ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




บัญญัติ ชี้ การเมืองปี 56 เปลี่ยนแปลง จาก 3 ชนวนเหตุ

บัญญัติ ชี้ การเมืองปี 56 เปลี่ยนแปลง จาก 3 ชนวนเหตุ 

วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ.2555


 

           วันที่ 25 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์การเมืองปีหน้าว่าจะสุ่มเสี่ยงเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงทางการเมือง ตามที่ นายบุญเลิศ ไพรินทร์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา ที่ได้ทำนายเหตุการณ์การเมืองในปีหน้า จากการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ที่เน้นประชานิยม การสร้างภาระหนี้สินต่างๆ ที่อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ถึงขั้นอาจจะมีการยุบสภาในช่วงกลางปี หรือเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง 

           โดยสาเหตุที่สะท้อนให้เห็น 3 เหตุการณ์ คือ 1.การมุ่งประเด็นโยนความผิดเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมในปี 53 ที่ก่อให้เกิดการสูญเสีย 98 ศพ ว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ โดยนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ที่ต้องรับความผิด ทั้งที่รู้ว่าในแง่ของกฎหมายและการต่อสู้คดีในชั้นศาล ไม่สามารถเอาผิดได้ เพราะถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ ที่มีกฎหมายรองรับ แต่รัฐบาลยังใช้เป็นเครื่องมือต่างๆ ออกข่าวผ่านสื่อเพื่อทำลายชื่อเสียง และตีกินพื้นที่ข่าว สร้างความสับสนให้ประชาชนและสังคมต่อ

           2. กรณีของ นายราเมศ รัตนะเชวง ทีมทนายพรรค ที่ถูกประทุษร้ายเอาชีวิตจนบาดเจ็บสาหัส ชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลกำลังย้อนไปสู่ยุค พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ยึดคติว่า ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ ด้วยการข่มขู่ประชาชนต่างๆ นานา 

           3. กรณีปมใหญ่คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลรณรงค์อ้างว่ารัฐธรรมนูญปัจจุบันไม่เป็นประชาธิปไตย ทั้งที่ผ่านมาหลายรัฐบาลก็ใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ มาได้โดยตลอด และเป็นรัฐธรรมนูญที่ผ่านการทำประชามติด้วย ครั้งนี้ จึงเป็นการพิสูจน์คนไทยว่าจะออกมาทำประชามติให้มีการแก้ไขหรือไม่ เพราะรัฐบาลมีพฤติกรรมชัดเจนว่า จะมุ่งทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

           นายบัญญัติ กล่าววิเคราะห์ต่อว่า ในการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่เขาใหญ่ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า คนเสื้อแดงและ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เป็นคนเนื้อเดียวกันแล้ว เพราะแกนนำเสื้อแดงบอกให้โหวตวาระ 3 ไปเลย โดยไม่ต้องทำประชามติ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบอกให้ทำประชามติให้ถูกต้องขั้นตอนตามที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด เพราะรู้ว่าถ้าไม่ทำจะมีคนไปยื่นฟ้องศาล ทำให้เสียเวลาในการกลับบ้าน 

           นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเชื่อว่าจะสามารถระดมเสียง ให้คนออกมาใช้สิทธิ์ตามที่กฎหมายกำหนดคือ เกิน 24.7 ล้านเสียง เพราะถือว่ามีอำนาจรัฐอยู่ในมือ ที่สุดแล้วก็จะมีการข่มขู่ข้าราชการประจำ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายอำเภอ ผู้ว่าราชการ จะต้องเกณฑ์ระดมคนมาให้เกิน 60-70 เปอร์เซ็นต์ ของแต่ละพื้นที่ คือทุ่มสรรพกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ หากไม่เข้าเป้าก็จะมีการโยกย้ายเหมือนกับที่เคยทำมาในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ตีแตกข้าราชการ ด้วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระทรวงต่างๆ 

           อีกทั้งยังมีการให้ ส.ส. ในพื้นที่ทุ่มเทสรรพกำลัง ในการระดมคนออกมาทำประชามติ อิงแอบไปกับผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ เช่น ถ้าพื้นที่ไหนไม่เข้าเป้า ครั้งหน้าไม่ส่งลงเลือกตั้ง ซึ่งทั้งหมดจะเป็นตัวทวีให้เดินไปสู่ความขัดแย้ง จะมีกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกมา รวมตัวกันเหมือนปรากฏการณ์ "ม็อบ เสธ.อ้าย" ที่ผ่านมา จึงขอให้ ส.ส. และสมาชิกพรรค จับตาการทำประชามติว่ามีพฤติกรรมดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร และแจ้งให้พรรคทราบ.







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน