัฒนาประเทศต่อไป อย่างไรก็ตามกกต.ชุดนี้เห็นว่าหลักสูตรนี้มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ จึงหวังว่าอยากให้มีการสานต่อหลักสูตรนี้ต่อไปให้ยังยืน แม้ว่ากกต.ชุดนี้จะหมดวาระลงไปก็ตาม อย่างไรก็ตามอยากให้นักศึกษาทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องเวลาเรียนให้ได้ถึง 75% เพราะก่อนหน้านี้มีผู้มาลงเรียนแต่ไม่จบเพราะเวลาไม่พอซึ่งเป็นที่น่าเสียดายโอกาสที่ได้เข้ามาเรียนแล้ว

           ด้านนางสดศรี กล่าวว่า  หลักสูตรของเราที่จัดขึ้นติดหนึ่งใน 6 ของประเทศที่เป็นหลักสูตรในด้านวิชาการ ซึ่งเรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก และในเวลาปี้ในบรรดาหลักสูตรต่างด้วยกันนี้ได้ให้เราเป็นเจ้าภพในการจัดงานด้านวิชาการ ซึ่งเป็นที่ภาคภูมิใจ ที่ขณะนี้กกต.ได้เดินมาถูกทางแล้ว ต้องทำงานเชิญรุก เพื่อสร้างเครือข่าย เพื่อเผยแพร่การทำงานของกกต.และเป็นปากเสียงให้กับกกต. ต่อไป รวมทั้งต้องการให้ประชาชนที่อยู่ภายนอกเข้าใจบทบาทการทำหน้าที่ของกกต. ที่ก่อนหน้ากกต.ถูกโจมตี ไม่มีใครเห็นผลงานของกกต.ว่าเป็นอย่างไร แต่เมื่อรัฐธรรมนูญปี 50 เปิดโอกาสให้กกต.มีหน้าที่ให้ความรู้แก่ประชาชน เมื่อเราเห็นว่าเรามีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแล้ว จึงได้เปิดหลักสูตรนี้ขึ้นมา ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ได้ฝ่าฝันอุปสรรคอย่างมาก รวมทั้งมีคนไปร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า เราไม่สามารถจัดทำหลักสูตรเองได้แต่เราก็ยื่นยันว่าสามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญกำหนด

           นางสดศรี กล่าวอีกว่า มีคนครหาว่าเราจัดหลักสูตรขึ้นมาเพื่อสร้างคอนเน็คชั่นให้แก่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเราจัดหลักสูตรมาเพื่อเผยแพร่วิธีการจัดการเลือกตั้งของกกต.ว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาเรียนในหลักสูตรนี้ได้สังเกตการณ์ว่าการซื้อสิทธิขายเสียงในการจัดการเลือกตั้งเขาทำกันอย่างไร เพื่อที่เราจะได้มาระดมความคิดและจะได้มาแก้ไขเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียให้หมดไป ส่วนรื่องการสร้างคอนเน็คชั่นนั้นก็ห้ามไม่ได้เป็นเรื่องของส่วนบุคคล ซึ่งกกต.ไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย และจะให้แต่ความรู้ และอยากให้นักศึกษามาช่วยกันคิดว่าทำไมประชาชนถึงอยากจะแช่แข็งนักกรเมือง ทำไมประชาชนถึงไม่ชอบนักการเมือง เราต้องมาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความศรัทธาต่อนัการเมือง

           ขณะที่นายวิสุทธิ  กล่าวว่า ความคาดหวังที่ทำให้ผู้ที่มาศึกษาหลักสูตรพตส.ก็เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน ในการทำงานของกกต. เพื่อให้ช่วยกันสร้างและพัฒนาให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรื่อง เพราะในสายตาของคนนอกประเทศ จะได้มีความเชื่อมันในประเทศของเรา ดังนั้นเราต้องร่วมกันสร้างประเทศให้เกิดความเชื่อมั่น ทั้งนี้กกต.เป็นองคาพยบหนึ่งที่ต้องจัดการเลือกตั้ง ให้เกิดประชาธิปไตยที่ทั่วโลกต้องยอมรับในแบบสากล ซึ่งสังคมมุ่งหวังว่าให้กกต.ต้องทำตามกฎหมาย แต่บางที่การปฏิบัติตามกฎหมายก็ทำได้อยาก เพราะบางปฏิบัติงานก็พบอุปสรรค อย่างไรก็ตามความแรงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้นเป็นเพราะการใช้เหตุผลกันมากขึ้น นอกจากนี้อยากให้นักศึกษาพยามยามสร้างความคิดในรูปแบบประชาธิปไตย







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน