ชะพลู หรือ ช้าพลู
ชะพลู..เป็นพืชสมุนไพรที่นำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหารของคนไทยมาแต่ครั้งโบราณ ส่วนชะพลูจะมีสรรพคุณอย่างไรบ้างนั้นลองติดตามกันได้นะคะ...!
ชะพลู..มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “Piper sarmentosum Roxb” และมีชื่ออื่นๆ ที่ใช้เรียกขานกันในแต่ละท้องถิ่นว่า ภาคใต้เรียก “นมวา” ภาคเหนือเรียก “ผักปูนา ผักพลูนก พลูลิง” ชาวกะเหรี่ยงแม่อ่องสอนเรียก “เย่เท้ย”
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นทอดคลานไปตามพื้นดินสูง 30-80 ซ.ม. ลำต้นมีสีเขียว มีไหลงอกเป็นต้นใหม่ได้ มีรากงอกออกตามข้อ ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับ แผ่นใบบางผิวใบเรียบสีเขียวเข้มเป็นมัน ใบเป็นรูปหัวใจกว้าง 5-10 ซ.ม. ยาว 7-15 ซ.ม. ปลายใบแหลม โคนใบเว้า ดอกออกเป็นช่อ ที่ซอกใบเป็นรูปทรงกระบอก ดอกเล็กสีขาวอัดแน่นอยู่บนแกนช่อดอก ดอกแยกเพศ ผลเป็นผลสดกลมอัดแน่นอยู่บนแกน
ส่วนที่ใช้ ผล ใบ ทั้งต้น ราก
สรรพคุณ
ผล เป็นส่วนผสมของยารักษาโรคหืด แก้บิด
ราก ต้น ดอก ใบ ขับเสมหะ ราก แก้ธาตุพิการ บำรุงธาตุ แก้ท้องขึ้นอืดเฟ้อขับลม แก้บิด ท้องอืด ท้องเฟ้อ รักษาโรคเบาหวาน
วิธีและปริมาณที่ใช้
รักษาโรคเบาหวาน ใช้ชะพลูสดจำนวน 7 ต้น ล้างน้ำให้สะอาด ใส่น้ำพอท่วมต้มให้เดือดสักพัก นำมาดื่มเหมือนดื่มน้ำชา
ข้อควรระวัง จะต้องตรวจน้ำตาลในปัสสาวะก่อนดื่มและหลังดื่มทุกครั้ง เพราะว่าน้ำยานี้จะทำให้น้ำตาลลดลงเร็วมาก ต้องเปลี่ยนต้นชะพลูใหม่ทุกวันที่ต้ม ต้มดื่มต่อไปทุกๆ วันจนกว่าจะหาย
แก้ท้องอืดเฟ้อ..ขับลม ใช้ราก 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้ว เคี่ยวให้เหลือหนึ่งถ้วยครึ่ง รับประประทานครั้งละ 1/2 ถ้วยแก้ว
แก้บิด ใช้รากครึ่งกำมือ ผล 2-3 หยิบมือ ต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้ว เคี่ยวให้เหลือ 1 ถ้วยแก้ว รับประทานครั้งละ 1/4 ถ้วยแก้ว
และนี่ก็คือประโยชน์จาก “ชะพลู” สมุนไพรไทย ที่นอกจากจะนำมาใช้ปรุงเป็นอาหารแล้ว ก็ยังมีสรรพคุณใช้เป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย...!
