ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




"อภิสิทธิ์-สุเทพ" ปฏิเสธตลอดข้อหา ยันไม่มาดีเอสไออีกแล้ว article

"อภิสิทธิ์-สุเทพ" ปฏิเสธตลอดข้อหา ยันไม่มาดีเอสไออีกแล้ว

 วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 เวลา 19:06 น.

              เมื่อเวลา 17.45 น. วันนี้ (13 ธ.ค.)  ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอ หลัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯได้ให้การกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ 3 ชั่วโมง 30 นาที และเสร็จสิ้นกระบวนการรับทราบข้อกล่าวหา นายอภิสิทธิ์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตนเดินทางมาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา 3 คดี คือ คดีที่ตนบริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์ โดยไม่มีการเซ็นเช็คทำให้เงินบริจาคไม่มีที่มาที่ไป ซึ่งทางดีเอสไออ้างว่าเป็นการทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง ทั้งนี้คดีนี้ต้องรู้แหล่งที่มาที่ไป เพราะตนให้สภาผู้แทนราษฎรหักเงินบริจาคจากเงินเดือนของตน  20,000 บาท ซึ่งทางดีเอสไอกล่าวหาว่าตนทำผิด 21 กรรม เพราะตนหักเงินเดือนของตนบริจาคพรรคการเมืองรวม 21 เดือน ซึ่งตนขอปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวเพราะเงินดังกล่าวแม้จะไม่มีการเซ็นเช็คแต่ก็มีที่มาที่ไปตรวจสอบได้


            นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า คดีต่อมาคือ คดีเหตุการณ์สลายม็อบ เมื่อเดือนพ.ค.53 กรณีการเสียชีวิตของนายพัน คำกอง ซึ่งตนกับนายสุเทพ ก็ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา แต่ตนไม่เข้าใจว่าข้อกล่าวหานี้เป็นการกล่าวหาตนในฐานะนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งทางดีเอสไอบอกว่าไม่ได้กล่าวหาในฐานะนายกรัฐมนตรี แต่กลับบรรยายพฤติการณ์ของตนในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งขัดกันเอง ตนจึงรับทราบข้อกล่าวหาในคดีนี้ แต่ขอปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ และขอยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรซึ่งทางดีเอสไออนุญาตให้ตนสามารถยื่นเพิ่มเติมได้ใน 45 วัน เพราะทางดีเอสไอละเว้นข้อเท็จจริงในการบรรยายพฤติการณ์การชุมนุมไม่กล่าวถึงผู้ก่อการร้าย นอกจากนี้ยังไม่ได้บรรยายถึงคำวินิจฉัยของศาลที่บอกว่าการชุมนุมเมื่อเดือนพฤษภาคม 2553 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงยังมีรายละเอียดที่คลาดเคลื่อนไป เช่น เหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 53 ทางกลุ่มผู้ชุมนุมนปช.ยอมสลายการชุมนุมแล้ว แต่ตนไม่เจรจายังเดินหน้าสลายการชุมนุมอีก

             หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ทางนายสุเทพไม่ให้การเพิ่มเติมแล้ว ส่วนตนจะตอบคำให้การเพิ่มเติม โดยดูเอกสารแจ้งข้อกล่าวหาทางการอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ตนและนายสุเทพไม่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง 4 ข้อที่ทางดีเอสไอกำหนดไว้ ดังนั้นการขึ้นเวทีเดินหน้าผ่าความจริงของพรรค ก็ยังทำได้เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ตนยืนยันว่าจะไม่ยุ่งกับหลักฐาน หรือทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ซึ่งเมื่อตนไม่ได้ลงนาม 4 ข้อที่ทางดีเอสไอกำหนดไว้ ทางดีเอสไอก็ได้เตือนไม่ให้ทำผิดข้อตกลง 4 ข้อดังกล่าว ส่วนเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศ ทางดีเอสไอจะได้ตรวจสอบว่าเดินทางไปที่ไหน แต่ต่อไปนี้ตนจะไม่มาพบทางดีเอสไอแล้ว จะส่งคำให้การมาเป็นลายลักษณ์อักษรมาแทน

            นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า สำหรับคดีที่ 3 ตนมาเป็นพยานในคดีเงินบริจาคน้ำท่วม ซึ่งมีการกล่าวหาว่าตนรับบริจาคเงินน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา เรื่องนี้ตนได้แจ้งกับทางกกต.ไปแล้ว และเรื่องนี้ไม่ได้เป็นกิจกรรมของพรรคการเมือง ดังนั้นข้อกล่าวหาในคดีทั้งหมด ตนขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนก็จะไปพิจารณาต่อ และมีความเห็นต่ออัยการต่อไปว่าจะส่งฟ้องหรือไม่ฟ้องต่อศาล ทั้งนี้ข้อกล่าวหาทั้งหมด ตนจะขอตรวจสอบรายชื่อคนที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนทั้งหมด เพื่อดูว่าเป็นคดีพิเศษได้อย่างไร สำหรับขั้นตอนการต่อสู้ในคดีก็จะเป็นไปตามกฎหมาย โดยจะใช้สิทธิตามกฎหมายเพื่อความเป็นธรรม ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า การแจ้งข้อกล่าวดังกล่าวเป็นมติ 3 ฝ่าย คือทางตำรวจ ดีเอสไอ และอัยการ แต่ทางอัยการเพียงแค่มาปรึกษาหารือเท่านั้น แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย มีคนพยายามให้ตนเดินทางมาที่ดีเอสไออีก แต่ต่อไปนี้ตนจะไม่มาแล้ว เพราะพอแล้ว สำหรับบรรยากาศโดยรวมที่กรมสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอเป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลสถานการณ์โดยรวมเป็นปกติ.
 







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน